beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

ตามให้ทันและใช้ประโยชน์จาก Promotion ของมือถือให้คุ้มค่า


ประเทศไทยตอนนี้อยู่ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ การประหยัดเงินในกระเป๋าของผู้บริโภค ควรใส่ใจไม่ละเลย

     ต่อไปนี้เป็นข้อมูลจริงการใช้งานมือถือจากลูกค้ารายหนึ่งของบริษัทมือถือ (ไม่บอกก็คงทราบว่าเป็นบริษัทใด)

วันที่ได้รับค่าโทรฟรี ช่วงเวลาที่ใช้งาน ยอดการใช้งาน Bonus ที่ได้รับ สถานะที่ได้รับค่าโทรฟรี
07/10/2551 01/07/51-30/09/51 1,816 200.00 สำเร็จ
07/01/2551 01/10/51-31/12/51 2,724 200.00 สำเร็จ

     จากตัวอย่างข้างต้น ยอดการใช้งาน 6 เดือนของลูกค้ารายนี้ มีมูลค่าเป็น 4,540 บาท หากใช้ปีหนึ่งก็ตกประมาณเกือบหมื่นบาทเลยทีเดียว...

     วิเคราะห์ข้อมูล จากการสอบถามลูกค้ารายนี้

  1. ลูกค้าใช้โทรศัพท์ ใน Promotion สำหรับรับสาย คือ เติมเงินเท่าไร ได้เวลาใช้งาน 1 ปี โทรทุกเครือข่ายนาทีละ 2 บาท..ดังนั้น ในรอบไตรมาสที่ 3  ลูกค้าใช้โทรศัพท์นาน 908 นาที ส่วนไตรมาสที่ 4 ลูกค้าใช้โทรศัพท์นาน 1,362 นาที รวมเป็น 2,270 นาที
  2. ลูกค้า ใช้โทรศัพท์ในช่วงเช้าถึง 6 โมงเย็น และมักจะโทรสั้นๆ 2-3 นาที สลับกับการโทรยาว 10-20 นาที นอกเครือข่าย (TOT)
  3. ลูกค้า เติมเงิน Online เมื่อเงินจวนหมด และมักได้ส่วนลด ประมาณการว่าหลังจากหักส่วนลดและ Bonus แล้ว ลูกค้าเสียเงินค่าโทรศัพท์ปีละ 8,000 บาท (ใช้ตัวเลขนี้ในการบริหารค่าโทรให้เหลือ ไม่เกิน 40 % หรือปีละ 3,200 บาท)
  4. ลูกค้าเติมเงินบ่อยๆ และคิดว่าค่าโทรไม่มาก (ถ้าคิดเป็นเดือน) เพราะสมัยก่อนค่าโทรแพงกว่านี้ และลูกค้าไม่เคยคิดจะบริหารค่าโทรใหม่ (จนกระทั่งผมเตือนเป็นครั้งที่ 3 ถึงจะยอมให้ผมช่วยบริหารค่าโทรให้)

     แนวทางการบริหารค่าโทรที่ผมแนะนำ

  1. เปลี่ยนมาใช้ Promotion โทรนาทีละ 50 สตางค์ นาทีแรก 2 บาท นาน 20 ชั่วโมง ตั้งแต่ 4 ทุ่มถึง 6 โมงเย็น (เพราะลูกค้าใช้บริการในช่วงเช้าถึงเย็น) ทุกเครือข่าย....นอกเวลาคิดนาทีละ 1 บาท นาทีแรก 2 บาท....เสียค่าเปลี่ยน Promotion 10 บาท (ใช้ได้ 90 วัน) เสียค่าเปลี่ยน 4 ครั้ง เท่ากับ 40 บาท
  2. หากลูกค้าโทร แบบสั้นๆ ไม่เกิน 4 นาที โทร 600 ครั้ง 2,400 นาที  อยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด จะเสียค่าโทร 3.50*300 ครั้ง เท่ากับ 2,100 บาท
  3. ลูกค้าโทรยาวๆ เฉลี่ย 10 นาที โทร 200 ครั้ง 2,000 นาที อยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด จะเสียค่าโทร 6.50*200 ครั้ง เท่ากับ 1,300 บาท
  4. ลูกค้าโทรไปหาเบอร์ในเครือข่ายเดียวกัน กับญาติสนิท 200 นาที เปลี่ยนมาใช้เบอร์คนโปรดเสียค่าสมัคร 50 บาท ต่อ 5 เดือน เสียค่าโทร 0.25*200 นาที เท่ากับ 50 บาท

        รวมลูกค้ารายนี้เสียค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทปีละ 3,540 บาท และลูกค้าจะต้องบริหารค่าโทรให้อยู่ในไตรมาสละไม่เกิน ๘๕๐ บาท จะได้ Bonus กลับมา 100 บาท* 4 ครั้ง เท่ากับ ๔๐๐ บาท (โบนัสนี้อยู่ในกระเป๋าโบนัส ใช้โทรหาเฉพาะเบอร์ในเครือข่ายเดียวกันเท่านั้น และ Bonus นี้ถูกนำมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายในการโทร ในไตรมาสต่อไปด้วย) จึงเท่ากับจ่ายจริง 3,140 บาท (ในที่นี้ไม่คิดโบนัสวันเกิด 500 บาท เพราะว่าคิดรวมอยู่ในยอดลดค่าโทรจาก 9 พันกว่าบาท เหลือ 8 พันบาทแล้ว)

beeman by Apinya

มนุษย์ผึ้งมหัศจรรย์  
神奇的蜂爷
  
(shen2  qi2  de1  feng1  ye2)

หมายเลขบันทึก: 234693เขียนเมื่อ 11 มกราคม 2009 23:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:08 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

 

วันที่ได้รับค่าโทรฟรี ช่วงเวลาที่ใช้งาน ยอดการใช้งาน Bonus ที่ได้รับ สถานะที่ได้รับค่าโทรฟรี
07/10/2551 01/07/51-30/09/51 1,816 200.00 สำเร็จ
07/01/2551 01/10/51-31/12/51 2,724 200.00 สำเร็จ
  • ยอดโบนัสที่ให้ สำหรับการโทรใช้งานในไตรมาส สูงสุดไม่เกิน 400 บาท หมายความว่า บริษัทต้องการคืนกำไรให้กับลูกค้าในรายที่ใช้ค่าโทรศัพท์ประมาณไตรมาสละ 1,600 บาทเท่านั้น ดังนั้นควรบริหารค่าโทรฯ ไม่ให้เกินเดือนละ 550 บาท

    

  • ตามมาขอบคุณอาจารย์
  • ปกติไม่ค่อยใช้โทรศัพท์ครับ
  • ใช้ผ่านบล็อกแทน
  • อิอิๆๆๆๆๆ
  • ไป มมส เป็นอย่างไรบ้างครับ

เรียนท่านขจิต

  1. เป็นการประยุกต์ใช้สื่อ ICT ได้เยี่ยมยอดมาก เพราะไม่ต้องเสียสตางค์ (มีหน่วยงานจ่ายให้แทน)
  2. การกระจายข้อมูลทำได้ในวงกว้าง
  3. โทรศัพท์ ข้อมูลจะกระจายแบบส่วนบุคคล และที่สำคัญต้องจ่ายสตางค์ (ที่แพงเกินเหตุด้วย)...จากกระเป๋าของเราด้วย..อิอิ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท