น้องหยก


รีไซเคิล,นำกลับมาใช้ใหม่,สมุด,หนังสือ,การจัดบ้าน,การทำความสะอาด

การรีไซเคิล

  หรือการนำกลับมาใช้ใหม่ มีพูดกันหนาหู ความเบาบางอาจจะลดลงไปบ้าง เพราะพ่อค้าแม่ค้าขายของกันไม่ค่อยได้ จึงเป็นปัญหากันอีก ฉันก็เห็นด้วยที่จะกระตุ้นให้มีการซื้อสินค้า แต่ก็นั่นแหละสภาพคล่องทางด้านการเงินในกระเป๋าไม่สู้ดีนัก ฉันเป็นคนที่เห็นของใหม่ๆ หรือของสวยๆ งามๆ ก็มักจะอดใจที่จะซี้อหามาใช้ไม่ได้ บางทีการซื้อของก็เป็นความไม่ได้ตั้งใจไว้ก่อน

วันนี้ฉันว่าง เลยจะเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านกันซะหน่อย แต่พบว่าข้าวของเครื่องใช้ที่บ้านฉัน ทำไมถึงได้เยอะแยะ อย่างนี้ ของบางอย่างฉันหาเพื่อที่จะได้ใช้ แต่หาไม่พบ ฉันก็ไปซื้อมาใหม่ กลับเป็นว่าตอนนี้ฉันหามันเจอแล้วยังใช้งานได้เป็นอย่างดี ก็มีอยู่หลายรายการ ดังนั้น ฉันจึงตัองแยกข้าวของที่ฉันพบ และจัดให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อจะได้หาพบเวลาต้องการจะใช้ รายการสิ่งของที่ฉันพบมีอย่างนี้ค่ะ

-ปากกาหลายด้ามและดินสอหลายแท่งที่ฉันพบ ฉันจึงรวบรวมใส่กระป๋องเปล่า(มันคือกระป๋องผลไม้กระป๋อง) เพื่อให้ด้ามของมันโหล่ขึ้นมา และดูสวยงาม
-สมุดที่ใช้แล้ว แต่ยังเหลือกระดาษเปล่า มีมากมายหลายเล่ม บางเล่ม ใช้ไปนิดหน่อย ฉันแยกไว้และบางที ต้องจัดการทำรูปเล่มใหม่ ทำปกใหม่
-หนังสือจำนวนมากมาย ที่อยู่ในลัง บางเล่มฉันแปลกใจมากที่ทำไมมันหายไป ฉันหาแล้วแต่ไม่พบ และแล้ววันนี้ฉันพบแล้ว และไม่น่าเชื่อบางเล่มฉันมีตั้ง สอง-สามเล่ม ฉันแปลกใจกับตัวเองมากๆดังนั้น ฉันจึงจัดการ จัดหนังสือทุกเล่ม แยกตามหมวดหมู่ และการใช้งาน และจะจำไว้ว่าห้ามนำหนังสือเก่าใส่ลังเป็นอัดขาด ฉันรักหนังสือทุกเล่มที่มี แต่บางทีเก็บจนลืม  หนังสือของฉันมีหมวดหมู่ดังนี้
               ก.หนังสือเรียนแต่ละระดับชั้น หมวดวิชาการ การเรียนรู้ ต่างๆ
               ข.หนังสือนิยาย เรื่องสั้น เรื่องแปล เรื่องเขียน งานเขียน
               ค.หนังสือการ์ตูน
               ง.นิตยสาร วารสาร
               จ.หนังสือช่างต่างๆ งานฝีมือ ประดิษฐ์ เทคนิค การซ่อมแซม การทำอาหาร การปลูกต้นไม้
               ฉ.หนังสือธรรมะ สวดมนต์ มนต์พิธี
               ช.หนังสือเกี่ยวกับการตลาด การขาย การสร้างความร่ำรวย การทำธุรกิจ การสร้างงาน
               ซ.หนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
จะเห็นว่าหนังสือมีเยอะมาก ฉันต้องใช้ตู้หนังสือ 1 ตู้ ชั้นวางหนังสือแบบสามช่องอีก 1 อัน ยังไม่พอวาง ต้องวางซ้อนกันไว้หลังตู้ และบนโต๊ะทำงาน ฉันใช้ที่ว่างแถวที่วางโซฟารับแขก เป็นที่วางชั้นหนังสือ และตู้หนังสือ และฉันอดชมตัวเองไม่ได้ ที่จัดได้ดีมาก มองดูชั้นหนังสือแล้วน่าหยิบมาอ่าน ฉันจินตนาการว่าได้นั่งอ่านหนังสือในห้องสมุด (ดีจังบ้านฉันมีห้องสมุดส่วนตัว) ฉันกะว่าจะอ่านให้หมด แล้วจึงจะซื้อใหม่มาเพิ่มอีก และคงต้องหาตู้หนังสือใหม่อีกสักตู้ แต่คิดอีกที ไม่เอาดีกว่า หาอ่านในอินเตอร์เนตก็อ่านกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว อิอิอิ
ตอนนี้ฉันเหนื่อยแล้วขอไปพักอ่านหนังสือก่อนละกัน

สรุปผลงานการทำรีไซเคิลของฉันวันนี้คือ
1. ฉันได้นำปากกา และ ดินสอที่พบมาใช้ใหม่ และแจกให้ผู้อื่นได้ใช้ด้วย
2. ฉันทำสมุดเล่มใหม่ด้วยฝีมือของฉันเอง โดยนำสมุดเก่ามาประยุกต์
3. ฉันได้อ่านหนังสือที่ฉันมีอยู่ในบ้าน แต่เพิ่งพบและเพิ่งได้อ่าน มีความสุขดีไม่น้อย
4. ฉันหมดเวลากับการจัดบ้าน และไม่ได้ออกไปไหน ประหยัดค่าใช้จ่าย
5. ฉันหวังว่าคนที่อ่านเรื่องนี้คงได้ความคิดแปลกๆ ที่จะนำเอาของที่เรามีในบ้านกลับมาใช้ได้อีก

หมายเลขบันทึก: 231202เขียนเมื่อ 22 ธันวาคม 2008 13:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 23:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)


วันที่ 23 มกราคม 2552

กระแส “เห่อทำขาว” ทั้งในกลุ่มสาวน้อย-สาวใหญ่ กลุ่มเพศที่สาม หรือแม้แต่ผู้ชายแท้ ๆ กำลังมาแรงในเมืองไทย มีธุรกิจ “รับทำขาว” เกิดขึ้นมากมาย มีการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณกันเต็มที่ เช่น... เพื่อความขาวเนียนของผิวพรรณ, เพื่อให้ผิวขาวสวยทั่วเรือนร่าง, เพื่อให้ผิวขาวผ่องเป็นยองใย, เพื่อให้ผิวขาวเหมือนดารา, เพื่อให้ผิวขาวผ่องเป็นชมพูเหมือนพริตตี้ ฯลฯ
 
แต่ประเด็นคือการทำขาวยุคนี้...มันไม่ธรรมดา
 
เพราะใช้วิธี “ฉีดสารขาว” เข้าไปในร่างกาย !!
 
ทั้งนี้ เจ้า “สารขาว” ที่ว่านี้คือ “กลูตาไธโอน (Clutathione)” ซึ่งสารนี้ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อใช้รักษามะเร็งต่อมลูกหมาก หรือใช้ในรูปแบบกรดอะมิโนที่ใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริ มอาหาร แต่กลับมีการแอบอ้างนำมาใช้-นำมาแอบอ้างว่าทำให้ผิวขาว แล้วในเมืองไทยตอนนี้ก็ฮิตกันมากทีเดียว
 
สารกลูตาไธโอนนี้เพิ่งจะบูมและกล่าวถึงกันมากจากแรงโฆษณาในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เพราะคนผิวคล้ำฉีดแล้วผิวขาวขึ้น แต่ต้องระวังเรื่องเม็ดสีที่ทำให้เปลี่ยน โดยเฉพาะกับลูกตา ซึ่งถ้าใช้ไปนาน ๆ อาจมีผลต่อประสาทตา อาจทำให้ตามองไม่เห็นหรือเปล่า ตรงนี้ยังไม่มีผลยืนยันที่แน่ชัด” ...แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง โรงพยาบาลพญาไท 3 พญ.พรภุชงค์ เลาห์เกริกเกียรติ ระบุ    
 
พร้อมทั้งให้ข้อมูลเชิงการแพทย์ผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ต่อไปว่า... กลูตาไธโอน หรือที่มีคนเรียกว่าสารขาวนี้ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่มีกำลังสูง เมื่อเปรียบเทียบกับพวกวิตามินซี หรือวิตามินอี โดยสารชนิดนี้เป็นสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเม็ดสีในร่าง กายมนุษย์ ทำให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนแปลง ซึ่งปกติสารชนิดนี้ก็มีเจือปนอยู่ในอาหารจำพวกเนื้อ พืช ผัก และผลไม้ชนิดต่าง ๆ ที่มนุษย์เรากินเข้าไป
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ โดยปกติแล้วแพทย์จะใช้สารกลูตาไธโอนในปริมาณที่ไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อครั้ง แต่มีคลินิกหรือสถานเสริมความงามนำมาใช้ผสมกับวิตามินซีเพื่อฉี ดให้ผิวขาวขึ้น
 
“การฉีดจะใช้สารกลูตาไธโอนในปริมาณความเข้มข้นสูง ซึ่งอันตรายหรือไม่ก็ยังไม่แน่ชัด ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ยังยืนยันชัดเจนไม่ได้ว่าปลอดภัย ยังยืนยันไม่ได้ว่านาน ๆ ไป 10 ปี 20 ปี เกิดการสะสมในร่างกายมาก ๆ จะเกิดอันตรายต่อร่างกายหรือไม่-อย่างไร”
 
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังบอกอีกว่า... การใช้สารกลูตาไธโอนในลักษณะที่ว่านี้ ในประเทศไทย “ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย.” หรือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หากนำมาใช้ก็ถือว่า “ผิดกฎหมาย” ซึ่งก็ไม่ทราบต้นตอ-ไม่ทราบว่าใครริเริ่มนำมาใช้ ยังไม่มีใครยืนยันชัดเจนเพราะเป็นสารตัวใหม่
 
“ที่ต้องระวังคือการแพ้ ซึ่งสารทุกตัวที่ฉีดเข้าเส้นเลือดสามารถทำให้เกิดการแพ้ได้หมด ก็ฝากให้ อย.กวดขันเรื่องนี้ และเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาที่เกินจริง” ...พญ.พรภุชงค์กล่าว
 
ทางด้านแหล่งข่าวในสายสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ก็บอกว่า... สารกลูตาไธโอนที่มีการนำไปใช้เป็นยาฉีดเข้าร่างกายนั้น ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนกับกองควบคุมยา หากมีการนำไปใช้ก็ถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งแม้จะเป็นตัวยานำเข้า หรือลักลอบซื้อมาจากต่างประเทศ ก็ถือว่าผิดกฎหมายทั้งสิ้น
 
“ขอเตือนประชาชน...อย่าเชื่อคำแอบอ้างว่าผ่าน อย.แล้ว...
 
ขอให้ระวัง...นี่อาจจะเป็นการทดลองยารูปแบบหนึ่ง !!”
 
...แหล่งข่าวกล่าวเน้น พร้อมทั้งแจกแจงต่อไปอีกว่า... การแอบอ้างว่าสารกลูตาไธโอนนี้ผ่านการรับรองจาก อย.แล้วนั้น ที่จริงเป็นเพียงการอนุญาตให้ใช้ในรูปแบบกรดอะมิโนที่ใช้เป็นส่ วนประกอบของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ใช้กินร่วมกับวิตามินบำรุงร่างกายเท่านั้น ยังไม่เคยมีการอนุญาตให้ใช้เป็นยาเดี่ยว
 
“ไม่เคยมีการอนุญาตให้ใช้เป็นยาฉีดเข้าร่างกายแต่อย่างใด ซึ่งการนำสารนี้มาฉีดเพื่อให้ผิวขาวถือเป็นผลทางอ้อม เป็นการนำผลข้างเคียงมาใช้ ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของสารชนิดนี้”
 
นอกจากนี้ ขอเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อโฆษณาใด ๆ ที่แอบอ้างว่าช่วยให้ผิวขาวขึ้น เพราะจริง ๆ แล้วไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่ทำให้ผิวขาวได้ถาวร สารกลูตาไธโอนอาจจะช่วยได้ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น เมื่อหมดฤทธิ์ร่างกายก็จะผลิตเม็ดสีตามปกติ และการฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือเส้นเลือดในปริมาณมากเกินไปนอกจากไ ม่เกิดประโยชน์แล้วยังจะให้โทษ เพราะสารทุกอย่างต้องได้รับในปริมาณที่พอเหมาะจึงจะไม่เกิดผลเส ีย
 
“ที่สำคัญ สารตัวนี้จะไปหยุดการสร้างเอนไซม์เม็ดสีตามธรรมชาติ ซึ่งถือว่าเสี่ยงมาก เพราะอาจทำให้เกิดการแพ้ยาเฉียบพลันรุนแรง จนช็อก และถึงขั้นเสียชีวิตได้ !!” ...แหล่งข่าวสาย อย.เตือน
 
ทั้งนี้ ธุรกิจรับทำขาวด้วยสารทำขาวนี้ สนนราคาค่าบริการนั้นถ้าซื้อเป็นคอร์ส ฉีด 10 ครั้ง ฉีด 10 สัปดาห์ต่อเนื่องกัน ก็ตกประมาณ 30,000 บาทต่อคอร์ส แต่ถ้าคนเห่อทำขาวมีเงินน้อยแต่อยากฉีด ก็มีที่รับฉีดให้เป็นเข็ม ๆ เป็นครั้ง ๆ ไป โดยค่าบริการตกครั้งละประมาณ 4,000 บาท หรือบางแห่งราคาทั้งแบบเป็นคอร์สและเป็นครั้งอาจจะต่ำหรือสูงกว ่านี้ แต่จะอย่างไรก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์จ่ายไม่ยาก...สำหรับคนอยากขาว& nbsp;
 
อยากขาวจนยอมเสียเงิน-เป็นเหมือน “หนูทดลองยา”
 
จนอาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการ “ช็อก-ตาบอด-เสียชีวิต !!”.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท