เมื่อสักครู่นี้เราเองได้มีโอกาสฟังคำสอนจากท่านพระอาจารย์ที่เมตตาตอบคำถามโยมท่านหนึ่งที่มาขอโอกาสทำเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายสำหรับผู้ถือศีลให้มีมาตรฐาน และให้มีการใส่ชื่อวัดลงไปด้วย ซึ่งท่าพระอาจารย์ได้เมตตาตอบคำถามอันเป็นคำตอบที่มีคุณค่าและลึกซึ้งในธรรม ดังนี้
“ไม่ต้องใส่ชื่อวัดหรอก เวลาเขาไปปฏิบัติธรรมที่อื่นเขาจะได้ใช้ได้ ถ้าใส่ชื่อวัดเขาก็ต้องมาปฏิบัติที่วัดเราวัดเดียว...”
“เรื่องขนาดถ้าจะทำก็ดูเรื่องตัวเล็ก ตัวใหญ่ แล้วส่วนใหญ่ผู้ถือศีลนั้นเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะเรื่องทำบุญนี้ผู้หญิงเขาถือว่าเป็นหน้าที่ในครอบครัว”
จากนั้นท่านก็ได้เมตตาเล่าตัวอย่างให้ฟังอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องหนังสือสวดมนต์
“เมื่อก่อน หนังสือสวดมนต์ทำวัตรแปลเราก็เขียนชื่อวัดลงไปด้วย ก็กลายเป็นว่าใช้ได้เฉพาะวัดเรา เขาจะเอาไปใช้ที่วัดอื่นไม่ได้ มันเป็นอย่างนี้นะ...
ความเมตตานั้นเป็นสิ่งที่ประเสริฐ บริสุทธิ์ และสิ้นสุดแห่งความเห็นแก่ตัว
ธรรมะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาเพื่อรังสรรค์ประโยชน์ให้กับทุกสรรพสิ่ง มิใช่ของใคร ผู้ใด หรือวัดใด
และธรรมะก็มิใช่เครื่องมือ หลักการ หลักสูตร ที่ใคร ผู้ใด คนใด จะใช้เพื่อหาประโยชน์ในส่วนตน
บุคคลที่จะประพฤติปฏิบัติธรรม เขาสะดวกที่ไหน ไปที่ไหน จะทำที่ใด สิ่งนั้นถือว่าดีแล้ว ประเสริฐแล้ว
มิใช่ว่าเขาจะประเสริฐได้ ดีได้ ก็เพราะว่าต้องมีชื่อเรา ต้องใช้ของเรา อย่าให้อุปทานมาซ้อนอุปทานนะ...