รองเท้าของผู้นำ ที่ชื่อนัท


ผู้นำ

จากการที่แม่ต้อยได้ทำงานในวงของการแพทย์ การพยาบาล และระบบบริการสุขภาพมานานนับสามสิบกว่าปี ทำให้แม่ต้อยมีโอกาสเห็นพัฒนาการของระบบสุขภาพ ได้รู้จักผู้คนมากมายที่ทำงานในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและภาคเอกชน  ได้รับฟังเรื่องราวทั้งที่เป็นความทุกข์ใจของคนทำงานในโรงพยาบาลที่ต้องรับผิดชอบภาระงานที่หนักอึ้ง งานที่ต้องมีความอดทนอย่างสูงต่อชีวิตผู้ป่วยและความคาดหวังของประชาชนผู้รับบริการ และต้องใช้ความรู้ทางวิชาการที่จะต้องเอาใจใส่เพื่อให้มีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา และที่ดีที่สุดคือได้มีโอกาสได้รับฟังเรื่องราวดีดีจากแวดวงคนทำงานและคนที่รู้จักกันเสมอ

       หมอนัทเป็นหมอหนุ่มที่มีความสามารถสูงมากมีหน้าตาดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ถือตัว เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่มีความตั้งใจมุ่งมั่นในการทำงาน สามารถพัฒนาโรงพยาบาลที่ขาดแคลนงบประมาณที่สุด ให้เป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานเทียบเท่าสากลได้ ยึดถือความต้องการของคนไข้และประชาชนเป็นหลัก

 แต่ก็ไม่ลืมที่จะคำนึงความพร้อม ความสุขและปัญหาของเพื่อนร่วมงานด้วยที่สำคัญคือ หมอนัทให้ความสำคัญแก่เพื่อนร่วมงานในทุกระดับ

แม่ต้อยคิดว่าใครๆก็ตามที่ได้รู้จัก หมอนัท ก็จะต้องรัก จะต้องชื่นชมอย่างแน่นอน จึงไม่น่าแปลกเขามักจะได้รับเชิญให้ไปร่วมในกิจกรรมต่างๆมากมาย แทบจะในทุกวงการเลยที่เดียว  สำหรับแม่ต้อยเองได้พูดคุยบ่อยครั้งแต่มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งที่แม่ต้อยชอบมากก็เลยจะขอเอามาเล่าต่อก็แล้วกันนะคะ เรื่องนี้มีชื่อว่า รองเท้าของผู้นำ

       ว่ากันว่าในการพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาล( หรืออาจจะเป็นโรงเรียน หรือหน่วยงานอื่นก็ได้) หากจะดูความสำเร็จของการขับเคลื่อนองค์กร ให้ดูที่รองเท้าของผู้นำ หากพบว่ารองเท้าผู้นำมีรอยสึกมากๆ ก็แสดงให้เห็นว่าน่าจะเป็นตัวบ่งบอกสัญญาณว่าองค์กรนั้นน่าจะมีผู้นำที่มีความกระตือรือร้น เอาใจใส่เยี่ยมดุแลผู้ร่วมงานและคนไข้อย่างสม่ำเสมอ ไม่นั่งอยู่แต่เฉพาะในห้องที่เย็นสบายเท่านั้น 

 หมอนัทเล่าว่าการที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้มีโอกาสลงไปเยี่ยมผู้ปฏิบัติงานตามตึกผู้ป่วย ได้พบปะคนไข้ทำให้สามารถเข้าใจปัญหาอย่างชัดเจนและ มีผลต่อการปรับปรุงการดูแลคนไข้ให้ดีมากยิ่งขึ้นได้ อีกทั้งเป็นการทำหน้าที่พี่เลี้ยงของทีมงานเพื่อแนะนำหารือแนวทางการดูแลคนไข้ การให้กำลังใจคนทำงานไปด้วยอีกทางหนึ่ง ที่สำคัญคือเรื่องราวบางอย่างสามารถกำหนดเป็นนโยบายในระยะต่อไปได้ด้วย

 

 

วันหนึ่งหมอนัทไปเยี่ยมเจ้าหน้าพยาบาลที่หน่วยงานตามปกติ ได้รับฟังเรื่องราวของคนไข้โรคเรื้อรังคนหนึ่งที่กลับมารักษาด้วยอาการเดิมๆเกือบทุกสัปดาห์ บางสัปดาห์ มาถึงสองครั้ง แม้ว่าคุณพยาบาลจะให้คำแนะนำในการกินยา การปฏิบัติตัวอย่างไรก็ไม่เป็นผล คนไข้คนนี้ยังกลับมาด้วยอาการเดิมๆ หมอนัทจึงแนะนำว่าทีมน่าจะตามไปดูที่บ้านเพื่อดูว่ามีอะไรที่คนไข้ไม่สามารถปฏิบัติตัวตามคำแนะนำได้

พบว่าที่บ้านคนไข้เป็นครอบครัวที่ค่อนข้างอบอุ่นสามีและญาติเอาใจใส่คนไข้ดีมาก

       แต่คนไข้คนนี้มีความเกรงใจทั้งสามีและญาติเพราะคิดว่าตัวเองได้สร้างภาระให้กับครอบครัวมามากพอแล้วเกี่ยวกับการรักษาโรคเรื้อรัง จึงไม่กล้าที่จะเอ่ยปากกับทางครอบครัวในการดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์ หรือพยาบาลอีก ส่วนทางฝ่ายครอบครัวเมื่อได้พบกับทีมของโรงพยาบาลก็เพิ่งจะมีความเข้าใจ เพราะเดิมก็คิดไปแล้วว่าทำไมโรงพยาบาลนี้รักษาไม่หายสักที  สุดท้ายเมื่อมีความเข้าใจกันดีทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้รักษาและครอบครัว ช่วยกันกันดูแลคนไข้ จนทำให้คนไข้มีอาการเป็นปกติในที่สุด

        ซึ่งจากเรื่องนี้จึงทำให้ หมอนัทมีนโยบายว่า ต่อไปหากมีคนไข้ที่เป็นโรคเรื้อรังมาที่โรงพยาบาลขอให้ทีมได้มีโอกาสพบกับญาติด้วยเพื่อให้มีส่วนร่วมในการดุแลรักษาเพราะโรคเรื้อรัง บางโรค การปฏิบัติตัว อย่างถูกต้อง ตลอดจนการดูแลของญาติมีผลอย่างยิ่งต่อการรักษา

       แม่ต้อยจึงคิดว่าเรื่องราวการรักษาคนไข้นี่ บางครั้งเหมือนเส้นผมบังภูเขาจริงๆ เริ่มจากทางครอบครัวต้องมีความเข้าใจ มีการพูดคุย ไม่ทอดทิ้งเวลามีคนป่วยในบ้าน หมั่นถามความรู้สึก  ผู้ให้บริการต้องมีความละเอียดอ่อน ต้องมีความเอาใจใส่ ที่สำคัญต้องมีความรัก ความเมตตาในหัวใจ มีความสังเกตสิ่งเล็กๆน้อยในตัวคนไข้ แต่ที่สำคัญที่สุดในความเห็นของแม่ต้อยคือ น่าจะต้องมีผู้นำที่มีรองเท้าสึกแบบหมอนัทนี่แหละ   รวมทั้งมีทีมงานที่น่ารักอย่างนี้ด้วย

       คงมีใครสักคน หรือหลายๆคนที่อยากจะรู้จักหมอนัทแล้วสินะคะ  แม่ต้อยจะขอเล่าต่ออีกสักนิดหนึ่ง เพราะว่าแม่ต้อยได้เรียนรู้สิ่งที่ดีดีจากหมอนัท และแม่ต้อยจะขออนุญาตนำมาเผยแพร่ในที่นี้ด้วย เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่เราควรนำมาปฏิบัติ หรืออย่างน้อยสอนให้ลูกหลาน

       เชื่อไหมว่าทุกเช้าก่อนหมอนัทจะไปทำงาน จะต้องไปกราบและหอมแก้มคุณย่าทุกเช้าเพื่อแสดงความรัก ความห่วงใยและด้วยความเคารพ แม่ต้อยเชื่อเหลือเกินว่าด้วยจิตใจที่อ่อนโยนและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอย่างนี้ จึงทำให้เผื่อแผ่ความดีไปถึง เพื่อนร่วมงาน ทีม และคนไข้ด้วยในทุกๆวัน

       เรื่องของรองเท้าผู้นำ จึงจบด้วยความอิ่มเอิบใจอย่างนี้คะ และแม่ต้อยกำลังจะขอไปดูรองเท้าของแม่ต้อยเองด้วยคะ ว่าเป็นอย่างไร

คำสำคัญ (Tags): #ผู้นำ
หมายเลขบันทึก: 234378เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2009 20:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะ แม่ต้อย พอลล่ารู้จักหมอนัทมานานแต่คงน้อยกว่าแม่ต้อยค่ะ รู้สึกว่าเขาเป็นแพทย์ที่น่ารัก..มีน้ำใจ เสมอต้นเสมอปลาย เขาสามารถนำเครื่องมือของพรพ.ทุกชิ้นไปใช้ด้วยความเข้าใจ เพราะสิ่งที่เขาทำรู้สึกว่าเขาจะทำมาจากใจ ที่รักผู้ป่วย รักเจ้าหน้าที่ทุกคน และที่ชอบมากๆคือ เขาจะเป็นคนทบทวนผลงานของเขาสม่ำเสมอค่ะ

 

ขอบคุณแมต้อยที่นำเรื่องหมอนัทมาเล่าค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท