มีคนที่รู้จักอ่านหนังสือเรื่อง "อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่คือหัวใจของเราเอง" ของ YAMA ให้ฟังและบอกว่า การที่บางคนมองโลกในแง่ร้าย และบางคนมองโลกในแง่ดี มาจากการมีภูมิหลังและประสบการณ์ที่ต่างกัน
ตุ่ม มีฐานะยากจน หาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องด้วยตนเอง เวลาว่างหางานเพื่อเก็บเงิน ใช้อย่างประหยัด ทุกบาททุกสตางค์ต้องเก็บไว้เผื่อวันต่อไป การมีชีวิตอยู่ของตุ่มจึงแปลกแยกไปจากเพื่อนๆคนอื่น เพราะตุ่มคิดว่าไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้ นอกจากตัวของเธอเอง
แก้ม เกิดมาในครอบครัวชนชั้นกลาง พ่อแม่คอยเอาใจใส่และให้ความอบอุ่นเนื่องจากเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่สามารถหาทุกอย่างเพื่อเธอได้ และสอนให้เธอแบ่งปันคนรอบข้าง
ตุ่มมองโลกของเธอว่าเธอต้องดิ้นรนและต่อสู้เพื่อตัวเอง เพราะไม่มีใครช่วยเธอได้
แก้มอยู่แต่ในโลกที่สดใสสวยงาม มีแต่ความรักและอบอุ่นจากพ่อแม่และเพื่อน
** เราไม่สามารถตัดสินตุ่มได้ว่าเธอเป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะว่าทัศนคติของแก้มและตุ่มไม่สอดคล้องกัน และมีมุมมองที่ต่างกัน และเราก็ไม่สามารถอิจฉาแก้มได้ที่โลกของเธอสวยงาม
ถ้าหากคุณผู้อ่านมีทำนองชีวิตเช่นเดียวกับตุ่ม ซึ่งเป็นต้นเหตุให้คุณมองโลกในแง่ลบมากกว่าแง่บวก คุณอาจจะต้องหันกลับมาปรับทัศนคติของคุณว่าการมองโลกในแง่ร้ายมันก็ยากที่จะทำให้ชีวิตคุณมีความสุข
แต่ถ้าหากมองโลกในแง่ดีเกินไป มันก็อาจทำร้ายคุณ และทำให้คุณถูกเอาเปรียบจากผู้ที่จ้องจะฉวยโอกาส ฉะนั้นเราควรมองโลกในหลายๆมิติ เพราะโลกใบนี้ไม่ได้มีเพียงด้านเลวร้าย หรือมีเพียงด้านดี เพียงเท่านั้น ..... ขอให้ความสุขบังเกิดกับทุกท่านนะค่ะ