3 ม.ค. 2552
วันนี้ผมได้เดินทางไปบ้านโฮมฮัก ซึ่งเป็นที่ตั้งของมูลนิธิสุธาสิณี น้อยอินทร์ หรือ แม่ติ๋ม ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกันว่าเธอชื่อ "แม่ต้อย" จากโฆษณาของไทยประกันชีวิต ภาพที่เราเห็นจากโฆษณา มีเด็กที่แม่ติ๋มรับเลี้ยงเพียง 2-3 คน แต่ความเป็นจริงแล้วแม่ติ๋มได้ฟูมฟักลูก ๆ มาเป็นเวลา 20 กว่าปีแล้ว มีเด็กที่ผ่านการเลี้ยงดูและบำบัดทุกข์ทางกายใจออกจากบ้านนี้ไปสู่โลกภายนอกหลายร้อยคน ปัจจุบันมีเด็กในอุปการะจำนวน 112 คน
แม่ติ๋ม เป็นคนกรุงเทพฯ ครอบครัวมีฐานะทางสังคมพอควร แต่ด้วยความเป็นคนใจบุญชอบออกค่ายอาสาเธอได้มีโอกาสเดินทางมาที่ จ.ยโสธรแล้วรับการน้ำใจไมตรีที่ดีของคนอีสานที่แสดงต่อเธอดุจญาติมิตร หลังจากผ่านเรื่องราวมามากมายเธอจึงตัดสินใจน้ำพาเด็กที่อุปการะมาสร้างบ้านที่ จ.ยโสธร ตั้งชื่อว่า "บ้านโฮมฮัก" เด็กที่นำมาเลี้ยงส่วนใหญ่พ่อแม่เสียชีวิตจากการเป็นโรคเอดส์ บางรายถูกข่มขืน บางรายพ่อแม่ติดยาเสพติดแล้วให้ลูกไปเป็นขอทาน บางรายติดเชื้อเอดส์จากพ่อแม่ก็มี
แม่ติ๋มต้องแบกรับค่าเลี้ยงดูดุจแม่เลี้ยงลูกทุกประการ เธอต้องรับผิดชอบชีวิตที่ต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่หลายร้อยชีวิตด้วยทรัพย์สินของเธอเองจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว แต่ความทุกข์นั้นก็ไม่ทำให้แม่ติ๋มละความพยายาม บ้านหลังแรกที่อยู่เป็นบ้านชั้นเดียวขนาด 8x8 เมตร ไม่มีห้องและต้องอยู่อยากแร้นแคลนนับจำนวนชีวิตได้หลายสิบชีวิต ต่อมาสถานทูตญี่ปุ่นได้เล็งเห็นคุณความดีจึงสร้างที่พักเป็นอาคารให้ 1 หลัง หน้าแปลกมั๊ยครับว่า คนญี่ปุ่นมองเห็นปัญหาและช่วยเหลือคนไทยมากกว่ารัฐบาลไทย
สิ่งที่น่าแปลกหลังจากที่ผมได้สอบถามจากเจ้าหน้าที่ว่า ไม่มีหน่วยงานจากรัฐยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลย มีเพียงสถานีอนามัยตำบลตาดทอง ที่หัวหน้าสถานีเป็นคนใจบุญที่ช่วยเหลือและมาช่วยดูแลความสะอาดในเรือนนอนให้ไม่ขาด เมื่อไม่นานมานี้ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัตน์ฯ พระวรชายา ทรงประทานความช่วยเหลือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่หน้าจะช่วยเธอได้อย่างต่อเนื่อง เช่น กาชาดจังหวัดยโสธร ก็ให้ความช่วยเหลือได้เพียงปีละหนึ่งครั้งในขณะที่เด้กต้องกินทุกวัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยหายไปไหนเสียหมด คนทำความดีอย่างแม่ติ๋มเหตุใดจึงไม่มีใครยกย่องและให้การช่วยเหลือเธอ ทั้งที่มีรายการทีวีนำเสนอหลายรายการแต่ก็พึ่งมารู้จักกันในพักหลัง
วันนี้ผมเดินทางไปบ้านโฮมฮักพร้อมด้วยแม่ ป้า น้า นำเอาของใช้ที่ใช้แล้วและอยู่ในสภาพดีไป บริจาค โดยส่วนหนึ่งได้รับความช่วยเหลือจากครูโรงเรียนเมืองร้อยเอ็ด ได้เสื้อผ้าจำนวน 12 กระสอบ เงินจำนวน 3,000 บาท แล้วความรักความศรัทธาเต็มร้อยเปอร์เซนต์ ผมได้รับคำเชิญชวนจากเพื่อนที่เป็นนักวิชาการที่มหาวิทยาลัยมหิดล กาญจนบุรีชวนมาในวันที่ 2 ม.ค. แต่ก็ติดธุระจึงได้เดินทางวันนี้
สิ่งที่พบเห็นคือมีอาคารนอน 3 หลัง 2 หลังอยู่ในเขตเดียวกันเป็นเรือนนอนของเด็กผู้หญิงและเด็กอ่อน ส่วนอีกหลังอยู่ห่างออกไปเป็นเรือนนอนของเด็กผู้ชาย มีโรงยิม 1 หลังได้รับมอบจากกลุ่มผู้ใจบุญ นอกจากนี้ยังพบเห็นเด็ก ๆ ที่นั่งล้อมวงดูทีวีด้วยความสุข เพราะเด็กที่นี่มีทีวีดูเพียงเครื่องเดียว มีเด็กอ่อนที่พ่อแม่ต้องตายด้วยโรคเอดส์ทั้งที่ติดเอดส์กับพ่อแม่และไม่ได้กับพ่อแม่แต่ญาติรังเกลียด และมีเด็กอ่อนที่นำเอาแม่เด็กมาเลี้ยงดูเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจก็มี
" เด็กบางคนแรกรับกินข้าวไม่เป็น เพราะแม่ติดยามีคนเอาข้าวสารมาให้เพราะกลัวลูกอดข้าว แต่แม่มัวเสพยาไม่สนใจทำอาหารให้ลูก ๆ จึงคิดว่าข้าวสารที่เค้าเอามาให้กินได้ทันที เด็กจึงกินข้าวสารประทังชีวิต เมื่อมาอยู่บ้านโฮมฮักต้องสอนให้กินข้าว กินข้าวพร้อมกับ กินข้าวพร้อมกับและของหวาน กว่าจะฝึกได้ใช้เวลาเกือบเดือน" จากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่
ช่วงปีใหม่นี้เป็นที่หน้าดีใจที่มีเพื่อร่วมชาติหลายคนต่างพากันนำเอาข้าวของไปบริจาคให้เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะวันที่ 2 ม.ค. เจ้าหน้าที่แทบไม่มีเวลาพักเลยทีเดียว แต่ผมอยากฝากทุก ๆ คนที่มีมนุษยธรรมว่าเด็กกินข้าวทุกวัน เด็กกว่าจะเติบโต เด็กกว่าจะช่วยเหลือตนเองจนอยู่ในโลกกว้างได้นั้นใช้เวลาและเงินทองมาเท่าใด ขอเชิญชวนหน่วยงานรัฐที่ยังหูหนวกตาบอดช่วยเหลือสักที ขอเชิญชวนเพื่อนร่วมชาติร่วมโลก มาบริจาคให้เด็ก ๆ เหล่านี้มีชีวิตรอดจนเติบใหญ่ทุกคนด้วยครับ
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาบริจาคช่วยเหลือเด็ก ๆ โอนเงินไปได้ที่
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขายโสธร ชื่อบัญชี มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน
เลขที่ 561-2-21187-7
โทร. 0-4572-2241
หรือจะบริจาคเสื้อผ้า หนังสือการ์ตูน หนังสือเรียน ของเล่น และสิ่งจำเป็นได้ตามจิตศรัทธาเป็นของใหม่หรือของใช้แล้วก็ได้ เพราะของที่ท่านไม่ใช้แล้วยังมีค่ากับเด็ก ๆ เหล่านี้อย่างมาก
ไม่มีความเห็น