เชงเม้ง วันแสดงความกตัญญู !!!
วันที่ 5 เมษายน ของทุกปีเป็นวันอะไรน้ออออ??? เชื่อว่าหลายๆคนที่ได้อ่านและแสดงความคิดเห็นกับบล็อกนี้ ก็คงจะเป็นคนไทยเชื้อสายจีนบ้างแหละเนอะ?? และดิฉันก็เชื่ออีกว่าเมื่อเราเป็นคนไทยเชื้อสายจีนแล้ว ก็คงจะไม่มีใครไม่รู้จักวันเชงเม้ง ที่ปรากฏอยู่บนปฏิทินในทุกๆปี ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นคนไทยเชื้อสายจีนก็คงจะกำลังทำหน้างงอยู่แน่ๆ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าบล็อกของดิฉันในครั้งนี้ไม่น่าสนใจ เพราะสำหรับคนที่ไม่รู้จักวันเชงเม้ง และอยากจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับวันนี้ ก็สามารถที่จะหาคำตอบได้ในบล็อกของดิฉันค่ะ!!!!
เทศกาลเชงเม้ง
ประเพณีที่สำคัญมากที่สุดของของชาวจีน คือ ไหว้บรรพบุรุษ ที่ สุสาน ( ฮวงซุ้ย หรือ ฮวงจุ้ย ) เป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยมีอิทธิพลมาจากลัทธิขงจื้อที่เน้นเรื่องความกตัญญูเป็นสำคัญ ประเพณีนี้สืบทอดมายาวนานเป็นพันปี โดยขุนนาง สมัยราชวงศ์โจว โจวกงจีตั้น เป็นผู้กำหนด
วันเชงเม้ง ถือเป็นวันสำคัญสำหรับคนเชื้อสายจีน เนื่องจากเป็นวันที่ต้องไปไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว เค้าว่ากันว่าถ้าไม่ไปไหว้บรรพบุรุษของเราจะไม่มีอะไรกิน อันนี้ก็เป็นความเชื่อที่มีกันมานานแล้ว และอีกจุดประสงค์อีกอย่างที่สำคัญก็คือ เป็นการเปิดโอกาสให้ญาติพี่น้องที่แยกย้ายกันไปทำมาหากินต่างถิ่นกันได้กลับมาพบปะพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่งค่ะ
ประโยชน์ของการไป ไหว้บรรพบุรุษ เทศกาลเชงเม้ง
เพื่อรำลึกถึงคุณความดี ที่บรรพบุรุษของเราได้กระทำไว้ ได้ดูแลเรา เป็นศูนย์รวมตระกูล ผังตระกูล เป็นกรอบถนนชีวิตของลูกหลานทุกคน "พ่อแม่ตายแล้ว ยังกำหนดชะตาชีวิตลูกหลาน" เป็นการเตือนสติตน ความตายต้องเกิดขึ้นกับทุกคน และเป็นธรรมดาของมนุษย์ปุถุชน
ลำบากเพื่อเราให้มีความเป็นอยู่ที่ดี เป็นแบบอย่างการดำเนินชีวิต
"เราสบาย เพราะพ่อแม่ บรรพบุรุษลำบาก"
โดยทั่วไป การไหว้ที่ดีที่สุด ต้องนัดหมายไปไหว้พร้อมกัน ( วันและเวลาเดียวกัน )
ทำให้ลูกหลานที่อยู่กระจายกันไป ได้มาพบปะ สังสรรค์กันพร้อมหน้า
เป็นการสร้างความสามัคคี สร้างจุดศูนย์รวม กล่าวได้ว่าเป็น วันรวมญาติ
เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต เน้นความกตัญญูที่มีต่อบุพการีและลูกหลานควรปฏิบัติตาม
สำหรับของที่ต้องเตรียมมาไหว้นั้น สิ่งสำคัญๆ ก็ได้แก่
1. ไก่ต้ม ต้องมีหัวด้วยนะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ อันนี้สำคัญเชียวล่ะ
2. อาหารคาว - หวาน ต่างๆ ส่วนใหญ่ก็เลือกจากที่ก๊งกับอาม้าชอบนั่นแหละ แต่ส่วนใหญ่ก็เลือกจากคนไหว้ชอบนั่นแหละ
3. ผลไม้ 5 อย่างก็เช่น กล้วย ส้ม แอปเปิ้ล สับปะรด องุ่น ขนุน เป็นต้น ซึ่งแต่ละอย่างก็มีความหมายไม่เหมือนกัน
4. แบงค์กระดาษ กระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อกระดาษ
5. ของตกแต่งฮวงซุ้ย เช่น ธง กระดาษสี กระดาษสะท้อนแสงสำหรับโรยตกแต่ง ดอกคูณ ดอกเฟื่องฟ้า เป็นต้น
เมื่อจัดของไหว้ทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็เป็นการไหว้ของสมาชิกทุกคนในตระกูล ใช้ธูปตามจำนวนบรรพบุรุษท่านละ 1 ดอก โดยจะเริ่มไหว้ตั้งแต่พี่ใหญ่ที่อาวุโสที่สุด เรียงตามลำดับมาเรื่อยๆ จนถึงคิวของหลานๆ เมื่อเทียนใกล้หมดก้าน ลูกหลานก็จะลาของไหว้แล้วเอากระดาษเงิน กระดาษทองไปเผา หลังจากนั้นก็จะเป็นการจุดประทัดซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เป็นการส่งท้าย บ้างก็ว่าจุดเพื่อขับไล่สิ่งไม่ดีให้หมดไป บ้างก็เพื่อให้เกิดโชคลาภ
ท้ายที่สุดนี้ไม่ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของวันเชงเม้งนั้นคืออะไร? แต่เราก็จงภูมิใจเถอะ ที่เราได้ปฏิบัติสิ่งที่ดีที่สุดที่เชื่อถือกันมานานแสนนาน นั่นก็คือการแสดงความกตัญญูโดยการไปไหว้บรรพบุรุษ.........
แล้วท่านละคะ? ปีนี้หาเวลาว่างไปแสดงความกตัญญูกันหรือยัง?
ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=patthanid&month=04-2007&date=25&group=13&gblog=5
: http://www.fengshuitown.com/fengshui/fengshui-tip-pray-ancestor.html
ความเห็น (8)
ดีจังเลยนะคะ ทำให้ลูกหลานรู้จัก
ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
แวะมาทักทายค่ะ ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี เราจึงควรกตัญญูต่อบุพการีค่ะ
เป็นลูกครึ่ง ไทย-จีนค่ะ ให้ความสำคัญกับวันนี้มากเลย ได้ไหว้บรรพบุรุษของเรา ได้พบปะยาติพี่น้อง แล้วยังได้กินอาหารอร่อยๆอีกค่ะ
เสียดายปีนี้ต้องมาทำงาน เลยไม่ได้ไปไหว้เชงเม้งล่ะ สงสัยต้องรอปีหน้าแล้ว ..
ดีจังเลยนะ
มีการไหว้คนเก่าๆด้วย
แถมมีประโยชน์อีก
ความกตัญญูเป็นสิ่งสำคัญ วันเชงเมิ้งจึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้ทำความดี แถมยังทำให้ลูกหลานได้พบปะกัน ยิ่งเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัว
เค้าก็เพิ่งไปเชงเม็งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
รู้สึกอิจฉา กุ๊งกับโผ (ปู่กับย่า)
เปลี่ยนมือถือไม่ทุกปีเลย
เราก็ให้ความสำคัญกับวันนี้มาเลยนะ...
Link Update
http://www.fengshuitown.com/fengshui/fengshui-tip-pray-ancestor.htm
*** หมายเหตุ : ตามระบบชมรมภูมิโหราศาสตร์
ตำแหน่งที่จะจุดประทัดต้องดูองศาป้าย
และจะจุดได้หรือไม่ในแต่ละปี ต้องดูฤกษ์ต่างหาก
หากไม่ทราบ ไม่แนะนำการจุดประทัด
เพราะมักมีเหตุกระทบผู้ไปไหว้บ่อยครั้ง
จาก สุภชัย
http://gotoknow.org/blog/merit2000
PS : หน้า Web สวยจัง