วันนี้ไปเจริญพระพุทธมนต์บ้านโยมคุ้นเคยกันที่ฝั่งแหลมสน วัดสุวรรณคีรี อำเภอสิงหนคร ซึ่งผู้เขียนเคยอยู่มาหนึ่งพรรษาก่อนที่จะย้ายมาอยู่วัดยางทอง จึงถือโอกาสนี้ นำเที่ยววัดสุวรรณคีรีด้วยภาพตามที่เห็นสมควร...
ภาพแรก... ถ่ายจากคลองขวางท่าเรือหางยาว ฝั่งอำเภอเมืองสงขลา. ภาพที่สอง... ถ่ายในเรือหางยาวกลางทะเลสาบสงขลา. เบื้องหน้าที่เห็นคือฝั่งแหลมสนอำเภอสิงหนคร ฝืมือผู้เขียนและคุณภาพของกล้องไม่ชัดพอที่จะเห็นหน้าบันโบสถ์ของวัดสุวรรณคีรี แต่ถ้ามองด้วยตาเปล่าจะเห็นเป็นจั่วแหลมๆ อยู่ประมาณกลางภาพ...
สองภาพนี้ถ่ายที่ท่าเรือฝั่งแหลมสน... มองไปกลางภาพเห็นหลังคาแดง นั่นคือโบสถ์ของวัดยางทอง.
ภาพแรกเป็นตัวเมืองสงขลาด้านซ้ายมือ ภูเขาสูงเรียกว่าเขาตังกวน ภูเขาเตี้ยเรียกว่าเขาน้อย ถ้าข้ามเขาสองลูกนี้ไปก็จะเป็นแหลมสมิหรา... ภาพที่สองเป็นตัวเมืองสงขลาด้านขวามือ ส่วนทิวไม้ในทะเลสาบนั้นก็คือที่ดักโพงพางของชาวประมง แถบนี้ ปลากระบอกชุกชุม...
เมื่อเดินออกจากท่าเรือหางยาว ถนนก็จะมุ่งตรงไปยังวัด ระยะทางจากท่าเรือไปยังวัดน่าจะไม่เกินห้าร้อยเมตร... เดียวนี้เป็นเทศบาล ถนนจึงราดยาง สมัยก่อนผู้เขียนบิณฑบาตแถวนี้ก็ต้องลุยโคลนลุยน้ำในบางฤดู...
ถึงแล้วหน้าวัดสุวรรณคีรี มีบ่อโบราณซึ่งกรมศิลป์อนุรักษ์ไว้... ส่วนหลวงพ่อในวิหารหน้าวัดองค์นี้ เรียกกันว่า สมเด็จเจ้าเกาะยอ ฟังว่ามีบารมีสูงมากในยุคโบราณ เมื่อเข้าไปในวัดหรือออกจากวัด ผุ้เขียนจะยกมือไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลทุกครั้ง...
ฐานโบสถ์จะตั้งบนเนินสูง ส่วนบริเวณวัดจะค่อยลดระดับลงมา ๓-๔ ชั้น คาดเดาว่าพื้นที่เก่าน่าจะเป็นภูเขาแล้วก็ปรับปรุงพื้นที่สร้างเป็นวัด... สำหรับภาพซ้ายมือถ่ายจากด้านหน้า ส่วนภาพขวามือถ่ายจากด้านหลัง...
บริเวณด้านหน้าโบสถ์ด้านบน จะมีเจดีย์หินเจ็ดชั้น ผู้รู้บอกว่าหมายถึง โพชฌงค์ คือ องค์แห่งธรรมเป็นเครื่องตรัสรู้ ๗ ประการ... ใกล้ๆ เจดีย์หินก็จะมีหอระฆังขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อลมพัดไปทางฝั่งบ่อยาง ผู้เขียนจะได้ยินเสียงระฆังจากที่นี้เป็นครั้งคราว...
ขึ้นไปบนโบสถ์ จะมีเทพเจ้าชาวจีนเฝ้าอยู่หน้าประตูทั้งซ้ายและขวา อันที่จริงนั้น เทพเจ้าด้านซ้ายจะถือไม้กระบอง ๑ อัน ส่วนเทพเจ้าด้านขวาจะถือไม้กระบอง ๒ อัน แต่ด้วยเมตตาของท่านจึงได้ประทานกระบองให้ผู้ที่ต้องการไป...
อนึ่ง สมัยผู้เขียนอยู่นั้น กระบองยังมีอยู่สองอัน ผู้เขียนเคยทำกระบองด้ามยาวไปถวายให้ท่านหนึ่งอัน แต่ก็อยู่ได้ไม่นานนัก เพราะฝืมือหยาบเกินไป คงมีใครไปทักท้วงว่าไม่สมกับบารมีของท่านก็ได้...
ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาฝนัง มองดูแล้ววิจิตรพิสดารมาก แต่ก็ลบเลือนไปตามกาลเวลา... หลังจากผู้เขียนไปอยู่กรุงเทพฯ แล้ว ทางกรมศิลป์ก็มาอนุรักษ์ไว้ โดยทากาวพลาสติกรักษาไว้ให้คงเดิม แม้โดยมากมักจะมองไม่ออกว่าเป็นรูปอะไร ได้เพียงแต่ปลูกความรู้สึกรักห่วงในคุณค่า ใคร่จะรักษาสิ่งที่ยังสมบูรณ์อยู่... ประมาณนั้น
อนึ่ง ฝั่งแหลมสนนี้ เป็นเมืองเก่าของสงขลา ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ฝั่งบ่อยางในสมัยปัจจุบัน... และเฉพาะอุโบสถวัดสุวรรณคีรีแห่งนี้ ก็มีประวัติว่าเจ้าเมืองสงขลาสร้างหลังจากเสร็จศึกสงครามเก้าทัพคู่กับอุโบสถวัดยางทอง แต่ของวัดยางทองสร้างธรรมดา ไม่ได้วิจิตรพิสดารเหมือนวัดสุวรรณคีรี ดังนั้น จึงถูกรื้อสร้างใหม่เพราะชำรุดเกินกว่าจะบูรณะ...
เหนื่อยแล้ว ยังไม่ได้พาชมบริเวณ ค่อยติดตามตอนต่อไป...
ได้ใช้ประโยชน์จากกล้องเต็มที่เลยนะครับพระคุณท่าน
555+
ได้บรรยากาศดีมากครับท่าน
นมัสการพระคุณเจ้า
นมัสการพระคุณเจ้า วันนี้ไปร่วมงานศพเพื่อนที่วัดโรงวาส ตั้งใจว่าทำบุญเสร็จ จะแวะไปนมัสการพระคุณเจ้าที่วัด แต่เพื่อนที่มาด้วยกัน ต้องเข้า โรงพบาบาลสงขลา จึงไม่เป็นไปตามที่หวังครับท่าน
วัดสุวรรณคีรี ฝีมือพระคุณเจ้า เล่าเรื่องด้วยภาพชัดเจนดีครับ
โยมคุณครูเที่ยวทางอินเทอร์เน็ตไปสะดวกกว่า และลงทุนก็น้อย...
...........
ก็คิดอยู่เหมือนกันว่า บังคงมาถึงวัดแน่ หรือเป็นเหมือนดังคำว่า มีวาสนาต่อกันก็คงจะได้พบกัน แต่ตอนนี้วาสนายังไม่เพียงพอ สองเราจึงต้องสะสมวาสนากันต่อไป...
............
เจริญพรทั้งสองท่าน
นมัสการค่ะ เห็นเขาเตี้ยเรียกว่าเขาน้อย มาจนชินตาค่ะ และบ้านของคุณปู่คุณย่า อยู่แถว แหลมสน ไม่ไกลกันนักค่ะ
อ่านแล้ว คิดถึงบ้านของบรรพบุรุษค่ะ ตอนนี้ก็ยังอยู่ มีบ้านที่เป็นส่วนกลาง ไปเมื่อไร ก้ไปพักค่ะ