ภูมิปัญญาควบคุมพฤติกรรมควาย
ควายมีกำลังมากก็คึกคะนองมาก จึงมีการดื้องานบ่อยครั้งชาวบ้านจึงจำเป็นต้องตอน เพื่อควบคุมพฤติกรรมที่ดุดันนั้น การตอนควายหายไปพร้อมกับที่รถไถนาเดินตามเข้ามา เพราะชาวบ้านไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานควายจึงไม่ตอนควายกัน การตอนควายต้องตอนเดือน ๑๒ เท่านั้นเพราะเหตุใดไม่ทราบ จะตอนควายที่มีอายุประมาณ ๔-๕ ปี โดยเอาควายไปมัดกับหลักไว้ให้แน่น แล้วมัดเท้าควายติดกันเป็นคู่คือ คู่หน้าและคู่หลัง แล้วล้มควายลง เอาไม้ไผ่ขนาดครึ่งเมตร ๒ ท่อนมัดปลายติดกันด้านเดียว อีกด้านหนึ่งปล่อยไว้ก่อน แล้วเอาไปประกบกันตรงขั้วลูกอัณฑะควายแล้วมัดปลายที่เหลือ จากนั้นใช้ไม้เนื้อแข็งทุบที่ลูกอัณฑะควายจนแหลกแล้วใช้มือขยี้อีก ( สุเวช ขุ่ยขะ, สัมภาษณ์, ๒๕๔๙ )
เสร็จแล้วก็เอาไข่ไก่ดิบต่อยใส่ถ้วยตีให้เข้ากัน เอามาทาที่ลูกอัณฑะควายที่ทุบแล้วแก้มัดปล่อยให้ไปหากิน ซึ่งไข่ที่ทานั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นไข่ไก่เท่านั้น สามารถใช้ไข่เป็ดได้ แต่ต้องใช้ไข่ดิบเท่านั้น บางหมู่บ้านใช้ต้นคาม ( ต้นห้อม) เพื่อเป็นยาสมานและแก้อาการบวมเป็นหนอง เมื่อตอนแล้วต้องเว้นระยะไปเป็นปีกว่าที่จะใช้งานได้ เพราะควายจะยังเจ็บอยู่ และพละกำลังของควายลดลงด้วย ดังนั้นการตอนควายจึงเป็นการควบคุมพฤติกรรมที่ดุดันของควายจะทำให้เชื่องและทำงานได้แต่เพียงแต่พละกำลังลดลงกว่าเดิมเท่านั้นเอง
ตามมาอ่าน... ได้ความรู้ดี
ขอบคุณครับท่านอาจารย์ ผมมีความรู้น้อยนิดขออาจารย์ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ
ภูมิปัญญาของคนไทยนี่น่าทึ่ง แต่สำหรับหนูคงไม่กล้าทำกับความหรอกค่ะ
มันน่ากลัวมากมาย แต่น่าเสียดายนะคะที่ควายไทยกำลังจะหายไป
เพราะแถว ๆ บ้านหนู เจอแต่ความกินน้ำมัน สำหรับควายเป็น ๆ ก็หนูนี่ไงค่ะ
และสักวันควายตัวนี้จะเป็นคนให้ได้
พยายามเข้านะครับ(ล้อเล่น)
เราก็ได้ชื่อว่า "คน" ที่ใช้ "ค.ควาย" เขียนคำว่า "คน" ทุกคนนั่นแหละครับ
เเธงค์ กิ้ว