ตามที่ได้เข้าร่วมประชุมวิชาการทันตสาธารณสุข ของวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดขอนแก่น ทำให้ได้รับความรู้ใหม่ๆเพิ่มขั้นอย่างมากมาย ก่อนหน้านี้ได้เข้าร่วมประชุมทางวิชาการทันตสาธารณสุข ของวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดตรัง แต่ไม่ได้นำมาลงในบล๊อก ครั้งนี้จึงถือโอกาสนำบทความหรือความรู้ที่ได้รับจากอาจารย์ที่มาบรรยายของจังหวัดขอนแก่นมาลง เพื่อเป็นความรู้ให้กับบุคคลที่สนใจ และเจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนั้น ซึ่งในการประชุมครั้งนี้อาจารย์ได้นำความรู้ใหม่ๆที่เรายังเคยเจอ มาเล่าให้ฟัง ซึ่งในปัจจุบันมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ขึ้นมามากมาย ทำให้การรักษา หรือวัสดูที่ใช้ในงานทันตกรรม มีการพัฒนามากยิ่งขึ้น ซึ่งการที่เราได้เข้าร่วมรับฟังถือว่าเป็นสิงที่ดีอย่างมาก ทำให้เราสามารถนำมาปรับใช้ในงานทันตกรรมของเราได้
ครั้งนี้ขอยกเรื่องความปลอดภัยของงานทันตกรรมมาฝากนะคะ
เรื่องภาวะฉุกเฉินทางทันตกรรม (ผศ.ทพ.ศิริพงศ์ สิทธิสมวงค์)
ภาวะฉุกเฉินทางทันตดรรรมสามารถเกิดขึ้นได้ตลิดเวลาที่ทำการรักษาผู้ป่วยและสามารถเกิดได้กับทุกหัตถการเช่นกัน การป้องกันและเตรียมพร้อมที่จะช่วยชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ รวมทั้งตัวทันตบุคคากรต้องพร้อมที่จะจัดการผู้ป่วยด้วย นอกจากนั้นอาจจะกิดภาวะฉุกเฉินนอกเก้าอี้ทำฟัน เช่นที่นั่งรอหรือมนห้องน้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการหน้ามืดเป็นลม (Sycope) หรืออาการชัก (Seizure) ซึ่งมักจะเกิดความกลัวหรือควมเครียด รวมทั้งในผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้วเช่น ความดันโลหิตสูง (Hipertension) เบาหวาน (Diabetes mellitus) หลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary arteriosclerosis ) เป็นต้น ปัจจุบันมีโอกาสที่จะทำให้เกิดภาวะฉุกเฉินได้มากขึ้น เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นดังนี้
1. จำนวนผู้ป่วยสูงอายุมากขึ้น
แม้ว่าผู้ป่วยที่อายุมากจะมีสุขภาพที่ดีก็ตามแต่มักจะมีโรคที่แอบแฝงมาที่ไม่แสดงอาการในระบต่างๆ เช่น ตับ ไต ปอด ต่อมไร้ท่อ ระบบประสาท โดยเฉพาะระบบหายใจและหลอดเลือด ซึ่งระบบต่างนี้ จะมีประสิทธิภาพที่ลดลงอาจทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เช่นหัวใจวาย (Heart failure) เจ็บหน้าอก (Angina pectoris) โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในภาวะเครียด กังวล หรือกลัวขณะรับการรักษาทางทันตกรรม ดังนั้นการลดความเครียดที่จะเกิดขึ้นจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันภาวะฉุกเฉิน
2. ความก้าวหน้าทางการแพทย์
ปัจจุบันผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวมีโอกาสที่จะใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไปมากขึ้น ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะพบกับผู้ป่วยกลุ่มนี้มาทำฟันมากขึ้น การฉายรังสี การมช้เคมีบำบัด การผ่าตัดต่างๆ การปลูกถ่ายอวัยวะ เหล่านี้เป็นวิทยาการที่ก้าวหน้าไปมากทำมห้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถมาทำฟันได้มาก จึงต้องระวังารเกิดภาวะฉุกเฉินที่มกขึ้นด้วย
3. การให้เวลาทำฟันที่นาน
วิธีการที่ทันสมัยรวมทั้งเครื่องมือที่ดีทำให้สามารถให้การรักษาทางทันตกรรมได้มากและซับซ้อนขึ้น ผู้ป่วยจะใช้เวลานานขึ้นในการรักษาแต่ละครั้งทำให้มีโอกาสเกิดภาวะฉุกเฉินได้มากขึ้น
4. การใช้ยาที่มากขึ้น
จากความก้าวหน้าทางการแพทย์ ทำให้มีการผลิตยาตัวใหม่ๆ ขึ้นมาซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียงมากขึ้นหรือมีผลต่อการรักษาทางทันตกรรมมากขึ้นหรือมีผลต่อการรักษาทางทันตกรรมมากขึ้น หรือยาที่ใช้ในทางทันตกรรมเอง เช่น ยาชา ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ ยาระงับประสาท รวมทั้งสเตียรอยด์ ทำให้มีโอกาสทีจะเกิดการแพ้ยาหรือการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้มากขึ้น
ขอบคุณครับ คนที่ไม่ได้เข้าประชุมด้วยก็จะได้มาอ่านและรู้ด้วย