อ่านบันทึกท่านอัยการชาวเกาะ ที่ท่านบันทึกถึงน้องเนติ์ ลูกชายของท่านตั้งแต่แรกเกิด น่าประทับใจมากๆเลยค่ะ ทำให้นึกถึงครอบครัวเราเองที่มีลูกชายตั้ง 3 หน่อ สมัยพี่วั้น พี่เหน่นเล็กๆ คุณแม่ก็จะช่างบันทึกค่ะ เก็บทั้งบันทึกตัวเองและบันทึกของพี่เลี้ยงที่ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย ของคณะพยาบาลศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ ที่มีรายละเอียดว่าน้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน เก็บมาตลอด แล้วก็พยายามเก็บผลงานลูกๆที่คิดว่าเขาคงจะจำไม่ได้แล้วเมื่อโตขึ้น เอาไว้มากมายค่ะ วางแผนเอาไว้ว่าจะรวบรวมให้เจ้าตัวเขาในวันที่เขาเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
อ่านเหตุผลท่านอัยการชาวเกาะที่บันทึกไว้ ส่วนหนึ่งเพื่อบอกให้ลูกได้รับรู้ว่า พ่อแม่รักลูกขนาดไหน ในยามวัยรุ่นที่บางครั้งเราอาจจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็จะได้ไม่มีปัญหาและท่านก็ยืนยันว่าช่วยได้จริงๆ
สำหรับตัวเองแล้วเห็นด้วยอย่างยิ่งเรื่องการแสดงออกค่ะ เราต้องทำให้ลูกรับรู้เสมอว่า เรารักเขามากขนาดไหน ไม่มีเงื่อนไขใดๆเลย ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไรเราก็จะรักเขาเสมอ เชื่อมั่นค่ะว่า เรารักลูกได้โดยที่ยังคงยึดถือความถูกต้อง เที่ยงตรง ไม่ใช่ลูกทำผิดแล้วเข้าข้างว่าไม่ผิด แต่เราต้องมีวิธีการที่จะสอนลูกให้เขารับรู้ความถูกผิด รู้ว่าอะไรควรไม่ควร แต่การตัดสินใจเลือกทำหรือไม่ทำอะไรนั้น เป็นเรื่องของเขาที่เราต้องเคารพ ด้วยความเชื่อมั่นว่าเขามีเหตุมีผลด้วยตัวของเขาเอง
มาถึงวันนี้ที่ 2 หนุ่มแรกพ้นวัยรุ่นแรกมาแล้ว กำลังเข้าสู่วัยรุ่นตอนปลาย บอกได้ว่าสิ่งที่ทำมาตลอด 10 กว่าปีนั้นบรรลุผลตามที่ตั้งใจค่ะ ลูกเป็นคนดีตามสมควร ไม่มีปัญหาพูดคุยกับเราไม่รู้เรื่อง แม้จะมีผิดหูผิดใจกันบ้างก็เป็นเรื่องที่เป็นไปตามสภาวะธรรมดาของอารมณ์ทั่วๆไป สิ่งที่เราต้องระวังเสมอก็คือ จะสื่อสารกับลูกอย่างตรงไปตรงมา ไม่ประชดประชัน เปรียบเทียบเปรียบเปรย อยากให้เขาทำอะไร เพราะอะไรก็จะบอกอย่างนั้น ส่วนหนุ่มน้อยสุดท้องที่กำลังเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ก็มีทีท่าของความเป็นตัวเองสูงมาก แต่ก็สบายใจได้ว่าเขามีเหตุมีผล รู้คิดมากและคงจะผ่านพ้นวัยรุ่นไปได้อย่างสบายๆเช่นกัน
มาย้ำในบันทึกนี้เช่นเดียวกับที่ท่านอัยการชาวเกาะยืนยันค่ะว่า เราต้องแสดงออกให้ลูกรู้ว่าเรารักเขา กอดได้กอด บอกได้บอก และต้องซื่อสัตย์ตรงไปตรงมากับลูก หากเขาทำอะไรไม่ดีก็ต้องบอกว่าไม่ดี แต่การแสดงออกทุกอย่างต้องตั้งมั่นอยู่ในแนวคิดบวก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรฝึกหัดทำให้เป็นนิสัยอยู่แล้วกับทุกคนรอบๆตัวเรา และไม่เคยสายไปที่จะแสดงออกค่ะ ใครๆก็รู้ว่าพ่อแม่รักลูก แต่ลูกต้องการมากกว่าความรู้สึก เราต้องแสดงออกให้เขารับรู้ และทางที่ง่ายที่สุดก็คือการกอดและการพูดจาที่สื่อสารให้ลูกรู้อย่างตรงไปตรงมาด้วยคำพูดที่เราเองก็ต้องรู้สึกดีๆด้วย มาช่วยกันสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงให้กับลูกๆ เด็กๆในปกครองของเรากันเถิดนะคะ
ขอบคุณมากครับสำหรับแนวคิดดี ๆ และจะนำไปใช้ครับ
การกระทำสำคัญกว่าคำพูดค่า
^_^
สวัสดีค่ะ พี่โอ๋
เห็นด้วยเลยค่ะ เราต้องแสดงออกให้เขารู้ว่ารัก กอด หอม บอก อันนี้เราทำประจำเลยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณค่ะป้าโอ๋
+ สวัสดีค่ะพี่ +ป้าโอ๋.....
+ วันนี้อ๋อยมาอยู่เวรที่ ร.ร. ค่ะ....เลยทำใจร่ม ๆ กับเน็ตของ ร.ร. แล้วก็เข้ามาอ่านบันทึกย้อนหลังของพี่โอ๋....
+ ขอบคุณมากค่ะ " สื่อสารกับลูกอย่างตรงไปตรงมา ไม่ประชดประชัน เปรียบเทียบเปรียบเปรย อยากให้เขาทำอะไร เพราะอะไรก็จะบอกอย่างนั้น "
+ ขอบคุณมากมายจริง ๆ ค่ะ....
+ ตอนนี้แอมแปร์ดตขึ้นเยอะมากเลยค่ะ...โตทั้งร่างกายและความคิดค่ะ....ช่วงนี้แอมแปร์เรียนปรับพื้นฐานค่ะ...ที่โรงเรียนกิตติวิทย์....
+ คิดถึงจังเลยค่ะ.....พี่โอ๋สบายดีไหมค่ะ....แต่ดูจากบันทึกแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรใช่ไหมค่ะ.....
+ ด้วยความคิดถึงค่ะ