เมตตา...บนความหลอกลวง...ได้หรือสูญเปล่า...?


การหลอกลวงทำให้เสียความรู้สึก

       แววตาใสซื่อของสองผู้เฒ่าชาย-หญิง นั่งเล่นเครื่องดนตรีพื้นเมืองทางอิสาน บางครั้งเป็นพิณบางครั้งก็เป็นแคน ดนตรีฟังไพเราะจังหวะสนุกสนาน ทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมามองดูแล้วแต่จะคิดกันไป ภาพเหล่านี้เห็นกันจนชินตา บ้างก็เกิดความสงสารและเห็นใจว่าอายุเยอะแล้วยังมาหาเงินเลี้ยงชีพอีก ขันสีเงินได้รับเงินเป็นระยะๆ

          คุณตาเป็นคนเล่นดนตรี(ชิ้นเดียว) ส่วนคุณยายก็นั่งเป็นเพื่อนคอยเก็บเงินที่คนให้ เห็นมาตั้งแต่เช้า ตอนค่ำๆพอคนซาก็จะหายไป

          ในตอนค่ำของวันหนึ่ง ผึ้งงานกลับบ้านดึกเพิ่งเลิกงานล่วงเวลา พอนั่งรถมาถึงหน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ผู้คนก็ไม่ค่อยมีแล้ว ขณะที่รถเมล์ชลอเข้าป้าย สายตาก็มองเห็นคุณยายที่เล่าถึง กำลังเก็บอุปกรณ์จะกลับบ้านเช่นกัน แต่เอ๊...!!! สิ่งที่เห็นถุงสีดำมีหูรูดซึ่งจะอยู่ข้างๆคุณยายตลอดนั้น กำลังจะถูกเก็บของใส่ให้เข้าที่ มันเป็นวิทยุเทปคลาสเซ็ตแบบใส่ตลับเทปเล่นขนาดพอประมาณ แล้วคนทั้งสองก็ขึ้นรถที่มารับกลับซึ่งจอดรออยู่ใกล้ๆ ซึ่งมีเพื่อนๆในรถอยู่ก่อนแล้วหลายคน

          ลิปซิ้ง...(เล่นกันหลอกๆแล้วเปิดเทปให้ฟังแทน) ผึ้งงานเคยสงสัยเหมือนกันว่าเครื่องดนตรีชิ้นเดียวทำไมจึงฟังเหมือนเล่นทั้งวงดูไพเราะจังเลย เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่าเคยยืนฟังเพลงเพราะดีแล้วก็ให้เงินเพราะความสงสาร เลยซักถามที่มาที่ไปมาจากไหนอะไรทำนองนี้ คุณตามัวแต่คุยโต้ตอบ ลืมไม่ได้เล่นแคนแต่เสียงแคนทั้งวงยังบรรเลงต่อเนื่อง คุณตานึกได้สะกิดคุณยายที่อยู่ข้างๆ เสียงกดวิทยุเทปในถุงผ้าสีดำดังขึ้น...แต๊ก...

          การหลอกลวงทำให้เสียความรู้สึกต่อผู้ได้รับ โดยอาศัยแววตาซื่อๆทำให้น่าสงสาร ที่จริงเงินเล็กน้อยไม่ได้เสียดายเลย แต่เกิดสงสัยว่าความจริงใจ...มันเหือดหายไปจากสังคมชนบทตั้งแต่เมื่อไหร่? เลยเกิดคำถามว่า เมตตา...บนความหลอกลวง...ได้หรือสูญเปล่า? (ได้ = อิ่มใจที่ได้ช่วยเหลือแม้ว่าจะเล็กๆน้อยๆ , สูญเปล่า = เสียความรู้สึกที่รู้ว่าถูกหลอก) ทำให้รู้สึกเสียดายที่สังคมเปลี่ยนไป แล้วท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?

                    

คำสำคัญ (Tags): #การหลอกลวง
หมายเลขบันทึก: 249788เขียนเมื่อ 20 มีนาคม 2009 17:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

หลายเดือนก่อน ได้เจอหญิงสาวแถวถนนราชดำเนิน กำลังคุยกับเพื่อน จับใจความได้ว่า กลางวันเธอจะทำมอซอ ท่าทางอ่อนแรง ขอเงินชาวบ้านซื้อข้าวกิน  ส่วนกลางคืนใช้เงินที่หาได้ แต่งตัวไฮโซ ทิ้งคราบโซเซเมื่อกลางวัน ไปเที่ยวผับ

และ ที่ผ่านมา ก็เคยเจอชายหนุ่มขาพิการเดินกระเผลก กลางวันขอทานหาเงิน แต่กลางคืนแต่งตัวไปเที่ยวกลางคืนเหมือนกัน 

สิ่งที่เจอ ไม่รู้เราโชคดี หรือ โชคร้าย ที่ได้รับรู้เรื่องเหล่านี้จากปากที่เล่าออกมาของเจ้าตัวเอง  และคนเหล่านี้ มองคนที่ให้เงินเขา..เป็นคนโง่

 

 

  • แวะมาส่งกำลังใจค่ะ
  • อากาศเปลี่ยนแปลงดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
  • ปลายฟ้า   นำเมนูอาหารรสเลิศมาฝากค่ะ

 

(¯`°.•°•.★* ตลาดนัดอาหาร *★ .•°•.°´¯)

สวัสดีค่ะคุณ a little sheep

·       ขอบคุณมากค่ะ ที่เล่าเรื่องราวต่างๆมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเรื่องบางเรื่องที่พบหรือเจอะมักทำให้เราคาดไม่ถึง

·       ถ้าเราคิดเสียว่า...ให้โดยไม่มีเงื่อนไข...ไม่คาดหวัง...ให้แล้วก็วางเฉยเสีย..เขาจะทำอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา กรรมเป็นของผู้กระทำ.

·       ดังนั้นจิตเมตตาย่อมเป็นสุขทั้งยามหลับและยามตื่น...ขอให้มีความสุขค่ะ

·       ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.

                                                 

สวัสดีค่ะคุณปลายฟ้า

·   อาหารน่าทานมาก...เห็นแล้วหิวเลยค่ะ.

·   ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.

                                  

  • นี่แหละค่ะ คนเลว ทำให้คนดีท้อแท้
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณลีลาวดี

·       เมื่อเราคิดเสียว่า ทำบุญหรือให้ทานแล้วเราสุขใจ ก็อย่าคิดมากเลยเนาะ...

·       คนเรามันรู้ใจกันยากแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ

·       ก็อย่าคาดหวัง...อาจทำให้ผิดหวังได้ทุกเมื่อ

·       ขอเพียงแต่คนดี..อย่ายอมแพ้เสียก่อน....

·       ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

                                     

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท