เมื่อวันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา (๒๓ และ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒) เป็นโอกาสพิเศษอันยิ่งที่โยมพ่อและโยมแม่ของเราได้เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้เพื่อรับโยมน้องสาว ซึ่งได้รับเมตตาจากองค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์ให้มาเป็น “เด็กวัด” ระหว่างการฝึกงาน ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
ในวันนั้นเองเราก็ได้รับเมตตาจากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ให้แสดงธรรมเพื่อให้กำลังใจโยมพ่อ โยมแม่ ที่ท่านทั้งสองได้เสียสละ “ลูกชาย” อันเป็นเลือด เป็นเนื้อ เป็นเชื้อ เป็นไข และเป็นดวงใจ ให้มาประพฤติ มาปฏิบัติ มาเสียสละ มาทำความดีให้กับสถานที่แห่งนี้อันอยู่ภายใต้ร่มเงาของพระพุทธศาสนา
ถึงแม้นว่าครอบครัวของเราจะยากจน ไม่มีเงิน ทรัพย์สินใด ๆ ที่จะถวายเพื่อสร้างวัด สร้างอาราม
แต่โยมพ่อและโยมแม่นั้น ได้ถวายเราให้เป็นมหาทานอันยิ่งไว้กับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์
อิฐทุกก้อน กระดาษทุกแผ่น ตัวหนังสือทุกตัวที่เราได้ทำ ได้สร้าง ได้เขียนทุก ๆ อย่างนั้นล้วนแล้วเกิดขึ้นได้จากการเสียสละของโยมพ่อและโยมแม่ ผู้ที่ต้องตรากตรำ ทำงานหนักอยู่ทางบ้านเพื่อสร้างโอกาสให้เราได้มาอยู่วัด
ช่วงเวลาสองปีอันแสนวิเศษนี้ เราขออุทิศคุณงามความดีทั้งหลายที่ได้กระทำทั้งกาย วาจา และใจ ให้กับท่านทั้งสอง รวมทั้งบรรพบุรุษ บุพการีชน บุคคลอันเป็นที่รัก ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และที่ล่วงลับไปแล้ว ไม่ว่าท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านมีส่วนแห่งบุญกุศลที่เราได้ทำ ณ กาลบัดนี้
สถานที่แห่งนี้นั้นเป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ ซึ่งโยมพ่อและโยมแม่ได้หว่านเมล็ดพืชนั่นคือความเสียสละ “แก้วตาและดวงใจ” ให้ได้มาบ่มเพาะ เจริญพันธุ์ ให้กลายเป็นพันธุ์แห่งองค์พระตถาคต
พร้อมอันนี้ยังได้ใส่ปุ๋ยคือ น้ำใจอันงดงาม ความเป็นห่วงเป็นใยที่ส่งให้เราซึ่งเป็นพระลูกชายอยู่เสมอมิได้ขาด
บุญ กุศล เจตนารมย์อันใดที่ท่านทั้งสองได้กระทำในครั้งนี้ ขอได้บังเกิดมีแก่ท่านทั้งสอง
หากมีความทุกข์ใดอยู่ขอให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงนั้น หากมีความสุขดีอยู่แล้วขอให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไปตลอดสิ้นกาลนาน
แม้วันนี้ลูกเองจะยังไม่ได้กลับบ้าน กลับไปดูแลกายโยมพ่อและโยมแม่
แต่วันนี้ลูกเองก็ขอโอกาสดูแลใจของโยมพ่อและโยมแม่ด้วยความดีและความเสียสละที่ได้กระทำ
ขอความสงบสุขจากใจที่ท่านได้รับนี้จงหนุนนำให้ท่านบรรลุถึงสวรรค์ มรรคผล จนกระทั่งถึงนิพพานเทอญ...
นมัสการค่ะ