เลิกทำ KM กันเถอะ


ถ้าจะเลิกใช้คำนี้ที่ปัจจุบันเข้าใจกันแบบคนละเรื่องเดียวกัน มาเป็นการสร้างปัญญา ก็จะได้หนีคำว่า "ตวามรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด" มามีปํญญาซะ เพราะยังไม่มีใครพูดว่า "มีปัญญาท่วมหัวเอาตัวไม่รอด"

ปัจจุบัน KM เป็นคำแฟชั่นที่ถ้าเป็นเพลงก็แทบจะเรียกว่า Top hit อันดับต้นๆติดต่อกันมาหลายปี จนมีคนนำไปดัดแปลง เลียนแบบ ตีความหมายตามสบายใจตัวเอง อย่างกว้างขวาง แบบแทบจะหาแก่นแท้ไม่เจอ ประมาณว่าเป็นยาดำในแทบทุกเรื่องก็ว่าได้ แต่พอถามว่าทำ KM เพื่ออะไร หลายคนก็อาจตอบว่าเป็นหลักวิชาการลึกซึ้งที่อธิบายได้ยาก ขอไม่อธิบายก็แล้วกัน อยากรู้ก็ลองทำดูเองซิ  ทั้งๆที่ KM เป็นการนำความรู้มาทำให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น หรือพูดง่ายๆก็คือการพัฒนาให้เกิดปัญญา ทั้งของตนเองและผู้อื่น ดังนั้นถ้าจะเลิกใช้คำนี้ที่ปัจจุบันเข้าใจกันแบบคนละเรื่องเดียวกัน มาเป็นการสร้างปัญญา ก็จะได้หนีคำว่า "ตวามรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด" มามีปํญญาซะ เพราะยังไม่มีใครพูดว่า "มีปัญญาท่วมหัวเอาตัวไม่รอด"

ถ้าเป็นเช่นนั้น KM ก็จะน่าจะเป็น WD (Wisdom Development) -การพัฒนาปัญญา แทน KMI ก็เป็น WDI จะได้ลดความสับสนลง เพราะคำว่าปัญญา ยังเป็นคำที่ยอมรับกันทั่วไปมากกว่า ความรู้ อยู่แล้ว ใช้ได้ในทุกเรื่องมากกว่าความรู้ ตัวอย่าง เช่น อาจมีคนพูดว่า "แม้จะมีเงินเป็นแสนล้านก็ไม่มีปัญญารักษาเก้าอี้ตัวเดียวไว้ได้" แต่ถ้าจะพูดว่า แม้จะมีเงินเป็นแสนล้านก็ไม่มีความรู้รักษาเก้าอี้ตัวเดียวไว้ได้ ก้คงฟังแบบแปลกพิลึก ดังนั้น เลิกทำ KM กันเถอะ เพราะ KM ถูกใช้ในหลากหลายความหมาย บางทีก็ข้างๆคูๆ จนแทบจะไม่เห็นแก่นแท้ของหลักการ KM จึงน่าจะมีการปรับกระบวนความคิดกันใหม่ได้หรืยัง เพื่อให้ปรัชญาของ KM มีความหมายและใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริงต่อไป

คำสำคัญ (Tags): #km
หมายเลขบันทึก: 24683เขียนเมื่อ 20 เมษายน 2006 17:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
You are right.Data is transformed to information information is transformed to knowledge and knowledge is transformed to wisdom.Wisdom is final goal.

โอ้ .. แจ่มและแจ๋ว ..
(ของคุณ pc ด้วยที่เขียน flow ง่าย ๆ ของ data -> information -> knowledge -> wisdom)

เพิ่งรู้จักตัว KM ก็วันนี้แหละค่ะ
แล้วสรุป Knowledge Management ไว้ทำอะไรกันหรือ?

คงต้องไป search google ก่อน แล้ว google เป็น KM ด้วยรึเปล่า?? .. รู้ไปแล้วเอาไปทำไรได้บ้างเนี่ย?

สวัสดีครับท่านอาจารย์

  • อ่านแล้วดีมากๆ เลยครับ เพราะปลายทางคือปัญญา และการนำปัญญาไปใช้
  • เรียนสูงๆนะลูกจะได้มีความรู้กลับไปพัฒนาประเทศ ก็จะเป็น เรียนสูงๆ นะลูกจะได้มีปัญญากลับไปพัฒนาประเทศ
  • หากแนวทางการพัฒนาจาก
  • ข้อเท็จจริงหลายๆ ข้อ รวมกันเป็นข้อมูล
  • ข้อมูลมากมาย ผ่านการประมวลผลเป็น สารสนเทศ
  • หลายๆ สารสนเทศ นำเข้าสู่ระบบคิดภายใน กลับเป็น พลังความรู้
  • หลายๆ พลังความรู้ในระบบคิด จะเกิดพลังปัญญาเกิดในระบบคิดภายใน
  • ในแต่ละช่วงระหว่างการพัฒนานั้น จะมีพลังหนึ่งที่แฝงอยู่คือ พลังจินตนาการ

ผมจะอ่านไปเรื่อยๆ นะครับ ตามกาลและเทศน์ ครับ

เทคนิคเก่า เอามาเล่าใหม่อะครับ KM เหมือนกับการเรียนการสอนแบบให้เด็กเป็นศูนย์กลาง มันมีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาแล้วครับ ยิงเรียนสูงขึ้น ยิ่งตีกรอบให้ความคิดแคบลง ถามดูนักวิชาการหลายคนเอาแบบจบ ดร.มาเลยก็ได้ ลองถามฉีกแนวออกไปทางสายอื่นมั่ง จะได้คำตอบแบบกระมิดกระเมี้ยน...อ้อมๆแอ้มๆ อย่างนี้เรียกว่าไม่ KM แต่ลองไปถามเรื่องการทำนาทำสวน เกษตรกรเก่งๆรับรองได้เลยว่าจะรู้ความหมายของ KM อย่างประจักษ์เลยที่เดียว (แฮ่ๆ แต่อย่าไปถมความหมายของ KM เชียวนะ ขอบอก)

นั่นแหละครับถึงบอกว่า KM มันเป็นเรื่องโบราณ แค่นำเอามาทำเป็นกระดาษเปื้อนหมึก ปัดผุ่นนิดๆ หน่อยๆ ก็หากินได้อีกนาน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท