...
...
ฝรั่งมีสำนวนหนึ่งเกี่ยวกับแอปเปิลคือ 'An apple aday keeps the doctor away' หมายถึงถ้ากินผลไม้ทั้งผล (ไม่ใช่น้ำผลไม้) เช่น แอปเปิล ฯลฯ ร่างกายจะแข็งแรงไม่ป่วยง่าย จะได้ไม่ต้องไปหาหมอ
ใครที่เบื่อขี้หน้าหมอก็น่าจะกินแอปเปิ้ลเป็นประจำ โดยเฉพาะวันนี้มีผลการศึกษาที่พบว่า แอปเปิ้ลช่วยลดเสี่ยงมะเร็งเต้านมมาฝากครับ
...
ท่านศาสตราจารย์รุย ไห่ ลิว และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยคอร์แนลล์ ทำการทดลองในหนูพบว่า การกินแอปเปิลวันละ 1 ผลทำให้มะเร็งเต้านมโตช้าลง 43%
กลไกที่อาจเป็นไปได้คือ แอปเปิลมีสารพฤกษเคมี หรือสารคุณค่าพืชผัก (ส่วนใหญ่แสดงออกในรูปสีรุ้ง และสีขาว) และสารต้านอนุมูลอิสระ (แอนตีออกซิแดนท์) เพียบ
...
การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า แอปเปิลมีสารดีๆ ที่ชื่อว่า "ฟลาโวนอยด์ (flavonoids)" สูง ผลไม้ที่ดีรองลงไปได้แก่ ส้ม องุ่น สตรอเบอรี พลัม และกล้วย
สารดีๆ ในแอปเปิลพบมากบริเวณเปลือกและเนื้อส่วนใกล้ๆ เปลือก... เร็วๆ นี้มีการค้นพบสารอาหารดีๆ ในเปลือกมังคุดมากมาย และอาจเป็นไปได้ที่จะมีการค้นพบอะไรดีๆ ในเปลือกผลไม้ที่คนเราไม่กินกัน เช่น เปลือกกล้วย ฯลฯ ในอนาคต
...
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
...
ภาษาอังกฤษสบายๆ สไตล์เรา
หัวข้อเรื่องวันนี้คือ 'An apple a day helps beat breast tumours, scientists say' แปลว่า " นักวิทยาศาสตร์พบว่า แอปเปิลวันละผลลดเสี่ยงมะเร็งเต้านม"
คำต่อท้าย (suffix) '-ist' ใช้แสดงความเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือบรรดา "นัก" ทั้งหลาย
...
ขอให้ย้ำเสียงหนัก (accent) ตรงเสียงตัวอักษรหนา (ขีดเส้นใต้) เสียงอื่นๆ พูดให้เบาลง ส่วนตัวเสียงที่ใช้อักษรเอียงให้พูดเบาๆ คล้ายเสียงกระซิบ
พยายามอย่าพูดภาษาอังกฤษโดยไม่ย้ำเสียง (ไม่มี accent) เพราะฝรั่งฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ
...
ที่มา
แอปเปิ้ลเขียว กับแอปเปิ้ลแดง อย่างไหนได้คุณค่ากว่ากันค่ะ หรือว่าเหมือนกันคะ
เวลากินที่บ้านแม่ชอบปลอกเปลือกออก เลยเถียงกันเรื่อยว่า กินทั้งเปลือกได้สารอาหารมากกว่า จริงหรือเปล่าคะคุณหมอ (หนูบังอาจสอนแม่ไปแล้ว 555)
แอปเปิ้ล...
ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆค่ะ แต่ยังกังวลใจอยากเรียนถามอาจารย์ มีหลายท่านบอกว่าสารเคมีจะตกค้างในเปลือก จริงหรือไม่ค่ะ
น่าจะจริงครับ...