หลาย ๆ คนมักบ่นว่าธรรมะนั้นเชื่องช้า งุ่มง่าม และไม่ทันกิน แต่โบราณท่านเคยสอนลูกหลานไว้เป็นสุภาษิตว่า “ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม” ช้าอย่างมีสติ ช้าอย่างถูกต้อง ไม่เร็วอย่างถูกใจ เหมือนกับใคร ๆ ที่มักใช้ “อธรรม” ที่ปราดเปรียว...
ความปราดเปรียว หัวเส ตามวิถีทางแห่งอธรรมนั้นแม้จะไปเร็วแต่ก็ไปไม่ได้ไกล
เปรียบได้ดั่งนิทานปรำปราเรื่อง “กระต่ายกับเต่า” ที่จุดสิ้นสุดแห่งความสำเร็จนั้นตกทอดออกผลกับผู้ที่ก้าวเดินด้วยความไม่ประมาท
คนที่ขับรถดีนั้นย่อมมิใช่คนที่ขับรถได้เร็ว ขับรถได้ไว แต่คนที่ขับรถดีไซร้คือคนที่ขับรถอย่าง “ไม่ประมาท”
ธรรมะนั้นแม้ก้าวแรกจะดูเชื่องช้า ค่อยเป็น ค่อยไป ดูแล้วไม่ค่อย “ทันใจวัยรุ่น”
แต่ความช้าที่วัยรุ่นชอบดูแล้วเหมือน “งุ่มง่าม” นั้น เป็นย่างก้าวที่มั่นคง
แรงแห่งเท้าที่ก้าวเดินด้วยพลังแห่งธรรมะนั้น หนักแน่น แข็งแรง แข็งแกร่ง เปรียบเสมือนกับหินผาหรือภูเขาอันสูงใหญ่ที่ต้องใช้เวลาก่อร่าง สร้างตัว แรมเดือน แรมปี แรมร้อยปี แรมพันปี
แต่ภูเขาเหล่านั้นก็สามารถยืนหยัน ตั้งกระหง่าน ท้าทายกระแสลม แสงแดด พายุต่าง ๆ ที่ถาโถมโหมกระหน่ำ
แตกต่างกับอิฐ หิน ปูน ทราย ที่รวมตัวกันขึ้นเป็นคอนกรีตตามฝีมือของมนุษย์
ถึงแม้จะสร้างได้ สร้างง่าย สร้างเร็ว แต่ต้องประสบกับอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย ภัยใด ๆ ทั้งหลาย ก็ลบเลือน พังทลาย ดับสิ้นสูญในพริบตา
ธรรมะนั้นเป็นต้นแบบ ตัวอย่างแห่งความอดทน
ความวิริยะ อุตสาหะ ความพากเพียร การตั้งใจ ตั้งใจ ด้วยแรงกายและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “แรงใจ”
ความตั้งมั่นที่สร้างสรรค์ด้วย “ศรัทธา” ถึงแม้นจะเชื่องช้า แต่มั่นคง
ความมั่นคงนี้แลทำให้ชีวิต เป็นชีวิตที่ประเสริฐ บริสุทธิ์ และสิ้นสุดแห่งความเห็นแก่ตัว
ธรรมะถึงแม้นจะเชื่องช้า งุ่มง่าม แต่ถ้าหากวัดด้วยปัจจัยนานับประการย่อมประเสริฐกว่าอธรรมที่ปราดเปรียว
ขอให้ท่านทั้งหลายก้าวเดินอย่างมั่นคงด้วยธรรมะ
ถึงแม้นจะช้า แต่ทุกย่างก้าวนั้นจะทรงคุณค่า และน้อมนำพาไปสู่มรรคาอันประเสริฐ
ธรรมะนั้นคือ คุณากร เป็นคุณอันเลิศบรรเจิดยิ่ง
หากก้าวมั่นด้วยธรรมน้อมนำจริง ย่อมปลิดทิ้งความประมาท มิพลาดเอย...
ไม่มีเราไม่มีเขา ก็คือธรรม อย่างหนึ่ง
น้อมรับคร้าบ....
ช้าๆ แต่มั่นคง...
จริงครับ ช้าแต่มั่นคง ถ้าไม่วอกแวกก่อน คงถึงจุดหมาย