Best Practice


P

การนำเสนอผลงาน  Best - Practice

 

ชื่อผลงาน  :  เรื่อง Pronounce เร้าความคิด  พิชิตคำผิด

กลุ่มสาระการเรียนรู้  :  ภาษาต่างประเทศ 

ชื่อเจ้าของผลงาน  :  นางสาวสุภัทรา  เสน่ห์ดี  ตำแหน่ง  ครูอัตราจ้าง

  โรงเรียนกุดบงพิทยาคาร  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา  หนองคายเขต 2

ประเด็นปัญหา  :  เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า  ในปัจจุบันการศึกษาหาความรู้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการพัฒนาคนให้พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ซึ่งกองวิจัยทางการศึกษา  กรมวิชาการ  ( 2542 )  ได้กล่าวไว้ว่า   การจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอนนั้นมีส่วนสำคัญมากในการพัฒนาและยกระดับการเรียนรู้ของผู้เรียน  ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาคนให้มีความรู้  ความคิด  ความสามารถ  และมีศักยภาพที่เป็นพลังสร้างสรรค์  ตลอดจนมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม  แลประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก  ในปัจจุบันประเทศไทยก็ได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นสากลมีการนำเอาภาษาต่างประเทศเข้ามาสอดแทรกในหลักสูตรต่าง ๆ ของแต่ละวิชา  คือ  ภาษาอังกฤษ  ซึ่งถือเป็นภาษาที่มีความสำคัญมากเนื่องจากเป็นภาษาสากลที่ผู้คนนิยมใช้ติดต่อสื่อสารกันทั่วโลก  ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตามก็ล้วนแล้วแต่จำเป็นที่จะต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสารด้วยกันทั้งนั้น  ประเทศไทยเองก็ได้มีความเจริญก้าวหน้าในการสื่อสารทางภาษาโดยได้นำเอาภาษาอังกฤษมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนซึ่งได้มีการเริ่มสอนกันตั้งแต่ชั้นอนุบาลกันเลยทีเดียวเพราะภาษาอังกฤษนั้นกรมวิชาการได้กำหนดให้เป็นวิชาบังคับ  ซึ่งก็ได้แสดงให้เห็นว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารและมีความจำเป็นในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก

    สนิท  ตั้งทวี  ( 2526 )  กล่าวไว้ว่า  ภาษานั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อมนุษย์เป็นอย่างมาก  เพราะมนุษย์ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันและกัน  เป็นเครื่องมือในการศึกษาเล่าเรียน  เป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดวัฒนธรรมจากคนรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่ง  นอกจากนั้นภาษายังเป็นเครื่องมือในการอบรมบ่มนิสัย  จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องทำตั้งแต่ยังเยาว์  ยากที่จะกระทำต่อเมื่อโตแล้ว  และโรงเรียนเองก็เป็นสถานที่สำคัญยิ่งในการใช้ภาษา

   จุดมุ่งหมายของการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษนั้น  เน้นที่การฟัง  การพูด  การอ่าน  และการเขียน  ซึ่งกิจกรรมในเรื่องของการอ่านและการเขียนของผู้เรียนนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง  เพราะถ้านักเรียนอ่านไม่ออกหรือเขียนไม่ได้แล้วจะทำให้การเรียนรู้ของนักเรียนไม่ประสบความสำเร็จ  การอ่านจึงถือว่าเป็นทักษะที่มีความสำคัญมาก  เพราะจะนำไปสู่การพัฒนาทักษะด้านอื่น ๆ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนอย่างมาก  มีคนเคยกล่าวไว้ว่าหัวใจของการเขียนอยู่ที่การอ่าน  ดังนั้นในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษจึงมุ่งเน้นที่จะพัฒนาทางด้านการอ่านออกเสียง  การพูดสนทนาโต้ตอบกัน  โดยการยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง  ส่วนผู้สอนจะเป็นเพียงแค่ผู้ดูแล  แนะนำ  และให้คำปรึกษา  รวมถึงตอบปัญหาต่าง ๆ ที่นักเรียนยังไม่รู้คำตอบที่ถูกต้อง

  วิชาภาษาอังกฤษนั้นถือได้ว่าเป็นวิชาที่ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้จำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมในสาขาวิชาต่างๆ  เพราะไม่ว่าจะเป็นในวิชาใดก็ล้วนแต่มีคำศัพท์ที่ต้องเป็นภาษาอังกฤษทั้งสิ้น  ซึ่งในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษนั้นจึงจะต้องจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน  ทำให้นักเรียนเกิดความสนใจ  ไม่เกิดความเบื่อหน่ายเนื่องจากตัวเองไม่มีส่วนร่วมและไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับภาษาอังกฤษแต่อย่างใด

 และอยากศึกษาหาความรู้  โดยการยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางรวมถึงตัวผู้เรียนเองก็เกิดเจตคติที่ดีๆ  เกี่ยวกับการเรียนในรายวิชาภาษาอังกฤษอีกด้วย    ซึ่งในที่นี้ผู้รายงานได้ศึกษาในหัวข้อการพัฒนาการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นม.1โดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเรียนรู้ 

                เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมานั้นการเรียนการสอนในรายวิชาภาษาอังกฤษถือได้ว่าเป็นรายวิชาที่นักเรียนไม่ชอบและมักจะอ่านและเขียนกันไม่ค่อยได้นักและที่สำคัญคือนักเรียนที่ไม่มีความรู้พื้นฐานในเรื่องภาษาอังกฤษมีเป็นจำนวนมากจนทำให้เกิดเจตคติในทางลบมากกว่าที่จะเป็นทางบวก  เหมือนกับในปัจจุบันที่ปัญหาเหล่านี้ดูเหมือนจะได้รับการปรับปรุงแก้ไขด้วยวิธีการหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปและได้ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก  ซึ่งผู้รายงานก็ขอนำเสนออีกหนึ่งปัญหาและหนึ่งทางแก้ไขให้ท่านได้ศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนต่อไป

 

 

 

 

 

ความสำคัญของปัญหาและความจำเป็นในการพัฒนา

 

    โรงเรียนกุดบงพิทยาคาร  เป็นโรงเรียนขนาดกลาง  ดำเนินการจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6   แต่จากการศึกษาผลการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในรายวิชาภาษาอังกฤษย้อนหลัง  พบว่า  นักเรียนส่วนใหญ่มีปัญหาในเรื่องของการอ่าน  เขียนสะกดคำศัพท์ผิด  และวัดจากจุดประสงค์การเรียนรู้  พบว่า  นักเรียนจำนวนมากมีปัญหาในเรื่องการเขียนและการอ่าน  และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำกว่าตามเกณฑ์ที่กำหนด  จึงเป็นการสมควรที่จะได้รับการปรับปรุงแก้ไข  และบูรณาการเรียนการสอนแบบใหม่ ๆ  เพราะว่าถ้าความรู้พื้นฐานในระดับต้นไม่ดีแล้ว  จะส่งผลให้การพัฒนาองค์ความรู้เรื่องใหม่ ๆ ที่กำลังจะมีในระดับที่สูงขึ้นนั้นไม่ดีตามไปด้วย

                จากการสำรวจสภาพปัญหาการเรียนการสอนในรายวิชาภาษาอังกฤษ  โดยได้ทำการสังเกต  วิเคราะห์  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 โรงเรียนกุดบงพิทยาคาร  ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การสังเกต  การสัมภาษณ์  การตรวจแบบฝึกหัด  การมอบหมายงาน  การทำการทดสอบ  พบว่า  สภาพปัญหาการสอนวิชาภาษาอังกฤษนั้น  มีดังต่อไปนี้

                      1.  ปัญหาเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคลทางด้านสติปัญญาของนักเรียนมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

                      2.  นักเรียนขาดความกระตือรือร้นการเรียน  ไม่สนใจกิจกรรมต่าง ๆ ที่โรงเรียนได้นำมาสอดแทรกเพื่อให้ความรู้  ซึ่งทั้งนี้อาจเป็นเพราะความยากง่ายของเนื้อหา  หรืออาจเป็นเพราะการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ไม่น่าสนใจ

                       3.  นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้เรียนมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง

                       4.  นักเรียนอ่านและเขียนผิด  การนำคำไปใช้ผิดความหมาย

 

จากปัญหาดังกล่าวและประสบการณ์ในการสอน  ทำให้ทราบถึงสาเหตุดังต่อไปนี้คือ

 

1. กิจกรรมการเรียนการสอน  ขาดสื่อที่ดีสำหรับการฝึกทักษะทางด้านการอ่านและการเขียน

2. ผลสัมฤทธิ์ไม่บรรลุตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด  ดังนั้น  ในการแก้ปัญหาของครูผู้สอนจึงต้องปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการสอนภาษาอังกฤษให้เกิดการพัฒนาขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะทางด้านความรู้ความเข้าใจ  และมีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ

 

ผลสำเร็จที่ได้รับ

 

1. เกิดการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเรียนรู้รูปแบบใหม่มาใช้ประกอบการเรียนการสอนในรายวิชา  ภาษาอังกฤษ  ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่  1

2. นักเรียนมีทักษะแบบใหม่ในการอ่านออกเสียงแบบใหม่ที่จำได้แม่นยำและถูกต้องมากขึ้น 

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  วิชาภาษาอังกฤษ  ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ 1 ได้รับการพัฒนาให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น

 

กิจกรรมการดำเนินการ  : 

ขั้นเตรียมการ  1. ครูศึกษาปัญหาและข้อควรปรับพัฒนาของนักเรียนโดยรวมจากบันทึกหลังสอน

     2. ครูศึกษาและวิเคราะห์เนื้อหาสาระที่จะสอนโดยละเอียดเพื่อจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง  Pronounce เร้าความคิด พิชิตคำผิด

3. ครูสร้างแบบฝึกเสริมทักษะ  เรื่อง  "Pronounce เร้าความคิด  พิชิตคำผิด"

ขั้นปฏิบัติ     4.  นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน

   5. ครูอธิบายเนื้อหาและยกตัวอย่างให้นักเรียนฟังจากนั้นนักเรียนทำแบบฝึกเสริมทักษะ  ทีละชุด ชุดละ 10 ข้อ 15 นาที

  6. ครูแจ้งผลคะแนนให้นักเรียนทราบ 

  7.  สรุปเนื้อหาเกี่ยวกับการอ่านออกเสียง    ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นม.1โดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเรียนรู้ 

 8.  นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน

 

จากการใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง  "Pronounce เร้าความคิด 

พิชิตคำผิด"  พบว่านักเรียนมีความสนใจและตั้งใจในการเรียนรู้ด้วยตนเองขึ้น  นักเรียนสามารถฝึกพูดและออกเสียงได้ถูกต้องมากขึ้น

 

ปัจจัยแห่งความสำเร็จ

1.  นักเรียนสามารถออกเสียงคำศัพท์ได้อย่างถูกต้อง

2.  นักเรียนมีความเชื่อมั่นและประเมินผลความรู้ของตนเองที่มีอยู่ได้

3.  นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

 

แผนการพัฒนากิจกรรม

       ครูศึกษาแนวทางทฤษฎีวิธีการคิดเกี่ยวกับการออกเสียงคำศัพท์ให้ถูกต้อง  ชัดเจน และแม่นยำมากกว่านี้    เพื่อจะสามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรม, สื่อการสอนที่น่าสนใจและสามารถนำไปใช้ในการพัฒนานักเรียนให้เรียนรู้อย่างเข้าใจและมีความสุข

           

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 241218เขียนเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2009 13:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท