วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่มีค่าสำหรับเราอย่างมาก (เป็นครูในการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต)
รู้สึกว่าเกือบทั้งวันจะทำอะไรผิดพลาดไปหมด วางแผนชีวิตใน ๑ วัน เป็นไปได้ยากเหลือเกิน แต่สักวันต้องทำให้ได้
เริ่มจากวางแผนไว้ว่าช่วงบ่ายจะต้องไปงานมอบรางวัลให้กับ “พลเมืองคนกล้า” ณ หอศิลป์กรุงเทพมหานคร และได้ซื้อของที่ระลึก (เพื่อเป็นกำลังใจ) ไปให้กับพลเมืองคนกล้าไว้ด้วย ๒๖ ชิ้น แต่ด้วยงานช่วงเช้าที่ตั้งใจว่าจะทำให้เสร็จกลับไม่เสร็จทันเวลา (จะละทิ้งก็ไม่ได้ เพราะเป็นงานสำคัญ) ที่งานไม่เสร็จก็มีปัจจัยหลายประการ (เตรียมตัวไม่ดี , ทำงานอื่น)
ตกบ่ายรู้ว่าไปไม่ทันแน่ มีเพื่อนคนหนึ่งจึงไปก่อน (ให้เอาของที่ระลึกไปแจกด้วย) แต่กว่าเพื่อนคนนั้นจะไปได้ก็โดน.......ไม่ใช่น้อย
พอทำงานทุกอย่างเสร็จก็รีบบึ่งไปที่งาน ดันไปผิดที่เสียอีก (ไม่ศึกษาเส้นทางก่อน) ในที่สุดก็ถึงงานจนได้ เขามอบรางวัลเรียบร้อยแล้ว พลเมืองคนกล้าบางคนก็กลับแล้ว รู้สึกผิดที่ตั้งใจจะมาเห็นพลเมืองคนกล้ารับรางวัลแต่ไม่ได้เห็น (โดยเฉพาะพี่บุญ พงษ์มา)
ทราบจากเพื่อนว่าของที่ระลึกเพื่อนไม่ได้แจกเอง ฝากให้คนจัดงานช่วยแจก เฮ้อ......ไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ แล้วคนที่ได้รับจะรู้ไหมว่าใครเป็นคนให้อ่ะ (ไม่ได้กำชับเพื่อนให้ดีว่าให้แจกด้วยตัวเองและบอกด้วยว่าจากกองทุนคนึง ฦๅไชย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)
ได้รู้ว่าพลเมืองคนกล้า ๒๖ คนมีใครบ้าง ยิ่งเสียดายที่มาไม่ทันบางคนที่อยากจะแสดงความยินดีด้วยตัวเอง (ไม่ถามข้อมูลผู้จัดงานก่อนวันงาน)
แต่ก็ถือว่ายังโชคดีที่มาแสดงความยินดีกับบางคนทัน และ ดีใจที่ได้เห็นนักศึกษาห้องเรียนสิทธิมนุษยชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าร่วมงานด้วยซึ่งไปก่อนเราเสียอีก
ขอแสดงความดีใจอย่างสุดซึ้งกับพลเมืองคนกล้าทั้ง ๒๖ คนด้วยนะคะ แม้บางคนจะไม่ได้บอกด้วยตัวเองก็ขอบอกผ่านตัวหนังสือแล้วกันนะคะ
ครูที่ดีที่สุดของมนุษย์ ก็คือ ประสบการณ์
อ.แหววก็มีบทเรียนต้องสรุป ต้องวิเคราะห์ภาพของอนาคตให้ชัดกว่านี้
เสนอให้เอาบันทึกนี้ไปใส่ใน Learner ด้วย จะได้สอนนักศึกษาให้รู้จักวางแผน
คนไทยไม่ชอบวางแผน มักชอบที่จะหาเช้ากินค่ำ หาก อ.มิวสอนลูกศิษย์ตั้งแต่ปีที่ ๑ พวกเขาก็อาจจะมีวินัยที่ดีตั้งแต่อายุน้อย
เพื่อนมิวคนนี้ไม่ไหวเนอะ..
นอกจากจะ "ดื้อดึงดัน" (อาจจะเพราะหูตึง) ไม่ยอมรีบไปงาน มัวแต่พะวงอยู่กับการทำงานอีกอย่าง แล้วก็ไม่ยอมแบ่งเวลาให้ถูกให้ควร ว่าตอนไหนควรทำอะไร แถมยัง "งี่เง่า" ไม่รู้จักการสานสัมพันธ์กับคนอื่นๆ (เอาไปให้คนจัดงานแจกของที่ระลึกของเราทำไมเนี่ย..) แต่เห็นว่ามันก็กำชับคนจัดงานนะว่า..เป็นของที่ระลึกจากกองทุนฯ เราเห็นมันวิ่งแจ้นไปคุยกับคนจัดงานอยู่
แต่ยังไง..มิวก็ให้อภัยมันเหอะ มันคงจะไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ เราว่า..!!
มันยังฝากมาบอกว่า..ส่วนเรื่องอื่นๆ มันจะคอยช่วย "เตือน" มิว แล้วก็ให้มิวช่วย "เตือน" มันด้วย เวลามันไม่ได้ยินก็ให้ตะโกนดังๆ นะ มันไม่โกรธหรอก จริงๆ
:-)
สัญญาว่าจะคอยเตือนเพื่อนคนนั้น และคนอื่น ๆ ด้วย
เรายังต้องทำงานด้วยกันอยู่ และจะบอกกล่าวกันตรง ๆ จ้า