ผมชอบที่ีอาจารย์ "ไฉน" ทิ้งท้ายไว้ในบันทึกที่แล้วว่า . . .
“ภาวนา แปลว่า การเจริญ การอบรม หมายถึง การทำจิตใจให้สงบ และทำปัญญาให้เกิดขึ้น ด้วยการฝึกฝนอบรมจิตไปตามแบบที่ท่านกำหนดไว้ ซึ่งเรียกชื่อไปต่างๆ เช่น การบำเพ็ญกรรมฐาน การทำสมาธิ การเจริญภาวนา การเจริญจิตภาวนา ภาวนา ในทางปฏิบัติท่านแบ่งไว้ ๒ แบบใหญ่ๆ คือ
หนี่ง สมถภาวนา การอบรมจิตใจให้สงบ ซึ่งได้แก่สมถกรรมฐานนั่นเอง และ
สอง วิปัสสนาภาวนา การอบรมปัญญาให้เกิด ซึ่งได้แก่วิปัสสนากรรมฐานนั่นเอง”
ประเด็นที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ ผมเข้าใจ (ไปเอง) ว่าการภาวนานั้นมีความหมายที่ค่อนข้างกว้างขวาง อย่างที่ตัวเองกระจ่างก็คือเข้าใจว่า . . . การภาวนาเป็น “การเปิดพื้นที่ว่าง” เพื่อให้ “ธรรม(ชาติ)” กับ “ตัวเรา” ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ “แยก” ออกจากกันอย่างที่เรารู้สึก เกิดจิตสำนึกใหม่ ได้การรับรู้ที่สด บริสุทธิ์ ไม่มี “อัตตาตัวตน” มาทำให้คนรู้สึกว่าตัวเองนั้นแยกออกจากธรรมชาติ (จักรวาล) การภาวนาน่าจะทำให้เราได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างตามที่มันเป็น (จริงๆ) . . .
สิ่งที่ผมว่าน่าจะสำคัญที่สุดในการพูดคุยกันเรื่องนี้ก็คือ . . . ผมเองพยายามอธิบายว่าการภาวนาคืออะไรโดยใช้สิ่งที่อยู่ใน “ความคิด” ของผมเป็นหลัก ส่วนท่านผู้อ่านเองก็ทำความเข้าใจไปโดยอาศัยสิ่งที่อยู่ใน “ความคิด” ของท่านด้วยเช่นกัน ซึ่งมันก็คงจะไม่ผิดอะไร ตราบใดที่เรา “รู้ตัวดี” ว่าเรากำลังสนทนาเรื่องการภาวนาที่อยู่ใน “โลกแห่งความคิด” ของเรา ผมชอบที่คุณตั้มใช้คำว่า . . . การภาวนาเป็นสร้าง “สัมผัสแห่งการตื่นรู้” อีกทั้งยังเสริมด้วยว่า . . . ที่เราภาวนานั้นแท้จริงแล้วเราไม่ได้ปฏิบัติธรรม หากแต่ว่า “ธรรมกำลังปฏิบัติเรา” ?
แม้ในบันทึกที่สองนี้จะยังไม่ได้อธิบายถึงกรรมวิธี (เทคนิค) ของการภาวนาที่เพิ่งได้ร่ำเรียนมาก็ตาม แต่มีคำหลักๆ สี่คำได้ผุดขึ้นมาในใจของผม ซึ่งก็คือ เปิด ยอมรับ คลี่คลาย และหลอมละลาย ครับ แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า (ถ้ามี)
เรียน ท่านอาจารย์ ดร.ประพนธ์ ตามมาเรียนรู้ และ นำขนมมาคารวะปีใหม่ ครับ
ร่วมภาวนาให้เมืองไทย กลับมา "ยิ้ม" ร่วมกันเหมือนเดิม ครับ
ถึงไม่ได้ "ลิ้มรส" แต่ก็ได้ "สัมผัสทางตา"
ขอบคุณอาจารย์หมอ JJ ครับ
ขอถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ตรงนี้นะครับ
อากาศที่ขอนแก่นคงจะหนาวนะครับ
- ขอบพระคุณค่ะ... ขอนำภาวนาไปอบรมจิตให้เจริญด้วยคุณธรรมและรู้เท่าทันสังขารด้วยคนค่ะ
ขอบคุณครับ อาจารย์
จะรอติดตามในตอนหน้าด้วยความตื่นเต้นครับ (อยากให้มีมากๆ)
เพราะยังติดใจในคำสุดท้ายของอาจารย์ที่ว่า "หลอมละลาย"