หมายความว่า บุคคลที่ไม่มีสัญชาติลาว ที่ได้เข้ามาในสาธารณะรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชนลาว โดยถูกต้องหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมายและกลุ่มคนอาจเป็นบุคคลที่เข้ามาอยู่นานหรือเป็นบุคคลที่หนีภัยความตายจากสภาวะที่มีสงคราม มีความขัดแย้งต่อสู้กับฝ่ายตรงกันข้ามและยังอนุญาติให้มีการลี้ภัยได้สำหรับกลุ่มคนชาวต่างประเทศที่ถูกปราบปรามด้วยเหตุผลที่ทำการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อิสระภาพ ความเป็นธรรม สันติภาพ[1]เป็นต้น แม้ว่ากลุ่มคนดังกล่าวจะเข้าเมืองมิชอบด้วยกฎหมายก็ตาม ทางรัฐบาลลาวก็ไม่อาจที่ผลักดันเขาออกจากประเทศได้ในช่วงที่มีภาวะสงครามดังกล่าว ด้วยเหตุผลทางหลักสิทธิมนุษยชน ฉะนั้นทางรัฐบาลลาวจึงได้ให้ที่พักพิงแก่กลุ่มคนดังกล่าวจนกว่าจะเข้าสภาวะปกติจึงจะสามารถส่งกลับคืนภูมิลำเนาเดิม ทางรัฐบาลลาวอาจให้พักพิงชั่วคราวหรือถาวรแก่กลุ่มคนดังกล่าวที่หลบเข้ามาในสภาวะเช่นนั้น เป็นไปตามกรณีซึ่งจะเป็นไปตามนโยบายและตามกฎหมายของรัฐที่กำหนด ในระยะที่ผ่านมาส่วนมากก็อิงตามความสมัครใจของผู้อพยพเองว่าจะกลับคืนภูมิลำเนาเดิมหรือไม่ ตัวอย่างในสมัยสงครามเขมรแดง ในกัมพชูา ช่วงระยะปี ค.ศ.1975 ถึง 1978 หลังจากที่มีความสงบแล้ว บางส่วนก็กลับภูมิลำเนาเดิมและอีกส่วนหนึ่งไม่กลับภูมิลำเนาเดิมและได้อาศัยอยู่ในประเทศลาวจนถึงปัจจุบัน กลุ่มคนเหล่านี้ส่วนมากก็จะมีสัญชาติลาวหมดแล้วตามนโยบายและตามกฎหมายลาวที่กำหนดในมาตรา 14 ของกฎหมายว่าด้วยสัญชาติลาว
[1] มาตรา ๕๑,รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชนลาว,ค.ศ. ๒๐๐๓,
ได้บัญญัติไว้ว่า “ส ป ป ลาว อะนุญาติการลี้ภัย ให้แก่คนต่างประเทศ ที่ถูกปราบปรามย้อนทำการต่อสู้เพื่ออิดสรภาพ ความเป็นธรรม สันติภาพ และวิธยาศาสตร์”
ไม่มีความเห็น