อนุทินฉบับยาวเพื่อเตือนความจำตนเองอีกครั้ง...
ผ่านไปสองเดือนกว่า กับการที่ไอ้หนูวัวลุยน้ำได้ฉวยโอกาสหักด่านประชาธิปไตยไปเป็นหัวโขนของประเทศ ท่ามกลางเสียงก่นด่าทั่วประเทศ
ก่นด่าด้วยเหตุผลที่มาโดยไม่ได้รับฉันทามติจากประชาชน
ก่นด่าด้วยเหตุผลที่ทำทุกวิถีทางที่ให้อีกฝ่ายย่อยยับ โดยไม่เคารพกฎกติกา
ก่นด่าด้วยเหตุผลที่ทำตัวไม่เป็นลูกผู้ชาย จูบปากกับคนที่ตนเองด่าแทบไม่มีดี ก็ยี้ห้อยร้อยยี่สิบน่ะแหละ
ก่นด่าด้วยการเริ่มต้นด้วยการโกงกินตั้งแต่ นมโรงเรียน แล้วมายัดความผิดให้รัฐบาลเก่า ทั้งที่ตนเองเป็นคนประกาศแหล่งที่มาสามครั้งไม่เหมือนกัน และตนเองกำลังกำอำนาจควบคุมอยู่ในมือ
ก่นด่าด้วยการต่อยอดการโกงกินด้วย ปลากระป๋องเน่า
ก่นด่ามากขึ้นด้วยนโยบายผลาญเงินทุกวิถีทางตามตำราวัวลุยน้ำที่เด็กสองคนเรียนมา ตามตูดฝรั่งมาติดๆ
ก่นด่าต่อเนื่องเพราะความไม่ยุติธรรมที่เห็นได้จากการกระทำต่อกบฎเสื้อเหลืองและแก็งเสื้อแดงที่ต่างกัน
และแล้วก็เห็นได้ชัดขึ้นกับนโยบายออกแคมเปญ ...ไอ้หนูลุยทุ่ง... เริ่มที่ลพบุรี
ไอ้หนูวัวลุยน้ำครับ...ยังอุตส่าห์ให้สัมภาษณ์หลังโดนปาขวดน้ำ ให้ประชาชนเค้าเห็นหน้าปุเลี่ยนๆ แล้วรู้หรือยังครับว่าตอนตัวเองระดมม็อบไปไล่คนอื่นเขา คนอื่นเขารู้สึกอย่างไรบ้าง ที่ว่าคนอื่นว่าหน้าด้านหน้าทนน่ะ รู้สึกตอนนี้หนูหน้าหนากว่านะ...ลูกพ่ออัด
สุดท้ายที่ประชาชนจะมาไล่ ก็คือกำลังจะสร้างหนี้ให้ประชาชนอีกคนละกว่าหมื่นบาท...ไอ้หนูครับคิดอะไรอยู่...
เรื่องที่สองก็ของกบฎเสื้อเหลือง...
สุดท้ายก็หางโผล่จนได้ จะมาแก้เกี้ยวว่าเป็นการโยนหินถามทาง
จะมาแก้เกี้ยวว่าพรรคการเมืองปัจจุบันไม่มีคุณภาพ
ไอ้พวกกบฎครับ...ประชาชนเค้าเห็นลิ้นไก่ตั้งแต่ปักหลักที่ทำเนียบแล้ว
ว่าสุดท้ายต้องออกมาอีหรอบนี้...อยากรู้จังว่าตั้งพรรคการเมืองแล้วใครจะเลือก...
สุดท้ายคงต้องขอคารวะตั้งชื่อกับผลงานทั้งหมดนี้เหมือนกินข้าวราดแกงหลายอย่างว่า "ข้าวราดน้ำพะโล้ใส่แกงเหลืองสะตอและถั่วดำ"
ประเทศจะมุ่งไปสู่จุดหมายใด...ยังคงน่าติดตามด้วยจิตคารวะ...
ไม่มีความเห็น