9. โรงเรียนขนาดเล็ก.....ยุบดีหรือไม่
ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ผมมีโอกาสไปเยี่ยมโรงเรียนขนาดเล็กหลายโรงเรียน บางโรงมีนักเรียนเพียง ๔๐ คน มีครู ๒ คน อัตราจ้าง ๑ คน บางโรงดีหน่อยมีนักเรียน ๖๐คน ครู ๕ คน บางโรงแย่เลย มีเด็ก ๙๐ คน ครู ๕ คน
ผมลองใจกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีนักเรียนน้อย ว่า ยุบดีไหม ให้เด็กไปเรียนโรงเรียนที่อยู่ใกล้ๆ ห่างเพียง ๓ กิโลเมตร โดยจะจัดค่าพาหนะ ให้เด็กจะได้ไปเรียนโรงเรียนใหญ่มีอุปกรณ์การเรียนพร้อม มีคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง
กรรมการไม่ยอมครับ และมีท่านหนึ่งพูดทำให้ต้องคิด ท่านพูดว่า
"เด็กเรียนที่บ้านเกิดเขาจะรักบ้านเกิดมาก หากไปเรียนที่อื่นความรักในบ้านเกิดจะลดลงครึ่งต่อครึ่งเด็กเรียนที่บ้านเขาจะได้ภูิมิใจว่าเขาจบที่บ้านเขา ชีวิตคนไม่แน่นอน เด็กที่จบจากโรงเรียนนี้ต่อไปอาจจะมีสักคนที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ใครจะรู้ว่าในเด็กหกสิบคนนี้ อาจมีคนหนึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด"
จริงๆ แล้ว ผมอยากทราบความคิดของกรรมการเท่านั้นเอง เพราะผมก็ไม่เห็นด้วยกับการยุบโรงเรียน เรามาช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้หมู่บ้านของเราและเด็กของเรา ดีกว่านะครับ
ความเห็น (18)
ด้วยความนับถือครับ
ตอนเรียนประถมเพื่อนผนจะมีคำถามว่า "ทำไมเราต้องไปโรงเรียน?"
คำตอบที่เขาเฉลยก็คือ "เพราะว่าโรงเรียนไม่มาหาเรา เราเลยต้องไปโรงเรียน"
พอมาอ่านบันทึกอาจารย์ เลยเริ่มสงสัยว่า เอ๊ะ! หรือว่าคำตอบของเพื่อนผมตอนนั้น จะใช้ได้
ทำอย่างไรน๊า..โรงเรียนถึงจะเดินได้ เหมือนโรงเรียนชาวนาที่สุพรรรณบุรี หรือโรงเรียนพ่อแม่ที่เกิดขึ้นหลายแห่ง หรือโรงเรียนคุณอำนวยนครศรีธรรมราช
ที่จังหวัดผมเด็กๆไปเรียนโรงเรียนในเมืองที่มีชื่อเสียงเก่าแก่มานาน ต้องเสียค่ารถประจำเดือนละเป็นพันๆ บางรายมีการวิ่งเต้นกลัวเข้าไม่ได้หลายกะตัง ผมก็คิดอยู่ว่าทำไงจะให้เด็กเรียนใกล้บ้าน.....อิอิ.อิ ได้แต่คิด ก็โรงเรียนที่ผมว่ามีอาคารหลายชั้น มีลิฟต์ มีหอประชุมใหญ่โตติดแอร์ มีคอนพิวเตอร์แยะมากมีอินเตอร์แรงๆ มีสวนดอกไม้สวยๆอีกมากมาย แต่ที่โรงเรียนใกล้บ้านไม่มี ถ้ามีแบบนั่นอาจจะไม่มีใครไปเรียนที่อื่นก็ได้นะครับ คิดแล้วเพลียสมอง ขอให้โชคดีครับ
เห็นด้วยครับ บีเวอร์ว่า น่าคิด.......
น่าคิดว่า เราจะวัดแววเด็กเพื่อส่งเสริมความสามารถของเขาได้อย่างไร
ขอบคุณที่แวะมา
สวัสดี คุณ Thawat
ยินดีที่รู้จักครับ
ที่กำแพงเพชร ก็มีการจัดการศึกษาโดยครอบครัวครับ เดิมมี ๒ ครอบครัว เดี๋ยวนี้เหลือครอบครัวเดียว กำลังเรียนช่วงชั้นที่ ๓ หากถามผมว่า คุณภาพการศึกษาดีไหม ผมตอบได้เลยว่า ดีสำหรับเขา (อีกครอบครัวหนึ่งกลับเข้าเรียนในระบบครับ)
สวัสดี ท่านประจักษ์ กลับจากเที่ยวที่ไหนมาครับ ผมละอิจฉาจัง.....ฮิฮิ ผมมองว่า..เป็นการสนองความต้องการของมนุษย์ตามแนวความคิดของมาสโลว์ (Maslow) ลูกเีรียนโรงเรียนใหญ่ พ่อแม่ก็มีหน้ามีตา ค่าใช้จ่ายจะสูงแค่ไหนไม่สน... โรงเรียนดีใกล้บ้านก็มีครับ ่เป็นโรงเรียนในฝัน (เดิม) บางโรงยังไม่ตื่นจากฝันเลย นั่นซีครับ ไม่ต้องคิดแทนกระทรวงศึกษาธิการดีกว่านะครับ จะได้ไม่เพลียสมอง ฮิฮิ ขอบคุณครับ โชคดีเช่นกันครับ
ตอนดิฉันเป็นเด็กไม่เคยคิดเลยว่าโรงเรียนที่บ้านดีอย่างไร พอจบมามองย้อนไป รู้สึกดีที่จบจากโรงเรียนประถมของหมู่บ้าน รู้สึกว่าโรงเรียนอยู่ใกล้บ้านได้อยู่กับพ่อกับแม่ตอนเด็ก เด็กๆยังต้องการสัมพันธภาพและความอบอุ่นในครอบครัวค่ะ
พอเรียนมหาลัยจนทำงาน ออกจากบ้านมาทำงานไกลบ้าน รู้สึกดีเลยว่า ช่างโชคดีที่ตอนเด็กยังได้อยู่กับแม่ พ่อ (เพราะจบมหาลัยมาไม่ได้อยู่บ้านอีกเลย อนาคตไม่มีใครรู้ได้ค่ะ)
จึงคิดว่า โรงเรียนที่บ้านก็ดีเหมือนกันค่ะ
"ทุกสิ่งที่ผู้ใหญ่ปฏิบัติต่อเด็ก มีผลต่อบุคลิกภาพของเด็กเสมอ"
ครอบครัวของคุณดุจดาวอบอุ่นมากครับ (จากบล็อกวันขึ้นปีใหม่) เพราะได้รับความรักจากที่บ้านตั้งแต่เด็กๆ นี่เอง
ใช่ครับ..อนาคตไม่ีมีใครรู้ ดังนั้น เราจึงต้องทำดีในวันนี้ให้มากที่สุด
เรื่องยุบหรือไม่ยุบ ไม่ขออกความเห็น
แต่อยากจะว่าถ้านักเรียนมันน้อยนัก ที่น้อยไม่ใช่เพราะไปเรียนในเมืองหมด ทีน้อยเพราะเด็กมีจำนวนน้อยลง สามเหตุมาจาก พ่อแม่คุมกำเนิดหรือเปล่า เด็กตามบ้านนอกน้อยจริงๆ
และก็เห็นบางโรงเรียน ระดับประถม มีนักเรียนชั้น ปอ 6 มีจำนวนแค่ 8 คน คือคนที่ไม่สามารถไปเรียนในอำเภอกับเขาได้ นอกนั้นไปหมด
พูดยังกับว่า ครูสอนไม่ดี เด็กมีทางเลือก เลยเลือกหนีหมด
เมื่อมีโรงเรียนสร้างไว้ให้แล้ว ถ้ายุบก็คงเป็นโรงเรียนร้างไปเลย สภาพดีอยู่
มีความเห็นแค่นี้ นะ ห่างไกลครูนานแล้ว
ทุกวันนี้โรงเรียนเอกชนก็แข่งขันกันมากมาย สู้เอกชนได้ไหมหละ นี่ก็เป็นทางเลือกหนึ่งเช่นกัน
ความเห็นแค่นี้ นะ ห่างไกลครูนานแล้ว
ความเห็นคมดีครับ
เอกชนใช้รถตระเวนรับไปเรียน
เป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ปกครอง เพื่อลูกหลานของท่านเหล่านั้น
ผมก็ใกล้เกษียณ จึงออกความเห็นแค่นี้แหละครับ แหะ แหะ
สวัสดีค่ะท่าน
เมื่อกาลก่อน โรงเรียนในหมู่บ้านซึ่งแต่เดิมมีเด็ก ๆ เรียนมากมาย ปัจจุบันเด็ก ๆจำนวนลดน้อยถอยลง บางโรงเรียนมีเด็กไม่ถึง 20 คน ครู 5-6 คน เปิดสอนตั้งแต่อนุบาลถึงป.6 ครั้นจะลดอัตราจำนวนครูลง โรงเรียนเกิดปัญหาครูไม่ครบชั้น ไม่ครบสาขาวิชา ครูขาดขวัญกำลังใจ งานครูมาก(ทั้งงานประจำชั้น งานบริหารจัดการ งานโครงการต่าง ๆ) ครูคนหนึ่งลาป่วย อีกคนติดอบรม อีกคนเป็นเวรทำหน้าที่ปรุงอาหารกลางวันให้เด็ก เด็กน้อยเอ๋ย....เจ้าไม่ได้เรียนอย่างมีคุณภาพแน่นอน
กาลปัจจุบันการคมนาคมสะดวก เด็ก ๆ ไปเรียนโรงเรียนไกลบ้านได้ อาจเหลือตำบลละ 1 โรงเรียน ยุบมารวมกัน และจัดการศึกษาให้ "ดีที่สุด" เป็นโรงเรียนดีใกล้บ้านในตำบล แต่ต้องมีงบประมาณอย่างพอเพียง การบริหารจัดการที่ดี สภาพแวดล้อมดี ครูดีมีคุณภาพ จึงจะได้มาซึ่งคุณภาพการศึกษา
หากโรงเรียนทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชนมีความศรัทธา ก็จะนำบุตรหลานมาเข้าเรียนในโรงเรียนนี้
ดังนั้นครูตาคิดว่าการยุบรวมดีที่สุดค่ะ โรงเรียนร้าง...น่าจะมีระบบจัดการที่ดีนำไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์ได้ เช่น ที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน ศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์เรียนรู้อาชีพชุมชน ศูนย์กีฬา ฯลฯ
สวัสดีครับ ครูตา
เวลาทำให้สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไป ผมก็ชักจะเห็นด้วยกับหลายท่านว่า
ยุบรวมน่าจะดี
ขอบคุณครับ
ครูกลางทุ่ง
ตามความเห็นของผมนะครับ มีความจำเป็นต้องยุบ ครูคือแม่พิมพ์(แบบหล่อปูนซิเมนต์) ถ้ามีมากแบบ สิ่งที่หล่อออกมาจะสวยวิจิตรพิสดาร ถ้าครูน้อย(มี 3 คน)นักเรียนน้อย แบบอย่าง และการสอนที่มีอิทธิพลต่อจิตใจเด็กจะไม่หลากหลาย มุมมองของเขาอาจไม่กว้างพอ ครูใช้โรงเรียนดีประจำตำบลให้เป็นประโยชน์ โรงเรียนแบบนี้น่าจะมีครูมากกว่า 10 คน เครื่องมือเขาน่าจะพร้อม เดินทางไม่ไกล ควรทดลองในโรงเรียนที่ชุมชนเขาเห็นด้วยก่อน น่าจะลดค่าใช้จ่ายของรัฐลง และสุดท้ายที่มีนโยบายจะเพิ่มค่าหัวนักเรียนขึ้นนั้นจะทำได้(ปัจจุบันดีกว่าเดิมเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่พอถ้าเทียบแล้วยังน้อยเกินไป) สถานที่เรียนของโรงเรียนประถมศึกษาควรดีกว่านี้ อาคารเรียนแบบ ป 1 ฉ นั้นหลายโรงผุแล้วผุอีก เพราะอายุใกล้จะ 40 ปี บ้านพักครูดูไม่ได้ ถ้ายุบจะมีเงินมาพัฒนาเรื่องเหล่านี้
สวัสดีครับ คุณครูกลางทุ่ง
กระแสยุบโรงเรียนคราวนี้มาแรง คาดว่าอีกไม่นานน่าจะมีข้อยุติ
โดยส่วนตัวผมก็เห็นด้วยกับการยุบรวมนะครับ เหตุผลก็คล้ายๆ กัน
ขอบคุณครับ
เรียนห้องละ40-50คนแน่ใจหรอว่าจะรู้เรื่องทุกคน เหมือนกินข้าวกินคนน้อยๆกินอิ่มใครไม่กินก็บังคับเพราะมองเห็น กับแย่งกันกินคนกินไม่ทันก็ผอมไปเลย ก็แล้วแต่ท่านๆ เรื่องเงินพัฒนาไม่พอ ผมว่าหยุดแจกชาวบ้านมั่งก็ได้นะแจกปีหนึ่งหลายรอบ จนไม่ทำอะไรกันแล้วนั่งรอเงินที่หลวงแจก ขอโทษถ้าข้อความนี้ไม่ถูกใจใครนะครับ
สาเหตุสำคัญคือ คุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในเมืองกับนอกเมืองต่างกันมาก
ทุกคนคงต้องการให้ลูกหลานได้รับประสบการณ์ที่ดี จึงต้องหาวิธีให้เขาได้เรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง
ครูไม่อยากสอนเด็กในบรรยากาศที่อึดอัดแออัดยัดเยียด
ผมเห็นด้วยกับท่านผู้ปกครองในเรื่องนี้ครับ...
ขอบคุณมากครับ
ครูน้อยจริงๆ
ยุบรวมกับโรงเรียนใกล้กันในพื้นที่ดีที่สุดค่ะ ขอยกตัวอย่างนะคะ ที่โรงเรียนกำลังประสบปัญหาขณะนี้คือ 2 หมู่บ้านมี 2โรงเรียน โรงเรียนหนึ่งขยายโอกาส นักเรียน 200 โรงเรียนที่ดิฉันอยู่ ครู 5 คน นักเรียน 40 คน นักเรียน 8 ชั้นเรียน ครูไม่ครบชั้น ค่าอาหารกลางวันไม่พอ ครู 5 คน เป็นโรคประจำตัว 2 คน มาทำงานแทบไม่ได้ เหลือ 3 คนและ อีก 1 คนสอบผู้บริหารได้ ไม่ค่อยมาโรงเรียนเหลือที่ปฏิบัติหน้าที่ได้แค่ 2 คน หน้าที่สอนจนไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรแล้ว การสอนคละชั้นหรือสอนตามแผนโรงเรียนขนาดเล็กก็ไม่ได้ผล ให้ฟังครูที่อยู่จริงบ้าง เวลาประชุมอย่าเชิญแต่คนที่นั่งคิดมาออกความเห็นอย่างเดียว ครูนะคะสอนจนหลอดเสียงอักเสบหาหมอกินยาจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว แถมต้องทำงานอื่นๆ ที่สพป.มอบหมายเหมือนโรงเรียนอื่นทุกอย่างแล้วอย่างนี้เด็กจะมีคุณภาพได้อย่างไร เข้าใจที่ทุกคนอยากให้เด็กอยู่ในพื้นที่แต่ถ้ามันใกล้กันแค่ 2 กิโลเมตรคงไม่ลำบากมากขนาดนี้ เครียดมากๆ เลยค่ะอยากให้ผลสัมฤทธ์ดีดังที่สมศ.กำหนดแต่มันเกินความสามารถครูตัวน้อยๆ คนนี้จริงๆ
สวัสดีครับ คุณครูน้อยจริงๆ
ผมเชื่อว่าเสียงเรียกร้องจากคุณครูน้อยจริงๆ จะได้ยินไปถึง สพป. อย่างแน่นอน และจักเกิดประโยชน์ต่อการพิจารณายุบรวมโรงเรียน
ขอบคุณครับ