วันนี้(15 ม.ค.52)ผมได้มีโอกาสเข้าไปร่วมติดตามโครงการพนม(หรือชื่อเต็ม โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนระดับหมู่บ้านจังหวัดชายแดนภาคใต้) ณ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
โครงการพนมเป็นโครงการที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)ให้การสนับสนุนงบประมาณ เพื่อให้ข้าราชการได้ใกล้ชิดประชาชนโดยมีโครงการเป็นเครื่องมือ อาจเป็นโครงการก่อสร้างพื้นฐาน โครงการพัฒนาอาชีพ เศรษฐกิจชุมชน คุณภาพชีวิต การศึกษา ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวและกีฬา ขึ้นอยู่กับประชาคมของแต่ละตำบลจะคัดเลือกกันขึ้นมา โดยมีผู้สนับสนุนชุมชนเป็นข้าราชการตำบลละ 6-7 คน ซึ่งเป็นเหมือนแถวหน้าของราชการที่ทำงานติดพื้นที่
เท่าที่ได้อ่านเอกสารโครงการปี 52ทำให้รู้สึกได้ว่าคนโคกโพธิ์มีต้นทุนของการสร้างความสมานฉันท์ค่อนข้างสูง เพราะมีกิจกรรมที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนเข้าด้วยกัน เช่น ดื่มน้ำชาสัญจร ชี้แจงโครงการทุกวันศุกร์(ซึ่งเป็นวันละหมาดใหญ่ที่มัสยิดของพี่น้องมุสลิม) และการนัดเวลาประชาคมที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตของประชาชน นอกจากนี้ทีมงานตำบลนาเกตุได้ถอดบทเรียนการทำงานในปีที่ผ่านมาด้วย
ผมได้เสนอแนะการถอดบทเรียนการทำงานของทีมงานพนมว่า ควรจะระบุว่าการทำงานของเราทำให้ได้คนหรือได้เพื่อนมากขึ้นๆด้วยสาเหตุใด การทำงานของเราได้ตอบปัญหาอะไร ตรงกับเป้าหมายของชุมชนหรือไม่ และเราได้เรียนรู้อะไรจากการทำงาน รวมทั้งความรู้สึกของคนทำงานรวมทั้งชุมชนด้วย ควรเปิดโอกาสให้ผู้นำธรรมชาติได้แสดงตัวตนและความคิดของเขา สุดท้ายคือการให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์หรืออัตลักษณ์ของชุมชนทำให้สามารถพัฒนาชุมชนที่มีจุดเด่น (และอาจเป็นจุดขายของชุมชนหรือสินค้าที่เขาทำขาย)ได้ต่อไปในอนาคต
รู้สึกดีกับโครงการพนม แต่ถ้าจะให้เกิดผลดีมากที่สุด บุคคลต้องเสนอโครงการโดยเอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ไม่ใช้เพื่อพวกพ้องของตนเอง