โคลนนิ่งประชานิยม : นโยบายนี้ท่านได้แต่ใดมา?


ตัดต่อนโยบายฯ
โคลนนิ่งประชานิยม : นโยบายนี้ท่านได้แต่ใดมา?

 ๐ปรากฏชัดในรายการ  "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(NBT)  เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2552

 

เอ็นบีที. สื่อซึ่งใครขึ้นมามีอำนาจ ก็จำเป็นต้องใช้งานเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้แก่รัฐบาล อันนี้ไม่ว่ากัน (ก็ทีคุณผมก็เคยด่า  ทีข้าฯ ก็ขอให้คุณบ่นๆไปก็แล้วกัน)

 

ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ฯ แถลงว่า "คณะรัฐมนตรีอนุมัติกรอบแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ" โดยมีมาตรการที่เริ่มดำเนินการได้ในทันที กับแผนระยะยาว ซึ่งต้องรอปีงบประมาณหน้า ตอนกลางปีนี้

 

โดยภาพรวมแล้ว ผู้เขียนเห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในรายละเอียดของบางมาตรการ ยังเห็นว่ามีประโยชน์น้อยมากกว่าผลร้ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

ประเด็นที่ผู้เขียนติดใจมากที่สุด คือการแจกเงินให้ผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 15,000 บาทต่อเดือน คนละ 2,000 บาท อันนี้แหละที่ท่านนายกฯบอกว่ามิใช่เป็นการแจกเงินกันดื้อๆ

 

แต่เป็นการสาดน้ำเข้ากองเพลิง หวังจะดับไฟเศรษฐกิจ

 

การที่ผู้มีรายได้น้อยมีเงินเพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่ดี  แต่การแจกเงินกันดื้อๆ โดยผู้รับไม่ต้องทำงานอะไรตอบแทน คนละ 2,000 บาท

 

ดูมันจะง่ายเกินไป สำหรับ กิจกรรมของรัฐ ในการกอบกู้ทางเศรษฐกิจ

 

ถ้าการแจกเงิน เป็นการดับไฟเศรษฐกิจได้จริง คนทั้งโลก  ก็คงสุขสบาย  ทุกรัฐบาลทุกประเทศจะแจกเงินกันสนุกมือ  ก็เงินคือกระดาษ พิมพ์ขึ้นมาซิครับท่านอภิสิทธิ์ฯ

 

แม้ว่ารัฐไทย จำเป็นต้องจัดสวัสดิการพื้นฐานให้ประชาชน ไม่ว่าในเรื่องการศึกษา การรักษาพยาบาล ดูแลคนด้อยโอกาส อย่างคนพิการ คนชรา การดูแลคนกลุ่มดังกล่าว พอที่กล้อมแกล้มไปได้ว่า...

 

"มิได้ลอกนโยบายประชานิยมของคุณทักษิณ" เพื่อเอาเกลือจิ้มเกลือ หรือหวังแย่งชิงคะแนนนิยมจากคนรากหญ้า เพราะการดูแลคนกลุ่มดังกล่าว ทำตามกรอบรัฐธรรมนูญ ที่รัฐไทยพึงกระทำ

 

สมัยคุณทักษิณฯ แจกเงินโดยผ่านกองทุนหมู่บ้าน เราๆท่านๆ โจมตีกันนักกันหนาว่า ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ทำเพื่อหวังคะแนนนิยม เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น (ซื้อเสียงทางอ้อม)เป็นการทำให้เสียวินัยทางการเงินการคลังของรัฐ

 

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเห็นว่า การแจกเงินผ่านกองทุนหมู่บ้านของคุณทักษิณฯ  ก็ยังพอมีหลักการในทางการเงินการคลังอยู่บ้าง เพรานั่นคือคือการตั้งกองทุนให้กู้ยืม

 

มิใช่แจกกันดื้อๆ  โดยไม่ต้องคืนและไม่ต้องทำงานใดๆตอบแทน

 

สรุปได้ว่า คุณทักษิณแจกเงินผ่านกองทุนหมู่บ้าน  ดูแล้ว ยัง "คลาสสิก" มากกว่าแจกเป็นรายหัวๆละ 2,000 บาท ของท่านอภิสิทธิ์ ซึ่งตอบไม่ได้ในเชิงหลักการเลยว่า ทำไมต้องแจก   ทำไมไม่ตั้งกองทุนบรรเทาความเดือดร้อน ใครเดือดร้อนให้กู้ยืมไปก่อน ค่อยคืนอีก 5 -10 ปี ก็ยังจะดีกว่า

 

เงินนะครับ มิใช่น้ำ ที่จะสาดทิ้งกันเล่นๆ

 

หรือท่านจะเข้าใจไปว่า คนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 ต่อเดือน เป็นคนจนที่ต้องแจกเงิน โดยไม่จำเป็นต้องส่งเสริมอาชีพการงานใดๆให้พวกเขาทำงานหนักขึ้น

 

ท่านจึงส่งเสริม การแบมือขอจากรัฐบาล

 

หรือสมัยนี้รัฐบาลพิมพ์ธนบัตร หรืออกพันธบัตรได้ โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงปัญหาใดๆในอนาคตอีกต่อไป

 

หรือท่านหวังจะใช้ยาแรง เพื่อเตรียมการช่วงชิงความนิยมของคนรากหญ้ากลับคืนมา โดยไม่สนใจคำท้วงติงใดๆ

 

ถ้าเป็นอย่างนั้น...เห็นทีคุณทักษิณ(โดยนอมินี )ก็คงต้องออกนโยบาย ในทำนองว่า..คนมีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท รัฐฯจะแจกเงินเพิ่ม คนละ 10,000 บาท ต่อเดือน

 

ประเทศไทยจะได้ฉิบหายวายปวงกันจริงๆเสียที

 

ก็เชื้อโรคประชานิยมมันเข้าเส้นแล้วนี่ครับ...

 

ทุกพรรคการเมือง ต่างแย่งกันให้ยาแรงขึ้นเรื่อยๆ ใครจะหยุดได้ แม้แต่พรรคที่เคยท้วงติงยังเอาเป็นแบบอย่าง เมื่ออยากมีอำนาจรัฐ ก็ต้องซื้อใจประชาชน

 

ผู้เขียนเคยรำคาญและโมโหคุณทักษิณฯมานานหลายปี ที่เอาเชื้อประชานิยมมาทำลายความเข้มแข็งของคนไทย  สร้างระบบที่ตนเองคิดขึ้นง่ายๆหยาบๆ

 

แต่พอมาเห็น ท่านอภิสิทธิ์(ซึ่งความจริงผู้เขียนชื่นชอบท่านมากๆ)แจกเงินกันดื้อๆ อย่างนี้ ยิ่งเศร้าใจกันไปใหญ่

 

ท่านมิได้สาดน้ำดับไฟหรอกครับ

 

แต่ท่านกำลัง "โคลนนิ่งประชานิยม" ให้เติบใหญ่

 

ผู้เขียนเชื่อและเข้าใจว่า การโคลนนิ่งนโยบาย หรือการตัดต่อพันธุกรรมนโยบายประชานิยม  มีผลร้ายต่อสังคมไทยใหญ่หลวงยิ่งนัก

 

ใครไม่เชื่อ ก็คอยจับตาดูนโยบายประชานิยมของคุณทักษิณ ที่จะ สอดแทรกมากับการ โฟนอิน  ที่จะค่อยๆทยอยเข้ามา.

หมายเลขบันทึก: 237271เขียนเมื่อ 25 มกราคม 2009 08:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 เมษายน 2023 14:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ถึงจะคิดต่างบางส่วน แต่ก็เข้ามาร่วมรับฟังค่ะ

ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง

ถ้าจะลอกต้องลอกให้หมด เช่น

เอาหวยขึ้นมาบนดิน

ปราบยาบ้า

ล้างหนี้ ไอเอ็มเอฟ ทำดิ

อุ๊ย พูดอารายออกไป

มาอ่านข่าวสารบ้านเมืองค่ะ  ไม่ทราบแจกครั้งเดียว หรือแจกทุกเดือนตลอดไป....ที่แคนาดา รัฐบาลก็แจกเงินให้ผู้มีรายได้น้อยค่ะ มีคนไทยหลายคนที่มีฐานะบ้านช่องใหญ๋โตอยู่เมืองไทย ก็ไปทำทีเป็นผู้มีรายได้น้อยที่นั่น ให้รัฐบาลแคนาดาเลี้ยงก็ยังมี ของเขาเก็บภาษีสูง ๆ กับผู้มีรายได้มาก มาแบ่งให้ผู้มีรายได้น้อยค่ะ ของไทยเอาเงินที่ไหนมาแจกเอ่ย....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท