ตัณหา และ "ความรัก..."


ใช่ เราก็เพิ่งเห็นอย่างลึกซึ้งไม่นานมานี่ว่า ความทุกข์ที่เกิดในใจทั้งมวลมาจากความอยาก (ของตนเอง) พออยากมากๆก็ไปเป็นอุปทาน อีก นั่น

ล้วนเกิดจากการแสวงหาความสุข โดยปล่อยใจให้ไหลเลื่อนไปตามอารมณ์ที่ปรารถนานั้น นั่นเอง และเป็นการลงทุนที่มีผลไม่คุ้มเหนื่อย อย่างท่านอาจารย์เสียจริงๆด้วย

จะทุกข์ จะสุข อยุ่ที่ใจ มิน่าเขาถึงมีคำว่า ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน

ความสงบนั้นอยู่ที่ความรู้สึกทางใจเป็นสำคัญ

ต่อไปนี้ขอ ภาวนา เป็นชีวิตประจำวัน ตามดูรู้ความอยาก เมื่อเริ่มก่อตัว

จะได้เกิดปัญญา

จะได้ไม่บานปลายใหญ่โต (เหมือนขับรถตกเขาไปโน่น)

เพราะพอเกิดเป็นตัณหา อุปทานแล้ว ยากแสนยากที่จะ ยกรถขึ้นมาจากหุบเขานั้นได้

ขอบพระคุณท่าน

(ที่มาจากบันทึก ความสุขที่แท้...)


คนเรามีทุกข์เพราะอยากเป็นโน่นเป็นนี่ อยากได้โน่น อยากได้นี่ อยากมีคนนั้น อยากได้คนนี้ นี่อย่างหนึ่ง

คนเรามีทุกข์อีกเพราะไม่อยากเป็นโน่น ไม่อยากเป็นนี่ ไม่อยากได้โน่น ไม่อยากได้นี่ ไม่อยากเจอคนนั้น ไม่อยากเจอหน้าคนนี้ นี้อีกอย่างหนึ่ง

และคนเรามีทุกข์ซ้ำอีกเพราะเมื่อมีสิ่งใดอยู่แล้ว ก็อยากผลักสิ่งนี้ออกไป อยากนำสิ่งโน้นออกไป ไม่อยากให้อยู่ใกล้ตัว อยู่ชิดใจ มีทุกข์ไซร้จากความอยากสามประการ

เมื่อคนเราติดข้องอยู่ด้วยความอยาก อยากมี ไม่อยากมี อยากผลักสิ่งโน้น อยากดันสิ่งนี้ ชีวิตของเรานี่ก็จะไม่รู้จัก "ความสงบ"

เมื่อไม่มีก็ต้องวิ่งหาให้มี เมื่อไม่อยากมีก็วิ่งหนีให้ไกลเสีย หรือเมื่อมีแล้วไม่พอใจ ก็ต้องหาที่หาทางเพื่อทิ้งไป ชีวิตเราไซร้จึงวุ่นไม่รู้จบ

อันตัณหา อุปาทาน และความทะยานอยากนี้แล ทำให้คนในสังคมนี้ "วุ่น" ไปกันมาก

ต่างคนต่างก็วิ่งเพื่อหาทุกข์ ต่างคนต่างก็จะวิ่งเพื่อหนีทุกข์ ต่างคนต่างก็รู้ว่าทุกข์อยู่แล้ว ก็ยังวิ่งเข้าหา ประเทียบดังว่า ทุกข์นั้นไม่ทุกข์จริง

ความรักนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีความรักก็ต้องมีความหวัง และความหวังนั้นไม่เคยทำให้ใครสุขได้ถึงครึ่งหนึ่งของสิ่งที่หวัง เมื่อหวังแล้วก็ต้องพร้อมยอมรับถึงความผิดหวัง เมื่อคิดจะรักแล้วก็ต้องยอมรับความทุกข์

คนที่มีความรักก็ทุกข์อย่างคนที่มีความรัก
คนที่ไม่มีความรักก็ทุกข์อย่างคนที่ไม่มีความรัก
มีอย่างไรก็ทุกข์อย่างนั้น
ไม่มีอย่างไรก็ต้องทุกข์อย่างนั้น
ท่านทั้งหลายโปรดหลุดจากทุกข์ทั้งคู่นี้เถิด


ดำรงใจ ประพฤติตนให้อยู่เหนืออารมณ์ "อยาก" อันว่าด้วยตัณหาทั้งสามนี้เสีย แล้วท่านจะประสบพบความสุขขึ้นอีกมาก

ชีวิตนี้ ดวงจิตนี้ ร่างกายนี้ จะสงบได้อีกมาก เพราะไม่ต้องวิ่งวุ่นตามความอยาก อันจะพาเราเกิดในภพในชาติอย่างไม่รู้จบ...


หมายเลขบันทึก: 242405เขียนเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2009 19:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

แต่ก็ยากเหมือนกัน

ไม่ว่ารักแบบใด

เมื่อมีหวังจากการรัก ก็ให้เห็น(จิต)ว่าหวัง อยาก นี้น่าจะเรียกว่าเจริญสติ และใจคงจะไม่ก้าวไปไกลจนเป็นความอยากอันแรงกล้า ตัณหา อุปาทาน ก็จะหยุดยั้งตัวเองทัน

ให้รักแบบมีสตินั่นแหระ

สำคัญ

. ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า "ผิดหวัง" ต่างจาก "หวังผิด"

. ให้ตระหนักว่า ความรักไม่มีสิ่งตรงข้าม (ความเกลียดชัง โกรธ เศร้า ไม่ใช่สิ่งตรงข้าม ของ ความรัก) ความรัก บริสุทธิ์ ในตัวมันเอง ความรักไม่มีสิ่งตรงข้าม

. ให้สำรวจ ตนเอง (มิใช่ผู้อื่น) เมื่อเสียใจผิดหวัง จากการได้รัก ว่า นั่นกำลังมีสิ่งซ่อนเร้น แอบแฝงในความรักเราเสียแล้ว โดยเราไม่รู้ตัว เช่นกิเลส ความกลัว ความยึดติดใดใด เพราะเมื่อเราสำรวจและเห็น เราจะสำนึก อดสูใจ และยอมปลดวางความเห็นแก่ตัวลงได้อย่างเบาใจ

. ให้ระลึกเสมอว่า ทุกคน ทุกชีวิต ต่างล้วนต้องการความรัก

. รัก ที่เรียกว่า เมตตา เป็นรักที่สากล และบริสุทธิ์

. หากนึกอะไรไม่ออก ให้นึกถึงรักของแม่ไว้ ไม่ว่าลูกคนใดจะงี่เง่าปานใด แม่รักเท่ากัน แม่ห่วงใย เสมอ แม่เมตตาเปี่ยมล้น

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...

ความรักเป็นความร้าย ความรักเป็นสิ่งทารุณ และเป็นเครื่องทำลายความสุขของปวงชน

ทุกคนต้องการความสมหวังในชีวิตรัก แต่ความรักไม่เคยให้ความสมหวังแก่ใครถึงครึ่งหนึ่งแห่งความต้องการ

ยิ่งความรักที่ฉาบทาด้วยความเสน่ห์หาด้วยแล้ว ก็เป็นพิษแก่จิตใจ ทำให้ทุรณทุราย ดิ้นรน ไม่รู้จักจบสิ้น

ความสุขที่เกิดจากความรักนั้น เหมือนความสบายของคนป่วย ที่ได้กินของแสลง

“เธอทั้งหลายอย่าพอในใจความรักเลย”

เมื่อหัวใจยึดไว้ด้วยความรัก หัวใจนั้น จะสร้างความหวังขึ้นอย่างเจิดจ้า

แต่เมื่อทุกครั้งที่เราหวัง ความผิดหวังก็จะรอเราอยู่…

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...

อย่าหวังอะไรให้มากนัก จงมองดูชีวิตอย่างผู้ช่ำชอง อย่าวิตกกังวลอะไรล่วงหน้า

ชีวิตนี้เหมือนเกลียวคลื่น ซึ่งก่อตัวขึ้นแล้วม้วนเข้าหาฝั่ง และแตกกระจายเป็นฟองฝอย

จงยืนมองดูชีวิตเหมือนคนผู้ยืนอยู่บนฝั่งมองดูเกลียวคลื่นในมหาสมุทรฉะนั้น... (พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท