สองสามปีนี้นึกครึ้มอกครึ้มใจเวลาปีใหม่เวียนมาถึงทีก็จะลุกขึ้นมาวางแผนว่า ปีนี้จะทำโน่นทำนี่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ที่อยากรู้หรือไม่ก็เป็นอะไรที่ตัวเองทำไม่ได้ เป้าหมายที่ตั้งไว้ก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้ทำหรือไม่ก็เลิกล้มกลางคันไม่เป็นไปตามแผน ถึงสิ้นปีทีมาทบทวนว่าได้ทำอะไรไปบ้าง หลักฐานความไม่เอาถ่านก็ปรากฎชัดแจ้งประจักษ์ ไม่มีข้อแก้ตัว แต่ก็ไม่เคยแก้ไขพฤติกรรมตัวเองสักที
ปีที่ผ่านมาก็จัดวางแผนไว้มากมายว่าจะหัดถ่ายภาพ วาดภาพสีน้ำ ฝึกฝนใช้โปรแกรมกราฟฟิก นี่ยังไม่รวมการพยายามย้อนกลับไปเรียนคณิตศาสตร์ในระดับชั้นประถม พร้อมๆ กับต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ฝึกฝนด้านเน็ตเวิร์กและฮาร์ดแวร์ ขณะเดียวกันก็อยากหัดทำเว็บไซต์ เรียนรู้AS3 ศึกษาเรื่องทำ SEO ยังอยากศึกษาเรื่องไวรัสคอมพิวเตอร์อย่างจริงจัง พอถึงกลางปีเพื่อนซึ่งเป็นครูที่วิทยาลัยการอาชีพส่งไฟล์สอน VB มาให้ดู เห็นว่าไม่ยากก็อยากหัดเขียนเล่นอีก ช่วงปลายปีนึกอยากมีพื้นฐานด้านบัญชี เพิ่มมากขึ้นก็ไปหาซื้อหนังสือบัญชีเบื้องต้นมาเพิ่งนั่งพลิกผ่านๆ ตา ได้สองบท นี่ยังไม่รวมหนังสือคู่มือทำโน่นทำนี่ที่ซื้อมาวางทิ้งไว้ในห้อง
ปีนี้ 2552 เริ่มเปิดศักราชมา ก็เริ่มวางแผนว่าจะทำอะไรใหม่อีกรอบ ซึ่งมีสรุปบทเรียนจากสองปีที่ผ่านมา คราวนี้วางกรอบการเรียนรู้ไว้แบบพอเพียง ไม่โลภ- ไม่ฟุ้งซ่าน เรียนรู้เรื่องใกล้ตัวที่ใช้ทำงาน เรียนรู้ตามศักยภาพของตัวเองและตามที่เวลาอำนวย
เป้าหมายหลักก็ตั้งใจว่าปีนี้จะใช้เวลากับภาษาอังกฤษให้มากขึ้นเพราะอยากให้ตัวเองมีอิสระทางภาษาเพื่อจะได้ท่องไปทั่วโลกด้วยอินเทอร์เน็ตและทำงานได้คล่องตัวขึ้น เป้าหมายที่วางก็ไม่วาดหวังว่าจะเก่งขนาดไปสอบวัดระดับผ่านอย่างที่เคยเพ้อไว้ แต่มุ่งหวังเพิ่มชั่วโมงการใช้ชีวิตอยู่กับภาษาอังกฤษให้มากที่สุด ที่รองลงมาคือการเรียนวิชากฎหมายที่มสธ. และศึกษาการใช้ Excel กับ access ให้มากขึ้น
ส่วนแผนสำรองเผื่อมีเวลาเหลือคือการหัดเขียนนิยายแบบตามใจฉันซะหนึ่งเรื่อง เรื่องการฝึกเขียนนิยายนี่ อยากเขียนมากส่วนหนึ่งเพราะความชอบ อีกส่วนหนึ่งเพราะถ้าเริ่มเขียนก็จะมีเหตุให้ต้องต้องเริ่มหาความรู้เรื่องหลักภาษาไทย หนึ่งในสามวิชาคู่รักคู่แค้นอันประกอบด้วย คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่เรียนแบบล้มลุกคลุกคลานมาโดยตลอดชีวิตการเรียนในสถานศึกษา ปัจจุบันจึงอาฆาตสามวิชานี้แน่วแน่ยิ่งกว่าแค้นฝังหุ่นว่าจะเรียนรู้สามวิชานี้ ไปจนกว่าจะตายจากกัน แต่เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีเวลาเหลือพอ ก็เลยเก็บไว้เป็นแผนสำรอง ปีนี้ทำได้แค่สามรายการหลักๆก็คงสุขใจล้นเหลือแล้ว ส่วนงานแถมอื่นค่อยว่ากัน แค่สามรายการนี่ยังไม่รู้ว่าจะทำได้ตามที่คิดหรือเปล่า
แต่ถึงทำได้หรือไม่ได้ก็ ไม่ได้เคร่งเครียดอะไรเพราะตามใจตัวเองมาแต่ไหนแต่ไร เลยไม่อยากจะไปบังคับอะไรพระคุณท่านมากนัก อยากทำก็ทำไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ค่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ เอาสนุกสนานเข้าว่า เพราะการวางแผนทำอะไรในปีใหม่นี่ที่จริงก็แค่ทำจุดตรวจเช็คตัวเอง สิ้นปีจะได้คิดทบทวนถึงสิ่งที่ผ่านมา ว่าได้ทำอะไรบ้างไม่ได้ทำอะไรบ้าง ได้หยุดทบทวนแผนที่เดินทางเดินของชีวิตว่าตอนนี้ จุดมุ่งหมายสำคัญอันเป็นแก่นยึดจิตใจยังคงอยู่ดีหรือเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ส่วนสิ่งอื่นที่วางแผนไว้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับการใช้ชีวิตนั้นหากไม่ได้ทำก็เสมอตัว ชีวิตก็คงเป็นแบบเดิมๆ แต่ปีไหนพระคุณท่านนึกคึกทำได้สำเร็จก็ถือเป็นกำไร เป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเองได้นั่งปลาบปลื้มใจว่า เออแน่ะ ทำได้ละเห็นไหม...ไม่ยากเลย
ไม่มีความเห็น