โรงเรียนวัดหูรอ จังหวัดชุมพร เป็นโรงเรียนรางวัลโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ระดับเพชร ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องส้วม
วันที่ 18 มีนาคม 2552
ได้มีโอกาสไปดูงานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร คือโรงเรียนหูรอ
จ.ชุมพร
โรงเรียนวัดหูรอ
จังหวัดชุมพร เป็นโรงเรียนรางวัลโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ
ระดับเพชร ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องส้วม โรงเรียนมีนักเรียน 135 คน
ครู 8 คน โรงเรียนได้ได้ความเชื่อมั่นจากชุมชนรอบ
เห็นได้จากการที่ผู้ปกครองในบริเวณใกล้เคียงพาเด็กมาเข้าเรียนที่โรงเรียน
โดยผู้อำนวยการโรงเรียนบอกถึงกลยุทธ์ว่าจะรับเด็กตั้งแต่อายุ 2
ขวบครึ่ง
เพื่อให้ผู้ปกครองรู้สึกผูกพันกับโรงเรียนและไม่พาเด็กไปเรียนที่อื่น
ผู้อำนวยการ (ครูกุลวดี) เล่าว่า
-
เริ่มแรกไม่ได้คิดว่าจะเอารางวัลแต่อย่างใด
แต่มีความรู้สึกว่า ถ้าทำแล้วเด็กจะได้ประโยชน์
นอกจากสุขภาพทางกายแล้ว ถ้าไม่เจ็บป่วย สุขภาพทางจิตก็จะดีด้วย
- โรงเรียนเริ่มกิจกรรมโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2543
ในปี 2544 ได้รับรางวัลโรงเรียนดีเด่นระดับอำเภอ
และได้รับการประเมินเป็นโรงเรียนระดับทอง (3 ปีติดต่อกัน)
ในส่วนระดับเพชรนั้นตอนแรกไม่ได้มุ่งหวังว่าจะต้องได้รับการประเมิน
แต่เมื่อทำไปจะเห็นได้ว่า ผลที่ได้รับมีต่อตัวเด็กนักเรียนจริง ๆ
โดยโรงเรียนเดินตามแนวทางเกณฑ์ของกรมอนามัย
และวัดผลสุขภาพเด็กเพื่อประเมินโครงการด้วย เช่นการรับประทานอาหาร
การออกกำลังกาย เด็กอ้วนลดลง ไม่เจ็บป่วย อุบัติเหตุลดลง
ไม่ส่งผลกระทบต่อการเรียน
แต่กลับส่งเสริมให้เด็กไม่ขาดโรงเรียนเนื่องจากการเจ็บป่วย
ซึ่งโรงเรียนได้รับการประเมินเป็นโรงเรียนระดับเพชรในปี 2551 และติด 1
ใน 3 โรงเรียนเพชร ระดับประเทศด้วย
-
ครูทำฝ่ายเดียวไม่ได้
ต้องทุกส่วนไม่ว่าชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ราชการ
ต้องช่วยเหลือกันและกัน แต่ครูก็ต้องมีสัมพันธภาพที่ดีต่อชุมชน
โดยที่โรงเรียนมีครูถึง 5 คน ที่พักในหมู่บ้าน
และมีครูท่านหนึ่งมีพี่ชายเป็นกำนันด้วย
จึงมีความใกล้ชิดกับชาวบ้านเป็นอย่างดี
- กรรมการสถานศึกษามีส่วนสำคัญ
และช่วยส่งเสริมและประสานกิจกรรมโรงเรียนกับชุมชนได้เป็นอย่างดี
- ให้ผู้ปกครองเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียน มีกิจกรรมที่ทำร่วมกัน
เช่นการเต้นแอร์โรบิก การทำอาหาร เป็นต้น
ประธานกรรมการสถานศึกษา (คุณสุคนธ์) เล่าว่า
- ชุมชนมีความรู้ศึกษาว่าโรงเรียนหูรอ เป็นโรงเรียนที่ดี
ครูก็ดี
- อบต และอบจ. มีส่วนช่วยให้โรงเรียนมีการบริหารจัดการที่ดี
โดยเฉพาะเงินงบประมาณในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
- นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยในการจัดหาเงินโดยการจัดตั้งผ้าป่า
ในงานคืนสู่เหย้าของโรงเรียนในวันสงกรานต์ ทุกปี (โรงเรียนมีอายุ 80
กว่าปีแล้ว)
ครูผู้ช่วยเล่าว่า
- โรงเรียนตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2464 เป็นโรงเรียนประถมขนาดกลาง
- เบื้องหลังความสำเร็จเกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานรอบ ๆ
โรงเรียนทั้งราชการและเอกชน
- เบื้องต้นเห็นปัญหาเรื่องส้วม เพราะต้องการให้เด็กมีส่วนที่ดีใช้
จึงตั้งใจปรับปรุงส้วม เนื่องจากตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 จนถึง 2543
ไม่เคยปรับปรุงเรื่องส้วมเลย ในขั้นแรกเป็นการปรับปรุงส้วมเก่า
โดยใช้เงินจากการถอดผ้าป่า ได้เงินพอปรับเรื่องส้วมได้
และปรับปรุงมาตลอด โดยไปดูงานเรื่องส้วม เช่นที่สวนนายดำ
แล้วกลับมาปรับปรุงจนถึงปัจจุบันนี้
จนได้รับการประเมินเป็นสุดยอดส้วมระดับเขตในปี 2551
จนได้รับส้วมสุดยอด ปี 2552
อบต. ก็มาเล่าให้ฟังว่า
- ครูที่โรงเรียนนี้เก่ง สามรถดึงชุมชนเข้ามาร่วม
- อบต. เล็งเห็นความสำคัญของเด็ก
พยายามสนับสนุนโรงเรียนอย่างเต็มความสามารถ
หากเป็นประโยชน์ต่อเด็กจริง
- ครูไปช่วยชาวบ้าน ชาวบ้านก็มาช่วยครู
- นอกจากนั้นโรงเรียนอื่น ๆ ก็ได้ผลพลอยได้ไปด้วย
เนื่องจากพอโรงเรียนหูรอ ได้รับสนับสนุนอย่างไร โรงเรียนอื่น ๆ
ในพื้นที่ก็จะได้อย่างเดียวกันด้วย
นักเรียนแกนนำสุขาน่าใช้มาเล่าให้ฟังว่า
- เมื่อก่อนส้วมไม่ดีจริง ๆ เหม็น และสกปรก ไม่ปลอดภัย
- ร่วมกับครูเพื่อปรับปรุง
- ส้วม ตามมาตรฐานของกรมอนามัย ตามเกณฑ์ สะอาด เพียงพอ
และปลอดภัย
- เน้นความยั่งยืนการทำความสะอาด โดยจัดเวรของนักเรียน
และมีการประเมินจากชมรม หนูน้อยรักส้วม ในการจัดทำโครงการ ส้วมสะอาด
ปราศจากกลิ่นเหม็น
- กิจกรรมมีมากมาย เช่น
- การจัดเวรทำความสะอาด มีจุดตรวจความสะอาด
เน้นจุดสะสมเชื้อโรคที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ
- หากมีปัญหาจะเสนอคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหา
- มีการให้ความรู้เรื่องการใช้ส้วม ผ่านเสียงตามสาย
บริเวณผนังห้องน้ำ
- กำจัดกลิ่นด้วยน้ำยาสมุนไพรไทย เช่นใบเตย มะกรูด
และทำน้ำยาล้างห้องน้ำด้วยน้ำมะขามเปียก และตะลิงปลิง
- สิ่งที่ได้รับคือนักเรียนมีสุขนิสัยที่ดี รักความสะอาด
ปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้โรงเรียนประสบผลสำเร็จคือ
- การทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายของผู้บริหาร
จะทำให้การทำงานสะดวกมากยิ่งขึ้น
- มีการประกวด เพื่อให้การรับรอง