วันเด็กแห่งชาติ


10 มกราคม วันเด็กแห่งชาติ

ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายของคำว่า "เด็ก" ไว้ คือ "เด็ก" หมายถึง คนที่มีอายุยังน้อย ยังเล็ก อ่อนวัน เช่น เด็กชาย คือ คำนำเรียกเด็กผู้ชายที่มีอายุไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ และ เด็กหญิง คือ คำนำเรียกเด็กผู้หญิงที่มีอายุไม่เกิน 14 ปี บริบูรณ์

วันเด็กแห่งชาติ ตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี เป็นวันหยุดราชการที่มิได้ชดเชยในวันทำงานถัดไป (วันจันทร์) มีการให้คำขวัญวันเด็กทุกปีโดยนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น

          งานวันเด็กแห่งชาติจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม พ.ศ. 2498 ตามคำเชิญชวนของ นายวี.เอ็ม. กุลกานี ผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญและความต้องการของเด็ก และเพื่อกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนในประเทศ โดยปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม เตรียมพร้อมให้ตนเองเป็นกำลังของชาติ

          รัฐบาลได้จัดให้มีคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้นมาคณะหนึ่ง ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และเอกชน กำหนดให้มีการฉลองวันเด็กแห่งชาติทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จุดประสงค์เพื่อให้เด็กทั่วประเทศทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียน ได้รู้ถึงความสำคัญของตน เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย ที่มีต่อตนเองและสังคม มีความยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

          งานวันเด็กแห่งชาติจัดขึ้นทุกปีในวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมจนถึง พ.ศ. 2506 และใน พ.ศ. 2507 ไม่สามารถจัดงานวันเด็กได้ทัน จึงได้เริ่มจัดอีกครั้งในปี พ.ศ. 2508 โดยเปลี่ยนเป็นวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม เนื่องจากเห็นว่าเป็นช่วงหมดฤดูฝนและเป็นวันหยุดราชการ จนถึงทุกวันนี้

คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ จากนายกรัฐมนตรี 2552

"ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี"

เพลงเด็กเอ๋ยเด็กดี
          เพลง หน้าที่ของเด็ก หรือเรียกกันติดปากว่าเพลง เด็กเอ๋ยเด็กดี เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเตือนใจเด็กและเยาวชน เพื่อให้ระลึกถึงสิ่งที่ตนควรทำ ประพันธ์เนื้อร้องโดย ชอุ่ม ปัญจพรรค์ และทำนองโดย เอื้อ สุนทรสนาน เพลงนี้มักเปิดในช่วงวันเด็กแห่งชาติ

          เนื้อเพลงเด็กเอ๋ยเด็กดี

                    เด็กเอ๋ยเด็กดี

          ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน

          หนึ่ง นับถือศาสนา

          สอง รักษาธรรมเนียมมั่น

          สาม เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์

          สี่ วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน

          ห้า ยึดมั่นกตัญญู

          หก เป็นผู้รู้รักการงาน

          เจ็ด ต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ

          ต้องมานะบากบั่น ไม่เกียจไม่คร้าน

          แปด รู้จักออมประหยัด

          เก้า ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล

          น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ

          ให้เหมาะกับกาลสมัยชาติพัฒนา

          สิบ ทำตนให้เป็นประโยชน์

          รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติชาติต้องรักษา

          เด็กสมัยชาติพัฒนา

          จะเป็นเด็กที่พาชาติไทยเจริญ

 

ที่มา  เวบไซต์คลังปัญญาไทย

คำสำคัญ (Tags): #วันเด็ก
หมายเลขบันทึก: 233517เขียนเมื่อ 5 มกราคม 2009 22:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

  • บล็อกนี้ ดีเยี่ยมค่ะ มีคุณค่า ครบทุกอย่างเลยค่ะ
  • ครูอ้อย ช้อยชอบค่ะ..เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ
  • สวัสดีปีใหม่ค่ะ
  • ขอบคุณนะคะ
  • คงเพราะเราเป็นครูค่ะ
ขอบคุณคะ....ที่ให้ความรู้ดีดี บ้านเรามีสถานที่เที่ยวมากมายที่เป็นธรรมชาติ ถ้าหากรู้จักรักษา ดูแลเอาไว้เพื่อลูกหลานต่อไป แต่ปัจจุบันมองไปทางไหน(ภูเก็ต,พังงา)ภูเขาก็เริ่มโล้น หมายถึงภูเขาเหลือแต่ดิน มองแล้วทำให้ชีวิตหดหู่จัง...ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ทำให้ชีวิ

ขอบคุณคะ....ที่ให้ความรู้ดีดี บ้านเรามีสถานที่เที่ยวมากมายที่เป็นธรรมชาติ ถ้าหากรู้จักรักษา ดูแลเอาไว้เพื่อลูกหลานต่อไป แต่ปัจจุบันมองไปทางไหน(ภูเก็ต,พังงา)ภูเขาก็เริ่มโล้น หมายถึงภูเขาเหลือแต่ดิน มองแล้วทำให้ชีวิตหดหู่จัง...ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ทำให้ชีวิตสดชื่นขึ้นเมื่อเจอภาพที่ยังมีสีเขียวของป่าซุกซ่อนอยู่บ้าง*******

ขอบคุณคะ....ที่ให้ความรู้ดีดี บ้านเรามีสถานที่เที่ยวมากมายที่เป็นธรรมชาติ ถ้าหากรู้จักรักษา ดูแลเอาไว้เพื่อลูกหลานต่อไป แต่ปัจจุบันมองไปทางไหน(ภูเก็ต,พังงา)ภูเขาก็เริ่มโล้น หมายถึงภูเขาเหลือแต่ดิน มองแล้วทำให้ชีวิตหดหู่จัง...ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ทำให้ชีวิตสดชื่นขึ้นเมื่อเจอภาพที่ยังมีสีเขียวของป่าซุกซ่อนอยู่บ้าง******

ขอบคุณคะ....ที่ให้ความรู้ดีดี บ้านเรามีสถานที่เที่ยวมากมายที่เป็นธรรมชาติ ถ้าหากรู้จักรักษา ดูแลเอาไว้เพื่อลูกหลานต่อไป แต่ปัจจุบันมองไปทางไหน(ภูเก็ต,พังงา)ภูเขาก็เริ่มโล้น หมายถึงภูเขาเหลือแต่ดิน มองแล้วทำให้ชีวิตหดหู่จัง...ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ทำให้ชีวิตสดชื่นขึ้นเมื่อเจอภาพที่ยังมีสีเขียวของป่าซุกซ่อนอขอบคุณคะ....ที่ให้ความรู้ดีดี บ้านเรามีสถานที่เที่ยวมากมายที่เป็นธรรมชาติ ถ้าหากรู้จักรักษา ดูแลเอาไว้เพื่อลูกหลานต่อไป แต่ปัจจุบันมองไปทางไหน(ภูเก็ต,พังงา)ภูเขาก็เริ่มโล้น หมายถึงภูเขาเหลือแต่ดิน มองแล้วทำให้ชีวิตหดหู่จัง...ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ทำให้ชีวิตสดชื่นขึ้นเมื่อเจอภาพที่ยังมีสีเขียวของป่าซุกซ่อนอยู่บ้าง**ยู่บ้าง**

ขอบคุณคะ....ที่ให้ความรู้ดีดี บ้านเรามีสถานที่เที่ยวมากมายที่เป็นธรรมชาติ ถ้าหากรู้จักรักษา ดูแลเอาไว้เพื่อลูกหลานต่อไป แต่ปัจจุบันมองไปทางไหน(ภูเก็ต,พังงา)ภูเขาก็เริ่มโล้น หมายถึงภูเขาเหลือแต่ดิน มองแล้วทำให้ชีวิตหดหู่จัง...ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ทำให้ชีวิตสดชื่นขึ้นเมื่อเจอภาพที่ยังมีสีเขียวของป่าซุกซ่อนอยู่บ้าง**

ขอบคุณคะ....ที่ให้ความรู้ดีดี บ้านเรามีสถานที่เที่ยวมากมายที่เป็นธรรมชาติ ถ้าหากรู้จักรักษา ดูแลเอาไว้เพื่อลูกหลานต่อไป แต่ปัจจุบันมองไปทางไหน(ภูเก็ต,พังงา)ภูเขาก็เริ่มโล้น หมายถึงภูเขาเหลือแต่ดิน มองแล้วทำให้ชีวิตหดหู่จัง...ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ทำให้ชีวิตสดชื่นขึ้นเมื่อเจอภาพที่ยังมีสีเขียวของป่าซุกซ่อนอยู่บ้าง**

ขอบคุณคะ....ที่ให้ความรู้ดีดี บ้านเรามีสถานที่เที่ยวมากมายที่เป็นธรรมชาติ ถ้าหากรู้จักรักษา ดูแลเอาไว้เพื่อลูกหลานต่อไป แต่ปัจจุบันมองไปทางไหน(ภูเก็ต,พังงา)ภูเขาก็เริ่มโล้น หมายถึงภูเขาเหลือแต่ดิน มองแล้วทำให้ชีวิตหดหู่จัง...ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ทำให้ชีวิตสดชื่นขึ้นเมื่อเจอภาพที่ยังมีสีเขียวของป่าซุกซ่อนอยู่บ้าง**

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท