คนพันธุ์ใหม่ในอนาคต (Future Cultures) เราอาจตั้งความฝันไว้ว่า อีก 5 ปี ข้างหน้าอยากจะพัฒนาคนให้เป็น คนที่มีหัวนวัตกรรม (inno – people) คนที่เปิดใจรับฟัง (Open minded) ให้อำนาจคนไปทำงาน (Empowering)และเป็นคนที่มีความสุขในการทำงาน (Happiness) และพฤติกรรมที่ควรละเลิก ก็คือ การตำหนิติเตียน การโมโห ไม่ฟังผู้อื่น เราคุยเรื่องคนน้อย ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่ เราต้องพัฒนาคนให้เป็นนักนวัตกรรม คิดนอกกรอบ ทำสิ่งใหม่ๆ ส่งเสริมให้คนเปิดใจมากขึ้น จะได้ข้อมูลความจริงต้องทำให้กล้ามากขึ้น อาจใช้เทคนิค หมวก 6 ใบ หรือการประเมิน 360 องศา มาช่วย หากเขาไม่ไว้วางใจ ก็อาจรับฟังป้อนกลับ (feedback) โดยไม่ต้องใส่ชื่อผิดถูกเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราต้องปรับตัว หรือมีใครที่เข้าใจเราผิด จะได้ชี้แจงให้กระจ่าง นายควรทำตัวเป็นแบบอย่าง (Role Model) และควรมีการสะท้อนความรู้สึก (reflection) เราอาจเห็นตัวเองไม่หมด อาจต้องอาศัยคนที่เห็นเราตลอด อยู่ใกล้กัน เป็นกระจกสะท้อน กล้าบอกเราได้ แต่ละวันเป็นอย่างไร อัดลูกน้องไหม อาจทำสะท้อนแบบกลุ่มก็ได้ การรับฟังจะทำให้ปัญหาลดระดับลง เพราะได้ระบายออกมา เรื่องความปลอดภัย เรามองแต่แนวกลางๆ ไม่มีการพัฒนาต่อยอดเป็นแผนดำเนินการ ที่ชัดเจน ลงลึกพอ มีสารสื่อออกมาเป็นระยะๆ เป็นประจำ เราอาจให้บุคคลมืออาชีพ มาทำการสำรวจพฤติกรรมคนในองค์กร ว่าเป็นไปตาม ฝันที่ผู้นำองค์กรวางไว้แค่ไหน
เป็นบทความที่สะท้อนความคิดอีกด้านหนึ่งที่คนเราไม่ค่อยรับรู้และไม่ค่อยยอมรับกับสิ่งที่เป็นจริง จะยอมรับในสิ่งที่ใส่หน้ากากเข้าหากันมากกว่า ในสังคมปัจจุบันคนพูดเรื่องจริงมักไม่ค่อยได้ดีเท่าคนที่หน้าไหว้หลังหลอก ทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองเป็นหลัก ผู้บริหารบางคนก็ไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นของลูกน้อง คิดแต่ว่าตนเองเป็นนายทำอะไรก็ถูกต้องเสมอ พี่ก็อยากเห็นคนพันธุ์ใหม่ในอนาคตแบบที่น้องนำมาเสนอนะคะ ถ้าทำได้ประเทศไทยคงเจริญขึ้นกว่านี้
เห็นด้วยกับพี่มนมีน อยากให้คนเป็นคนพันธ์ใหม่ให้เยอะๆ คิด ลงมือทำ ยอมรับฟังความคิดเห็น (หลายด้านๆ) โดยเฉพาะผู้นำหรือผู้บริหารเพราะคุณจะได้ข้อมูลที่แท้จริง สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้
เห็นด้วยกับทั้งสองสาวเลยจ๊ะ
เป็นบทความที่ดีมาก เลย อยากเป็นคนพันธุ์ใหม่จัง
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ