10 มีนาคม 2552
รถไฟขบวนเที่ยวพิเศษสายทางเลือกแผ่นดินสยาม-พม่า ถูกฟ้าผ่าสะดุดรางระหว่างทางเพราะเจ้าของบ้านเลขที่ 38 กักรถไฟไว้ตรวจสอบชั่วคราว “เดี๋ยวก่อน ๆ อย่าเพิ่งไป”
5 วันที่แล้ว ผมพิมพ์จดหมายเป็นคำร้องให้กับแม่ต่างด้าวชาวพม่า เนื่องมาจากหนังสือสั่งการที่ มท.0309.1/ว 8 กำหนดว่า “เด็กที่ขอแจ้งการเกิดเกินกำหนดจะต้องเป็นบุคคลที่ยังไม่ได้รับการจัดทำทะเบียนราษฎรและไม่มีเลขประจำตัวประชาขน 13 หลัก”
เด็กในขบวนรถไฟซึ่งเกิดสิงหาคม 2547 จึงถูกตรวจสอบว่าในแต่ละบ้านที่แม่พ่อดำรงอยู่นั้น มีเด็กเหล่านี้อยู่ในบ้านดังกล่าวแล้วหรือยัง หากไม่มีจึงอนุญาตให้แจ้งเกิดและออกสูติบัตรได้ หากมีก็ไปขอหนังสือรับรองการเกิดตาม พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ.2551 มาตรา 20/1แทน
ปัญหาอยู่ที่เทศบาลเมืองระนองไม่สามารถตรวจสอบเลขรหัสประจำบ้าน ที่อยู่นอกเขตเทศบาลได้ จึงปรารถนาตรวจสอบท.ร.38 (ทะเบียนประวัติ) ให้สิ้นข้อสงสัยว่าไม่มีเด็กเหล่านี้อยู่จริงจึงจะออกสูติบัตรด้วยความสบายใจ ว่ามิได้ทำการสิ่งใดผิดไปจากหนังสือสั่งการข้างต้น
ผมจึงช่วยเทศบาลระนองด้วยการให้แม่พ่อพิสูจน์ตัวเองว่าบ้านที่แม่พ่ออยู่นั้นหามีเด็กที่จะไปขอแจ้งการเกิดแต่ประการใด ด้วยการพิมพ์จดหมายเพื่อให้ทางที่ว่าการอำเภอเมืองระนองคัดท.ร.38 ให้กับเด็กเพื่อนำไปเป็นหลักฐานแจ้งการเกิดยังเทศบาลเมืองระนองต่อไป
ผลปรากฏว่าที่ว่าการอำเภอปฏิเสธจดหมายดังกล่าวโดยให้เหตุผลว่าแม่พ่อของเด็กไม่มีอำนาจขอคัด
ท.ร.38 แต่ไม่มีให้ผมเห็นให้หายสงสัยว่าแม่พ่อพม่าเหล่านั้นพูดจริงดังว่าหรือไม่
วันนี้ผมเลยจัดการให้นางโม่โมเอ่ ทำหนังสือมอบอำนาจให้ผมไปขอคัดท.ร.38 ของรหัสบ้านเลขที่ 8501-014603-7 เนื่องจากหล่อนยืนยันกับผมว่ามิได้นำด.ญ.ตินซาพิว ไปจัดทำทะเบียนประวัติที่ใด ๆ มาก่อน เหตุว่าไม่แน่ใจว่าการนำลูกไปจดทะเบียนในครานั้นจะส่งผลร้าย ฤๅผลดีต่อตัวเด็ก
แต่แล้วกลางวันแสก ๆ ในยามที่ท้องฟ้าปราศจากเมฆฝน ฟ้าก็ผ่ากลางที่ว่าการอำเภอเมืองระนอง ปฏิเสธคำร้องขอคัดท.ร.38 ของนางโม่โมเอ่ ด้วยเหตุว่านางหาได้มีอำนาจในการขอคัดท.ร.38 แต่ประการใดไม่ นางจึงต้องกลับบ้านไปพร้อมกับความผิดหวัง และความหวังที่จะมาต่อสู้ในคราใหม่
มิอาจชวนให้นึกคิดเลยว่าเรื่องนี้จะลงเอยประการใด นางจะได้แจ้งเกิดด.ญ.ตินซาพิวบนผืนดินไทยคราใด ฤๅจะต้องประดาบกับที่ว่าการอำเภอเมืองระนอง ทั้ง ๆ ที่ใจมิปรารถนาจะทำเยี่ยงนั้น
สงสัยต้องไปเยี่ยมระนองอีกรอบนะคะ
สงสัยจังว่า นายอำเภอเมืองระนองมาประชุมกับอธิบดีกรมการปกครองเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๒ ไหมนะคะ
มาเยี่ยมบล็อกก่อน
พี่รีย์ส่งลิงค์ให้
น่าอ่าน แต่ยังไม่ได้อ่าน
หลังจากเจ้าหน้าที่ปฏิเสธคำร้องขอคัดท.ร.38 แล้ว มีทางแก้อยู่ 2 วิธี
1.ขอให้เจ้าหน้าทีเทศบาลทำหนังสือขอคัดท.ร.38 ไปยังที่ว่าการอำเภอ เองซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่รัฐติดต่อกับรัฐ อาจจะให้เวลาเร็ว หรือนานก็ได้
2.วิธีนี้ก็คือให้เจ้าของรหัสบ้านดังกล่าว ซึ่งในที่นี้คือ บ้านเลขที่ 149/31 หมู่ 2 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง
ทั้ง 2 วิธี เจ้าหน้าที่อำเภอแนะนำมา แต่อย่างไรก็ตามผมก็คิดว่าผู้มีส่วนได้เสียก็สามารถคัดได้
ในกรณีนี้ก็คือโมโมเอ่ ผมก็ไปบอกเธอ เธอว่าจะไปให้นายจ้างช่วยจัดการให้ ดีครับที่มีนายจ้างคอยดูแล ช่วยกันหลายฝ่ายหน่อย
สงสารแต่พวกที่เปลี่ยนนายจ้างไป แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนทะเบียนประวัติก็จะไม่สามารถใช้วิธีที่ 2 ได้ เหลือแต่วิธีแรกวิธีเดียว
ต่อจากนั้นอีกประมาณ 2 สัปดาห์ก็เห็นตามสูติบัตรข้างล่างนี้แหละครับ
หากสังเกตุจะเห็นได้ว่าชื่อบิดาในท.ร.1/1 กับในสูติบัตรชื่อไม่ตรงกัน
ซึ่งชื่อทั้ง 2 ก็คือชื่อบิดา ชื่อตามความเป็นจริงแต่คนละมุมมอง อิ อิ
จนถึง ณ ปัจจุบัน มีรายชื่อเด็ก ๆ ที่รอการตรวจสอบท.ร.38 ค้างอยู่ 50 คน ซึ่งไม่ได้รับการแจ้งการเกิด
หากเราสามารถแก้ที่ระบบคอมพิวเตอร์ ให้ทางเทศบาลเมืองระนอง สามารถดูท.ร.38 ของสำนักทะเบียนอื่นได้ ปัญหานี้ก็จะหมดไป เด็ก ๆ ก็จะได้รับการแจ้งการเกิด
การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าคือ ผมช่วยร่างหนังสือเหมือนกับที่ทางเทศบาลร่าง เพื่อลดงานของทางเทศบาล โดยมอบร่างหนังสือนี้ให้แก่พ่อแม่เด็ก เพื่อนำไปให้ทางเทศบาลพิจารณา โดยทางเทศบาลไม่ต้องเสียเวลากับการร่างจดหมายขึ้นมาใหม่
ผมก็ได้แต่หวังว่าการร่างจดหมายนี้คงจะสำเร็จ