ศาสนาจากความทรงจำ (3) –ที่บ้านนับถือเลยนับถือตาม


เกิดมาศาสนาก็อยู่ในชีวิตแล้ว

          แม้ว่าช่วงชีวิตที่โตมาจะมีโอกาสอันดีที่จะใกล้ชิดกับศาสนาเพราะบ้านอยู่ติดวัด(ซึ่งถ้าจะเรียกให้ถูกคือสำนักสงฆ์กระมัง) ถ้าอยากไปทำบุญแค่แต่งตัวเดินออกจากบ้านไม่กี่ก้าวก็ผ่านเข้าประตูวัดแล้ว แต่ระยะทางที่ใกล้ไม่ได้ช่วยให้ผมฝักใฝ่ในทางธรรมมากขึ้น  เรียกว่าตัวอยู่ใกล้แต่ใจห่างวัด

อาจเพราะตัวเองยังมีกิเลสหนาอยู่จึงรู้สึกเบื่อกับพิธีกรรมต่างๆ  ภาพเกี่ยวกับวัดที่ผมประทับใจจึงมีเพียงเงาจางๆ ของปราสาทกองทรายที่ปักธงกระดาษแก้วหลากสีและศาลาไม้ที่ผมมักยืนมองผ่านลูกกรงเหล็กที่รายล้อมออกไปยังไร่นาเบื้องนอก

นอกจากความจำไม่ดีแล้วยังขาดความใส่ใจดังนั้นความรู้ทางศาสนาของผมจึงต่ำเตี้ยติดดิน  แค่ศีลห้ายังท่องได้ไม่ครบเรียงลำดับไม่ถูก วันพระสำคัญจำได้ไม่หมด  มีโอกาสสวดมนต์เป็นเรื่องเป็นราวก็ตั้งแต่สมัยเรียนประถมซึ่งคุณครูท่านให้ท่องอิติปิโสฯ ตอนเช้าหน้าเสาธง  ไปทำบุญก็ทำตามหน้าที่ ทำตามประเพณี  “วันพระ”ไหนที่แม่ใช้ให้ไปตักบาตรแทนก็ไปและไม่เคยตั้งคำถามกับคำพูดของแม่ที่ว่า “ไปตักบาตรทำบุญเสียบ้าง” ว่าตักบาตรเพื่ออะไร ทำไปทำไม ทำแล้วได้บุญจริงหรือ  รู้แต่ว่าการไปตักบาตรก็คือการทำบุญตามที่แม่บอก ยายบอก และคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านเชื่อถือกัน

สาระเกี่ยวกับวัดที่ได้ยินชาวบ้านจับกลุ่มสนทนากันส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ข้อธรรมอะไรลึกซึ้งส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกนิทานสัปดนตาเถรกับยายชี หลวงตากับสีกา นินทามัคทายกวัด บางทีก็เลยเถิดไปถึงการนินทาพระสงฆ์องค์เจ้าในเรื่องความพฤติบ้าง แต่ท้ายที่สุดทุกคนก็ไปวัดทำบุญอยู่ดี 

ความรู้สึกกระตือรือร้นจะไปวัดกับเขาก็มีอยู่บ้างแต่เป็นอาการที่เกิดเฉพาะในวันพระใหญ่ วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา อะไรประมาณนั้น เหตุของความอยากก็เพราะว่าคนส่วนใหญ่เขาตื่นเต้นไปกัน เราก็พลอยอยากไปด้วยและกิจกรรมหลักที่เป็นเป้าหมายของการไปคือการได้ชื่นชมสาวๆ ที่แต่งตัวสวยงามมาทำบุญ ซึ่งจะมีทั้งสาวๆ ในหมู่บ้าน สาวต่างหมู่บ้าน สาวๆ ในหุบเขาที่จะไม่ออกมาทำบุญเพราะเดินทางลำบากนอกจากวันพระใหญ่ หรือสาวเจ้าที่ไปทำงาน กทม.กลับมาเที่ยวบ้าน 

พุทธศาสนาสำหรับผมจึงไม่ใช่หลักปรัชญา อภิปรัชญา หรืออภิมหาปรัชญาใดๆ แต่คือวิถีชีวิตแบบชาวบ้านธรรมดา  แต่ทั้งหมดทั้งมวลศรัทธาผมก็ยังคงมั่นและชีวิตก็ปกติสุขดี

          ผมไม่เคยตั้งคำถามต่อศาสนาที่เช่นเดียวกับที่ไม่เคยตั้งคำถามว่าทำไมต้องกินข้าว ข้าวคืออะไร กินข้าวดีที่สุดหรือ รู้แต่ว่าเมื่อหิวก็กินข้าวและรู้ว่าผมชอบกินแกงขี้เหล็กที่แม่ผมทำมากกว่าที่ไหนๆ  ไม่ใช่เพราะมีรสอร่อยที่สุดแต่เพราะผมพอใจที่สุดเท่านั้นเอง


หมายเลขบันทึก: 240899เขียนเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2009 08:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มีนาคม 2012 16:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท