ลำเนาโขง


สายน้ำโขง สายน้ำแห่งชีวิต

วันนี้ได้เห็นวิถีชีวิตเล็กๆ ของผู้คนริมฝั่งโขง...

 

ช่วงนี้ของทุกปี ระดับน้ำที่แม่น้ำโขงเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากระดับน้ำลดลงทำให้เห็นหาดทรายทอดยาว คนในเมืองนี้บอกว่ามันเป็นอย่างนี้มานานแล้ว แต่สำหรับฉันคนที่เพิ่งเข้ามาอาศัย ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ได้เห็นหาดทรายสีทองทอดยาวหลายกิโลเมตร

 

 


เมื่อครั้งหน้าฝนระดับน้ำโขงสูงจนเข้าท่วมพื้นที่หลายหมู่บ้านตามแนวแม่น้ำ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาวที่ไม่มีเขื่อนกั้นน้ำริมตลิ่งเหมือนฝั่งไทย น้ำท่วมอยู่หลายวันก่อนลดระดับลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งกลายเป็นหาดทรายให้ผู้คนในเมืองและนักท่องเที่ยวได้ลงไปเดินสัมผัสทรายน้ำโขง และลงไปทำกิจกรรมยามว่างที่ปีหนึ่งมีระยะเวลาไม่นานที่ได้มีโอกาสลงไปเดินเล่นกลางลำน้ำ



ถึงฉันจะอยู่มาสองปีแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เดินลงไปกลางน้ำโขง คิดดูซิว่าฉันได้ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างประเทศสองประเทศ และยืนอยู่กลางแม่น้ำนานาชาติ น้ำที่ฉันเดินระอยู่นี้เป็นน้ำที่ไหลมาจากประเทศจีนโ้น้น และกำลังจะไปออกสู่ทะเลจีนใต้ที่ประเทศเวียดนาม(คิดได้ไกลดีแท้) ปกติแล้วสีของน้ำโขงจะมีสีแดงขุ่นซึ่งเป็นสีของตะกอนที่ถูกน้ำพัดมา แต่เวลานี้ที่น้ำดูไหลเอื่อยๆ กลับมีสีใสจนอยากจะกระโดดลงไปเล่นกับเด็กๆ ที่ฉันกำลังแอบเก็บภาพของพวกเขาอยู่

 

 

 

ระดับน้ำโขงที่ลดลงนี้ไม่ได้มีแค่การทับถมของตะกอนทรายเท่านั้น ยังมีสิ่งของแปลกๆ ที่ถูกน้ำพัดมาด้วยไม่ว่าจะเป็นอิฐมอญสมัยล้านช้าง ซึ่งเอกลักษณ์ของอิฐล้านช้างอยู่ที่การนำวัสดุ เช่นข้าวเปลือกและสีแดงของเนื้อดินนำมาผสมกันเป็นอิฐโบราณ กระโถนทองเหลืองรูปร่างหน้าตาแปลกๆ และทำให้อนุมานได้เล็กน้อยว่าน้ำคงจะไปเซาะเอาสมบัติใครที่ถูกฝังไว้ในสมัยโบราณแล้วข้าวของเครื่องใช้ของเขาจึงลอยมาปรากฎอย่างที่เห็น(เลยวางไว้อยู่บนทรายอย่างนั้นเพราะกลัวเกินที่จะเก็บมา)

 

 

 

เดินทอดอารมณ์กับอากาศยามเย็นที่แสนสบายใจเรื่อยๆ จนได้มาพบ หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ซึ่งเป็นชาวลาวข้ามฝั่งมาทำเพิง เพื่อใช้ในการหาปลา มองๆ ดูแล้วเหมือนไม่ได้อยู่อีสานอย่างไรอย่างนั้น

 

 

 

 

การได้มายืนดูเมือง นครพนม ตอนนี้ทำให้ได้เห็นภาพแปลกตาในมุมที่แตกต่างออกไปเพราะปกติจะยืนดูน้ำโขงจากแนวเขื่อนกั้นน้ำแต่ตอนนี้ได้มองเห็นเมืองจากกลางน้ำโขง ความรู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดเลยล่ะ เพียงแต่การไปเที่ยวครั้งนี้ไม่ได้เสียเงินสักบาท(ผิดconcept การท่องเที่ยวของพี่เบิร์ดน่ะนี่) แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ของการลงมาเก็บภาพบรรยากาศกลางโขงแล้วเพราะตั้งใจจะลงมาหลายครั้งแต่ก็ติดโน้นติดนี่มีข้ออ้างเลื่อนนัดกับตัวเองอยู่ตลอดวันนี้ได้มาซะที...

 

 

 

 

ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค นี้ ไปจนกระทั่งฤดูน้ำหลากจะกลับมาอีกครั้ง จังหวัดนครพนม จะทำพิธีเปิดหาดทรายทองศรีโครตบูรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของจังหวัด เปิดหาดแล้วจะมีกิจกรรมนันทนาการให้คนเดินทางมาดูมาผ่อนคลายกัน ยิ่งปีนี้สงกรานต์จะมีพิธีโยงสายสินธุ์สองฝั่งโขง เป็นอย่างไรฉันก็ไม่เคยเห็น เอาไว้เดี๋ยวถึงวันนั้นจะเก็บภาพมาฝากน่ะค่ะ

 


ปล. มีตำนานเล่าว่าถ้าหากได้ลงเล่นน้ำโขงท้ายเมือง(ตรงที่ฉันยืนอยู่) ของนครพนม คนๆ นั้นจะได้เป็นเขย หรือไม่ก็ได้เป็นสะใภ้ของเมือง(น่าลองดู)

หมายเลขบันทึก: 246901เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2009 14:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 05:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะ

แวะมาเยี่ยมชม ตามประสาคนไทยริมโขงเช่นกันค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท