แอปเปิลวันละผล ไกลมะเร็งเต้านม


...

 > [ Wikipedia ]

...

ฝรั่งมีสำนวนหนึ่งเกี่ยวกับแอปเปิลคือ 'An apple aday keeps the doctor away' หมายถึงถ้ากินผลไม้ทั้งผล (ไม่ใช่น้ำผลไม้) เช่น แอปเปิล ฯลฯ ร่างกายจะแข็งแรงไม่ป่วยง่าย จะได้ไม่ต้องไปหาหมอ

ใครที่เบื่อขี้หน้าหมอก็น่าจะกินแอปเปิ้ลเป็นประจำ โดยเฉพาะวันนี้มีผลการศึกษาที่พบว่า แอปเปิ้ลช่วยลดเสี่ยงมะเร็งเต้านมมาฝากครับ

...

ท่านศาสตราจารย์รุย ไห่ ลิว และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยคอร์แนลล์ ทำการทดลองในหนูพบว่า การกินแอปเปิลวันละ 1 ผลทำให้มะเร็งเต้านมโตช้าลง 43%

กลไกที่อาจเป็นไปได้คือ แอปเปิลมีสารพฤกษเคมี หรือสารคุณค่าพืชผัก (ส่วนใหญ่แสดงออกในรูปสีรุ้ง และสีขาว) และสารต้านอนุมูลอิสระ (แอนตีออกซิแดนท์) เพียบ

...

 > [ FreeFoto ]

การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า แอปเปิลมีสารดีๆ ที่ชื่อว่า "ฟลาโวนอยด์ (flavonoids)" สูง ผลไม้ที่ดีรองลงไปได้แก่ ส้ม องุ่น สตรอเบอรี พลัม และกล้วย

สารดีๆ ในแอปเปิลพบมากบริเวณเปลือกและเนื้อส่วนใกล้ๆ เปลือก... เร็วๆ นี้มีการค้นพบสารอาหารดีๆ ในเปลือกมังคุดมากมาย และอาจเป็นไปได้ที่จะมีการค้นพบอะไรดีๆ ในเปลือกผลไม้ที่คนเราไม่กินกัน เช่น เปลือกกล้วย ฯลฯ ในอนาคต

...

 

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

...

[ FreeFoto ]  

ภาษาอังกฤษสบายๆ สไตล์เรา                       

หัวข้อเรื่องวันนี้คือ 'An apple a day helps beat breast tumours, scientists say' แปลว่า " นักวิทยาศาสตร์พบว่า แอปเปิลวันละผลลดเสี่ยงมะเร็งเต้านม" 

 

  • 'scientist' > [ ไซ้ - เอิน - ถิส - ท(t) ] > [ Click ] , [ Click ]
  • 'scientist' > noun = นักวิทยาศาสตร์

คำต่อท้าย (suffix) '-ist' ใช้แสดงความเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือบรรดา "นัก" ทั้งหลาย

  • ตัวอย่าง > science = วิทยาศาสตร์ > scientist = นักวิทยาศาสตร์
  • ตัวอย่าง > chemistry = วิชาเคมี > chemist = นักเคมี เภสัชกร (ใช้กับภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ)

  • ตัวอย่าง > technology = เทคโนโลยี > technologist = นักเทคนิค เช่น medical technologist = นักเทคนิคการแพทย์ ฯลฯ
  • ตัวอย่าง > physics = วิชาฟิสิกส์ > physicist = นักฟิสิกส์

...

ขอให้ย้ำเสียงหนัก (accent) ตรงเสียงตัวอักษรหนา (ขีดเส้นใต้) เสียงอื่นๆ พูดให้เบาลง ส่วนตัวเสียงที่ใช้อักษรเอียงให้พูดเบาๆ คล้ายเสียงกระซิบ

พยายามอย่าพูดภาษาอังกฤษโดยไม่ย้ำเสียง (ไม่มี accent) เพราะฝรั่งฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ

...

 

ที่มา                                                       

  • Thank dailymail.co.uk > Jacqui Goddard. An apple a day helps beat breast tumours, scientists say > [ Click ] > 19 February 2009. / Source > J Agricultural and food chemistry.
  • ขอขอบพระคุณ > อ.นพ.ศิริชัย ภัทรนุธาพร สสจ.ลำปาง + อ.นพ.โอฬาร ยิ่งเสรี ผอ.รพ.ห้างฉัตร + อ.อรพินท์ บุญเสริม + อ.อนุพงษ์ แก้วมา > สนับสนุนเทคนิค iT.
  • ข้อมูลในบล็อกมีไว้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค > ท่านที่มีโรคประจำตัว หรือมีความเสี่ยงโรคสูง ควรปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์ > ยินดีให้ท่านผู้อ่านนำไปเผยแพร่ได้ ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า > 20 กุมภาพันธ์ 2552.
หมายเลขบันทึก: 243485เขียนเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2009 15:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

แอปเปิ้ลเขียว กับแอปเปิ้ลแดง อย่างไหนได้คุณค่ากว่ากันค่ะ หรือว่าเหมือนกันคะ

เวลากินที่บ้านแม่ชอบปลอกเปลือกออก เลยเถียงกันเรื่อยว่า กินทั้งเปลือกได้สารอาหารมากกว่า จริงหรือเปล่าคะคุณหมอ (หนูบังอาจสอนแม่ไปแล้ว 555)

แอปเปิ้ล...

กล่าวกันว่า
  • ผลไม้ที่มีสีเขียวมักจะหวานน้อยกว่า มีแคลอรีน้อยกว่าผลไม้สีอื่นๆ
  • การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า เปลือกแอปเปิลมีคุณค่าสูงกว่าส่วนอื่นๆ
  • แนะนำให้อ่านที่ี่นี่ > http://gotoknow.org/blog/health2you/131264

ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆค่ะ แต่ยังกังวลใจอยากเรียนถามอาจารย์ มีหลายท่านบอกว่าสารเคมีจะตกค้างในเปลือก จริงหรือไม่ค่ะ

น่าจะจริงครับ...

  • ทุกวันนี้ไม่ว่าอะไรก็มักจะมีสารเคมีตกค้าง
  • จึงควรใช้ฟองน้ำล้างจาน ถูๆๆๆ ด้านนอกด้วยสบู่หรือน้ำยาล้างจาน แล้วแช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชูประมาณ 10 นาที 
ปลอดภัยไว้ก่อนเป็นดีครับ...
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท