ทำไมเพิ่งบอก
ณ บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่นอกตัวเมืองยะลาประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านที่ล้อมรอบด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ข้างหน้าบ้านเป็นสวนยางสิบๆไร่ และหลังบ้านเป็นทุ่งนา หน้าบ้านมีเด็ก 2 คนอายุประมาณ 5 ขวบ ชื่อ ฟารุกและมูซา ทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน พวกเขากำลังเล่นอยู่หน้าบ้านตามประสาเด็ก
“บรื้น บรื้น บรื้น...” เสียงรถบรรทุกถอยหลังเข้าประชิดรถเมคโครที่ไม่ได้ออกจากท่อไอเสีย แต่ออกจากปากของฟารุกดังลั่น
ส่วนรถเมคโครขุดดินก็ตักดินใส่ในรถบรรทุก ซึ่งมีมูซาเป็นผู้บังคับทั้งคู่เล่นกันอย่างสนุกสนาน
สักพัก
“รุก! หลังจากนี้แกคงเหงาน่ะ แกคงจะไม่ได้เล่นกับฉันอีกต่อไปน่ะ”
“ทำไมหยอ?” ฟารุกถามมูซาด้วยความสงสัย แต่เสียงที่ออกมาเป็นสำเนียงเด็กๆ
“ก็พรุ่งนี้ พ่อและแม่ข้าจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วก็หาบ้านอยู่แถวโน้น คงจะอยู่ที่โน่นไปตลอดชีวิต ส่วนบ้านที่นี่ก็ได้ข่าวว่ามีคนจองที่จะซื้อแล้ว ก็คงไม่ได้กลับมาหาแกอีกแล้วล่ะ”
“แล้วทำไมต้องไปด้วย?”
“เห็นแม่เขาบอกว่า อยู่ที่นี่ทำงานลำบาก มีแต่คนยิงกัน แม่อยู่ไม่ได้”
20 ปีผ่านไป
“อุมัร ๆ ๆ ๆ” เสียงเรียกมาจากทางด้านหลังของหนุ่มนักศึกษารามคำแหงซึ่งกำลังกลุ้มใจถึงบางอย่าง
“เออ! อภิชาต นายมีอะไรหรือเปล่าว่ะ? ถึงได้มาหาข้าที่นี่”
“เฮ้ย ดีใจด้วยโว้ยเพื่อน ข้าได้ข่าวว่าแกจบแล้วนิ๊ แล้วก็ได้เกียรตินิยมเหมือนข้าด้วย ว่าแต่ เอ...ทำไมไม่เห็นเองจะดีใจเลย เป็นอะไรหรือเปล่าว่ะ?”
“ข้าคิดถึงอดีตว่ะ”
“ยังไง?” อภิชาติสงสัย
“ตอนเด็กๆฉันมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกัน เวลาเล่นก็เล่นด้วยกัน คบกันได้ไม่กี่ปี ช่วงนั้นเขาก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ เพราะสถานการณ์สามจังหวัดไม่อำนวย เรื่องนั้นข้าไม่กลุ้มใจหรอก แต่ที่ข้ากลุ้มใจคือ ทุกวันนี้ 4 ปีแล้วที่ข้ามาอยู่นี่ แต่ข้ายังหาตัวเขาไม่เจอเลย ก่อนที่ข้าจะกลับบ้าน ข้าอยากเจอเขามาก ข้าอยากจะเจอเพื่อนสนิทคนนี้ ถึงแม้จะเจอกันแค่ครั้งเดียวก็ตามเถอะ เพราะข้าไม่รู้ว่าโอกาสหน้าข้าจะได้มากรุงเทพฯอีกหรือเปล่า”
“ข้าว่า ถ้าเจอเขาแกก็คงจำหน้าเขาไม่ได้หรอก ตั้ง 20 ปี ทุกอย่างก็คงเปลี่ยนแล้วล่ะ” อภิชาติแสดงความคิดเห็น จากนั้นอภิชาติก็พูดต่อว่า
“พูดถึงเรื่องนี้ ข้าก็มีเพื่อนที่อยู่สามจังหวัดเหมือนกัน”
“บ้านเขาอยู่ไหนล่ะ?”
“ข้าจำไม่ได้แล้วล่ะ เพราะช่วงนั้นข้าอายุประมาณ 5 ขวบ สภาพก็เหมือนที่แกเล่าแหละ”
“จริงหรือ? แล้วเพื่อนแกชื่ออะไร?” อุมัรถาม
“เขาชื่อฟารุก”
“หา...ฟารุกหรอ?” อุมัรอ้าปากกว้างหลังจากที่ได้ยินชื่อฟารุกจากปากของอภิชาติ เพราะ
“ทำไม? แกรู้จักเขาหรือ?”
“ไม่ใช่ เดิมข้าก็ชื่อฟารุก แต่แม่บอกว่าฟารุกเป็นชื่อเรียกของท่านคอลีฟะฮฺอุมัร แม่ก็เลยเปลี่ยนชื่อให้ข้าใหม่ แต่เวลาเรียกก็จะเรียกเป็นชื่อฟารุก”
“อ้อ! อย่างนี้นี่เอง” อภิชาติถอนหายใจยาว แต่สักพัก
“เฮ้ย! ใช่ฟารุกจริงหรือนี่? ข้ามูซาน่ะ จำได้ไหม?” หลังจากที่อภิชาติแนะนำชื่อเสร็จก็ทำให้อุมัรหรือฟารุกสะดุ้ง แล้วกล่าวว่า
“หา...มูซาหรือนี่?”
ทั้งคู่ดีใจ แล้วก็กอดกันแน่น จากนั้นมูซาก็อธิบายให้ฟารุกทราบถึงสาเหตุที่ได้เปลี่ยนชื่อว่า
“แม่เป็นคนเปลี่ยนชื่อให้ข้า เพราะแม่คิดว่าอยากจะให้ลูกของท่านมีชื่อเหมือนเพื่อนๆบ้าง ก็เลยเปลี่ยนชื่อเป็นอภิชาติ แต่พ่อกับแม่ก็ยังเรียกมูซาเช่นเดิม”
(เพิ่งจะมาถามช่วงเรียนจบ)
แม้ทำไมเพิ่งบอก จะเพิ่งบอกและส่งไป แต่บังก็ขอขอบคุณด้วยใจจริงเพราะ "ทำไมเพิ่งบอก" ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งใน "บันทึกเรื่องเล่าจากคนต่างถิ่น" เรียบร้อยแล้วครับ อัลฮัมดุลิลละฮฺ ตอนแรกบังเสนอให้บริษัทตัดออก ๔ เรื่อง แต่เขาไม่ตัด และเต็มใจทำทั้งหมด แม้หน้าจะเยอะน้อง ก็อัลฮัมดุลิลละฮฺ ไม่เกินกลางเดือนหน้า อินชาอัลลอฮฺจะได้รับ
Thank you very much
for my brother