57.ลาก่อนเมืองกุวาฮาตี เมืองเก่าของอัสสัม อินเดีย


กุวาฮาตี ประตูสู่อีสานของเดีย และประตูสู่แผ่นดินใหญ่เอเชียอาคเนย์

 

          ดิฉันตื่นตีห้า อ่านหนังสือสักพัก เก็บข้าวของ สั่งชาร้อนมาทาน ลงมาข้างล่างเพื่อจ่ายค่าโทรศัพท์ คุณ มารับตรงเวลา

          เช้านี้เป็นวันหยุดบิฮูอีกหนึ่งวัน เมืองกุวาฮาตียังหลับใหลอยู่ แกขับรถผ่านเมืองเลียบแม่น้ำพรหมบุตร แม่น้ำกว้างใหญ่มาก เป็นหัวใจของรัฐนี้ทีเดียว ผ่านมหาวิทยาลัยกุวาฮาตีอีกด้านหนึ่ง มีพื้นที่ยาวมาก ถึงสนามบินตอน 7.20 น. ดิฉันขอบคุณและลากคุณ

          สนามบินสองชั้น สร้างใหม่ บินในและระหว่างประเทศอยู่ที่เดียวกัน มีตำรวจประจำจุดต่างๆ เต็มไปหมด เข้าประตูแรกตรวจตั๋วและ passport ขั้นต่อไปตรวจเหมือนเดิม พร้อมตรวจกระเป๋าผ่าน x-ray ต่อจากนั้นไปที่เคาน์เตอร์สายการบินแอร์อินเดีย (มีสายการบินเดียว) สัมภาระดิฉันเกินไปประมาณ 7-8 กิโลกรัมเพราะหนังสือ ดิฉันขอร้องเจ้าหน้าที่ว่าขอให้ดิฉันนำหนังสือไปเข้าห้องสมุด เขาอนุญาตไม่คิดเงินเพิ่ม ดิฉันยกมือไหว้ขอบคุณ

          ดิฉันอ่านหนังสือฆ่าเวลา ไม่มีร้านค้าอะไรให้เดินดูนอกจากร้านขายเครื่องเพชร พื้นที่ที่เหลือเป็นที่ทำการของสายการบินต้นทุนต่ำทั้งหมด

          เกือบ 8 โมงเช้าด่านศุลกากรเริ่มตรวจ อย่าลืมแขวน tag ที่กระเป่าทุกใบนะคะ เสร็จแล้วผ่านเครื่อง x-ray พร้อมตรวจตัวเสร็จแสตมป์การตรวจที่ tag แล้วก็นั่งรอ

          9.15 น. มีคนมาพาผู้โดยสารไปขึ้นรถบัสเพื่อไปขึ้นเครื่อง มีตำรวจตรวจที่ประตูว่ากระเป๋าสะพายทุกใบได้รับการ stamp ครบแล้วจึงขึ้นรถ ดิฉันนับผู้โดยสารมีทั้งหมด 22 คน ได้ยินเสียงคนไทยด้วย Airbus วันนั้นบรรทุกคนเพียง 22 คน รวมเจ้าหน้าที่แล้วคงไม่เกิน 30 คน เรียกว่าทำด้วยใจไม่คิดถึงกำไรจริงๆ ไม่ทราบว่าจะอยู่ในสภาพอย่างนี้ไปได้นานอีกเท่าไร อาหารวันนี้เป็น non-veg แกงอินเดีย เครื่องบินใช้เวลาบินสามชั่วโมงเศษก็ถึงกรุงเทพฯ

          อินเดียยังเป็นดินแดนของมิตรภาพ ดินแดนของอารยธรรม และความประทับใจ เมื่อเราได้รับมิตรภาพที่ดีงาม เราก็ต้องหาทางตอบแทนเขาบ้างเพื่อให้มิตรภาพนี้ยั่งยืนต่อไป

------------------------------------------------------------

อินเดียไม่ใช่ดินแดนที่เน้นความเจริญทางด้านวัตถุเหมือนที่ประเทศอื่นๆ เป็นกัน แต่ความแข็งแกร่งทางด้านจิตวิญญาณ และวัฒนธรรมอันดีงามกลับเป็นกำลังสำคัญในการหนุนเสริมให้การพัฒนาประเทศเป็นไปอย่างมีทิศทาง ไม่ลืมรากเหง้าของตนเอง ผสมผสานความเก่ากับความเจริญทางเทคโนโลยีได้อย่างกลมกลืน

          หากท่านเป็นผู้หนึ่งที่สนใจจะเพิ่มพูนความรู้ ความชำนาญทางด้านอินเดียศึกษา สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดลขอเชิญท่านสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรปริญญาโท สาขาวัฒนธรรมและการพัฒนา วิชาเอกอินเดียศึกษา ในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 โปรดเข้าชมรายละเอียด www.lc.mahidol.ac.th

          หลักสูตรปกติ แต่เรียนเสาร์-อาทิตย์เป็นหลัก

หมายเลขบันทึก: 233765เขียนเมื่อ 6 มกราคม 2009 20:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 04:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

อจ.โสภนาครับ

กูวาฮาตีเป็นเมืองที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับนักธุรกิจไทยขนาดกลาง

ยิ่งได้ไปเห็นมา ก็ยิ่งเห็นโอกาสในความไม่เจริญหรือยากจนนั้น

แต่เรื่องที่ยากที่สุด อยู่ตรงที่ว่า ทำอย่างไรให้นักธุรกิจไทยมองเห็นเช่นเดียวกัน

คงต้องมองด้วยจิตใจที่เป็นบวกนะครับ

ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าครับ

เรียน ท่านพลเดช ที่เคารพ

     ค่ะ ทำอย่างไรจึงจะทำให้นักธุรกิจไทยคิดเชิงบวก และเห็นเป็นช่องทางที่ดี ดิฉันจะพยายามทำในส่วนที่เป็นความรู้ ความเข้าใจในด้านดีๆ ของอินเดียให้กับสังคมไทยต่อไปค่ะ คงเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำได้ในขณะนี้ค่ะ

อินเดียยังเป็นดินแดนของมิตรภาพ ดินแดนของอารยธรรม และความประทับใจ

... ขอบคุณค่ะ ...

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท