สมศ. ประเมิน (สิ่งใด)มาตรฐานด้านดนตรี
สำหรับการประเมินคุณภาพมาตรฐานระดับชาติ ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ในรอบแรก (พ.ศ. ๒๕๔๓–๒๕๔๘)
………………………………….
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ได้กำหนดสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยเกี่ยวกับการศึกษา ให้บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า ๑๒ ปี ที่รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ โดยจัดให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งได้รับการตอบสนองอย่างเป็นรูปธรรม คือการประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้กำหนดอย่างชัดเจนถึงความมุ่งหมายและหลักการของการจัดการศึกษาที่ต้องมุ่งเน้นคุณภาพและมาตรฐาน โดยกำหนดรายละเอียดไว้ในหมวด ๖ มาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา ให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดให้มีการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษาที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยจัดทำรายงานเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน เป็นประจำทุกปี เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา เพื่อรองรับการประเมินคุณภาพภายนอก โดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา ซึ่งเป็นองค์การมหาชน เพื่อให้มีการตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา โดยสถานศึกษาทุกแห่งต้องได้รับการประเมินอย่างน้อย ๑ ครั้ง ในทุกระยะ ๕ ปี
มาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ใช้เป็นกรอบในการประเมินคุณภาพภายนอก และเป็นแนวทางให้หน่วยงานและสถานศึกษามุ่งพัฒนาการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการ ในคราวประชุมเมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๔๓ มีทั้งหมด ๒๗ มาตรฐาน ๙๑ ตัวบ่งชี้ โดยแบ่งออกเป็น ๓ ด้าน คือ
มาตรฐานการศึกษาด้านผู้เรียน มี ๑๒ มาตรฐาน ๓๘ ตัวบ่งชี้ เน้นพัฒนาการด้านจิตใจ
สติปัญญา อารมณ์และสังคม โดยมุ่งให้ผู้เรียนเป็นคนดี มีความสามารถตามศักยภาพและมีความสุข
มาตรฐานการศึกษาด้านกระบวนการ มี ๖ มาตรฐาน ๒๙ ตัวบ่งชี้ เน้นในด้านกระบวนการบริหารจัดการ และกระบวนการจัดการเรียนการสอน
มาตรฐานการศึกษาด้านปัจจัย มี ๙ มาตรฐาน ๒๔ ตัวบ่งชี้ เป็นการกำหนดคุณลักษณะหรือสภาพความพร้อมของผู้บริหาร ครู หลักสูตร อาคารสถานที่ และชุมชน
มาตรฐานทั้ง ๒๗ มาตรฐาน ๙๑ ตัวบ่งชี้นั้น เป็นทิศทางให้สถานศึกษาที่มีศักยภาพ และ มีความพร้อม ได้มุ่งมั่นพัฒนาการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้น และเพื่อรองรับการประเมินคุณภาพภายนอกในระยะต่อไป แต่ในช่วง ๕ ปีแรก หรือรอบแรกของการประเมิน ได้มีการคัดเลือกมาตรฐานมาเพียง ๑๔ มาตรฐาน ๕๓ ตัวบ่งชี้ โดยจัดแบ่งออกเป็น ๓ ด้าน คือ มาตรฐานด้านผู้เรียน ๗ มาตรฐาน ๒๒ ตัวบ่งชี้ มาตรฐานด้านครูมี ๒ มาตรฐาน ๕ ตัวบ่งชี้ มาตรฐานด้านผู้บริหารมี ๕ มาตรฐาน ๒๖ ตัวบ่งชี้
ในจำนวนมาตรฐานด้านผู้เรียน ๗ มาตรฐาน ๒๒ ตัวบ่งชี้นั้นปรากฏมาตรฐานที่ต้องประเมินเกี่ยวข้องกับดนตรี คือ มาตรฐานที่ ๑๒ กำหนดมาตรฐานดังนี้
ในช่วงแรกของการประเมินมาตรฐานด้านสุนทรียภาพ ด้านดนตรี สังเกตได้ว่า มาตรฐานกำหนดสุนทรียภาพดนตรีรวมไว้กับ ศิลปะ และกีฬาผลการประเมินในช่วงแรก จึงไม่ชัดเจนนัก ทั้งตัวบ่งชี้เพียงตัวเดียวที่กำหนดว่ามีความชื่นชมและร่วมกิจกรรม ศิลปะ ดนตรี กีฬา
เมื่อดำเนินการมาได้ระยะหนึ่ง สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ได้มีการทบทวน และในการประชุมคณะกรรมการบริหารครั้งที่ ๓/๒๕๔๗ เมื่อวันอังคารที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๔๗ และครั้งที่ ๕/๒๕๔๗ เมื่อวันอังคารที่ ๒๖ เมษายน ๒๔๗ ได้พิจารณาการปรับระบบและหลักเกณฑ์ ด้วยเห็นว่า การประเมินในระดับตัวบ่งชี้ตม ๑๔ มาตรฐาน ๕๓ ตัวบ่งชี้ นั้น ผู้ประเมินต้องใช้การวินิจฉัยสูงมาก จึงมีมติให้ปรับปรุงตัวบ่งชี้ในทุกมาตรฐานให้มีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยคงมาตรฐานการศึกษาในรอบแรกไว้ ๑๔ มาตรฐานเหมือนเดิม
ในส่วนมาตรฐานที่ ๑๒ มีการปรับปรุงมาตรฐานและตัวบ่งชี้ใหม่ ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ปรากฏดังนี้
๑๒.๑.๑ ร้อยละของผู้เรียนที่มีความชื่นชมและร่วมกิจกรรมศิลปะเป็นประจำอย่างน้อย ๑ อย่าง
๑๒.๑.๒ ร้อยละของนักเรียนที่มีความรักและสนใจงานศิลปะ และการวาดภาพ
๑๒.๑.๓ ร้อยละของนักเรียนที่มีผลงานด้านศิลปะและการวดภาพที่ตนเองภูมิใจ
๑๒.๑.๔ ร้อยละของผู้เรียนที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์งานศิลป์ได้
๑๒.๒ ผู้เรียนมีความชื่นชมและชอบกิจกรรมด้านศิลปะ
๑๒.๒.๑ ร้อยละของผู้เรียนที่มีความชื่นชมและร่วมกิจกรรมดนตรีเป็นประจำอย่างน้อย ๑ อย่าง
๑๒.๒.๒ ร้อยละของนักเรียนที่ชอบฟังดนตรี
๑๒.๒.๓ ร้อยละของนักเรียนที่ชอบการร้องเพลง
๑๒.๒.๔ ร้อยละของผู้เรียนที่มีผลงานด้านดนตรี/นาฏศิลป์
๑๒.๓.๑ ร้อยละของผู้เรียนที่มีความชื่นชมและร่วมกิจกรรมกีฬา/นันทนาการเป็นประจำอย่างน้อย ๑ ประเภท
๑๒.๓.๒ ร้อยละของนักเรียนที่ชอบดูกีฬาและดูกีฬาเป็น
๑๒.๓.๓ ร้อยละของนักเรียนที่รู้แพ้รู้ชนะ มีน้ำใจนักกีฬา
๑๒.๓.๔ ร้อยละของผู้เรียนที่มีผลงานด้านกีฬา/นันทนาการ
เกณฑ์การประเมินคุณภาพตัวบ่งชี้ จากค่าร้อยละเฉลี่ย (เกณฑ์ประเมินคุณภาพทั้ง ๓ ตัวบ่งชี้)
ปรับปรุง |
พอใช้ |
ดี |
ผู้เรียนต่ำกว่า ร้อยละ ๕๐ มีคุณลักษณะ ตามเกณฑ์การพิจารณา |
ผู้เรียนระหว่างร้อยละ ๕๐–๗๔ มีคุณลักษณะ ตามเกณฑ์การพิจารณา |
ผู้เรียนร้อยละ ๗๕ มีคุณลักษณะ ตามเกณฑ์การพิจารณา |
ในการประเมินคุณภาพตามมาตรฐาน ที่กำหนดว่าผู้เรียนมีสุนทรียภาพทางด้านดนตรี ตามกรอบมาตรฐานการประเมินคุณภาพภายนอกนั้น สถานศึกษาต้องเตรียมดำเนินการประกันคุณภาพภายใน ตามกรอบมาตรฐานดังนี้
๑. แสดงความตระหนักที่จะพัฒนาผู้เรียนให้มีสุนทรียภาพตามตัวบ่งชี้ด้านดนตรี ที่มาตรฐานกำหนด โดยสถานศึกษาต้องแสดงให้เห็นว่า ผู้เกี่ยวข้องอย่างน้อย ๓ กลุ่ม (ผู้บริหาร คณะกรรมการสถานศึกษา ครู ผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้อง) มีความตระหนักในการพัฒนาผู้เรียนตามตัวบ่งชี้ ของมาตรฐาน พร้อมทั้งมีหลักฐานยืนยัน เช่น นโยบายของสถานศึกษา รายงานการประเมินตนเอง เป็นต้น ที่แสดงว่าสถานศึกษามีความตระหนักเด่นชัด ถ้าไม่เป็นไปตามนี้ จะถือว่า ความตระหนักไม่เด่นชัด
๒. แสดงการปฏิบัติหรือความพยายามในการปฏิบัติกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนให้มีสุนทรียภาพ ทางดนตรี ซึ่งการมีข้อมูลยืนยันการปฏิบัติหรือความพยายามในการปฏิบัติที่เด่นชัด ใน ๕ ประเด็นสำคัญ คือ
๒.๑ แผนกลยุทธ์ ธรรมนูญโรงเรียน แผนการจัดโครงสร้างองค์กรของสถานศึกษาที่เอื้อต่อการพัฒนาผู้เรียนตามตัวบ่งชี้ของมาตรฐาน ซึ่งพิจารณาจากรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา การพูดคุยและสัมภาษณ์บุคลากรที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ผู้บริหาร คณะกรรมการสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้อง และข้อมูลที่ใช้ในการประเมิน เป็นต้น
๒.๒ มีการจัดโครงการ/กิจกรรมสำคัญทางด้านการบริหาร การเรียนการสอนและโครงงาน กิจกรรมเสริมหลักสูตร เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาตามตัวบ่งชี้ที่มาตรฐานกำหนด ซึ่งจะพิจารณาจากแผนของสถานศึกษา รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
๒.๓ มีภาคีเข้าร่วมหลากหลาย โดยเฉพาะผู้เรียนเข้าร่วมโครงการ/กิจกรรมนั้นมากน้อยเพียงใด
๒.๔ มีโครงการ/กิจกรรม เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะตามตัวบ่งชี้ที่มาตรฐาน กำหนดอย่างเป็นระบบและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ที่แสดงความยั่งยืนของการพัฒนาผู้เรียน
๒.๕ ผลการประเมินโครงการ/กิจกรรม ได้ผลตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพียงใด และเป็นที่พึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง โดยผู้เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๕ พึงพอใจ ต่อผลของโครงการ/กิจกรรมนั้น
๓. ผู้เรียนมีสุนทรียภาพทางดนตรีมากหรือน้อยเพียงใด จะพิจารณาระดับคุณภาพของ ผลสำเร็จของแต่ละตัวบ่งชี้ ตามมาตรฐาน จากค่าร้อยละ หรือร้อยละเฉลี่ยโดยใช้เกณฑ์ดังนี้
ร้อยละ ๗๕ ขึ้นไป ระดับคุณภาพ ดี
ร้อยละ ๕๐–๗๔ ระดับคุณภาพ พอใช้
ต่ำกว่าร้อยละ ๕๐ ระดับคุณภาพ ปรับปรุง
การสรุปผลการประเมินระดับคุณภาพของสถานศึกษา จะดำเนินการดังนี้
๓.๑ แจกแจงความถี่ของระดับคุณภาพของผลสำเร็จของตัวบ่งชี้ ระดับคุณภาพของตัวบ่งชี้ที่มีความถี่สูงสุดถือเป็นฐานนิยมของระดับคุณภาพนั้น ถ้าระดับคุณภาพที่เป็นฐานนิยมอยู่ในระดับปรับปรุง จะสรุประดับคุณภาพนี้ระดับปรับปรุง แต่ถ้าระดับคุณภาพที่เป็นฐานนิยมอยู่ในระดับพอใช้ หรือดี ต้องพิจารณาจำนวนความถี่ของระดับคุณภาพที่เป็นฐานนิยมต่อไป
๓.๒ พิจารณาความถี่ของระดับคุณภาพผลสำเร็จของตัวบ่งชี้ที่เป็นฐานนิยม ในกรณีที่เป็นฐานนิยมอยู่ในระดับพอใช้ และมีความถี่ของระดับคุณภาพที่เป็นฐานนิยมไม่ต่ำกว่า ๓ ใน ๔ ของจำนวนตัวบ่งชี้ในมาตรฐาน จะถือว่าระดับคุณภาพของผลสำเร็จอยู่ในระดับพอใช้ แต่ถ้าความถี่ของระดับคุณภาพที่เป็นฐานนิยมต่ำกว่า ๓ ใน ๔ ของจำนวนตัวบ่งชี้นั้น จะพิจารณาความตระหนัก และการปฏิบัติของสถานศึกษา ถ้าสถานศึกษามีความตระหนักและการปฏิบัติที่เด่นชัด ตามเกณฑ์คุณภาพที่แสดงความตระหนัก และเกณฑ์คุณภาพที่แสดงการปฏิบัติหรือความพยายามในการปฏิบัติในมาตรฐาน จึงจะถือว่ามาตรฐานที่ ๑๒ นี้อยู่ในระดับพอใช้ ถ้าสถานศึกษาไม่มีความตระหนักและการปฏิบัติที่เด่นชัด จะอยู่ในระดับปรับปรุง
๓.๓ พิจารณาความถี่ของระดับคุณภาพความสำเร็จของตัวบ่งชี้ที่เป็นฐานนิยม ในกรณีระดับคุณภาพที่เป็นฐานนิยมอยู่ในระดับดี และมีความถี่ของระดับคุณภาพที่เป็นฐานนิยม ไม่ต่ำกว่า ๓ ใน ๔ ของจำนวนตังบ่งชี้ ในมาตรฐานนั้น จะถือว่าระดับคุณภาพของมาตรฐานอยู่ในระดับ ดี แต่ถ้าความถี่ของระดับคุณภาพที่เป็นฐานนิยมต่ำกว่า ๓ ใน ๔ ของจำนวนตัวบ่งชี้ในมาตรฐาน จะพิจารณาความตระหนัก และการปฏิบัติที่เด่นชัด ตามเกณฑ์คุณภาพที่แสดงความตะหนักและเกณฑ์คุณภาพ ที่แสดงการปฏิบัติหรือความพยายามในการปฏิบัติในแต่ละมาตรฐาน จึงจะถือว่ามาตรฐานที่ ๑๒ นี้อยู่ในระดับดี ถ้าสถานศึกษาไม่มีความตระหนักและการปฏิบัติที่เด่นชัด การสรุปผลจะอยู่ในระดับ พอใช้
จะเห็นว่า การประเมินมาตรฐานของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน) มีเกณฑ์การประเมินที่มีความชัดเจน ถึงแม้ว่าผู้ประเมินอาจจะไม่มีความรู้ด้านดนตรีมากนัก แต่เกณฑ์การประเมินจะสรุปโดยใช้หลักคณิตศาสตร์ (ฐานนิยม เป็นตัวตัดสิน โดยดูจากตัวบ่งชี้ต่าง ๆ ที่กำหนด) จึงไม่น่าจะเป็นสิ่งที่สถานศึกษาจักต้องกังวลใจมากนัก และที่สำคัญในการประเมินคุณภาพภายนอก จะมีความแตกต่างจากการประเมินอื่น ๆ ด้วยวิธีการที่ ผู้ประเมินใช้ในลักษณะของกัลยาณมิตร ทั้งผู้รับการประเมินยังสามารถโต้แย้งในสิ่งที่ผู้ประเมิน ประเมินแล้วไม่ตรงตามข้อมูล ข้อเท็จจริงที่สถานศึกษาดำเนินการได้ด้วย จึงนับเป็นมิติใหม่ ของการประเมินคุณภาพ ซึ่งเป็นคุณภาพในระดับชาติ
อย่างไรก็ตาม ในการประเมินรอบแรก (พ.ศ. ๒๕๔๓ -๒๕๔๘) นั้น จะเป็นการประเมินเพื่อหาจุดเด่น จุดพัฒนา ยังไม่เป็นการตัดสินว่าผลการประเมิน ในระดับผ่านหรือไม่ผ่าน สิ่งที่นำเสนอจึงน่าจะเป็นแนวทางในการนำไปปฏิบัติ พัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านดนตรี ศิลปะ และกีฬา ตลอดทั้งเป็นแนวทางสำหรับการพัฒนามาตรฐานอื่น ๆ เพื่อรองรับการประเมินคุณภาพในรอบต่อไป (ปีการศึกษา ๒๕๔๘) ที่จะมีการตัดสินว่า ผ่านหรือไม่ผ่าน เพื่อผลการประเมินคุณภาพด้านจะออกมาในด้านผู้เรียนมีสุนทรียภาพและลักษณะนิสัยด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา ถึงแม้ว่าเป็นเพียงมาตรฐานหนึ่ง ในจำนวน ๒๔ มาตรฐาน ก็ตาม
ดนตรี เป็นมาตรฐานสำคัญมาตรฐานหนึ่ง ที่สถานศึกษาต้องให้ความสำคัญในการประกันคุณภาพภายใน เพื่อรองรับการประเมินคุณภาพภายนอก การพัฒนาผู้เรียนให้มีสุนทรียภาพด้านดนตรี ทั้งด้านทักษะและเนื้อหา ต่าง ๆ อย่างครบถ้วน จึงเป็นการพัฒนาคนให้เป็นคนที่สมบูรณ์ขึ้น และเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย พัฒนาคม และพัฒนาชาติไทยด้วย
ไม่มีความเห็น