กำแพงเมืองจีน สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง

      

       กำแพงเมืองจีน (Great Wall of Chaina) หรือกำแพงหมื่นลี้ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง ที่สร้างสรรค์ด้วยฝีมือของชาวจีน ในสมัยพระเจ้าชิวังตี่หรือจิ๋นซีฮ่องเต้ แห่งราชวงศ์ชิง และทำต่อเติมในราชวงศ์หมิง มีความยาวทั้งสิ้น 6,350 กิโลเมตร สูง 7 เมตรและกว้าง 5 เมตรและทุกๆ500 หลาจะมีป้อมสำหรับตรวจการณ์ กำแพงนี้สร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันข้าศึกศัตรูที่จะเข้ามารุกรานจีนทางตอนเหนือของประเทศให้รอดพ้นจากพวกมองโกลและพวกเติอร์ก

       ในบรรดากำแพงต่างๆที่มีในโลก กำแพงเมืองจีนเป็นกำแพงที่ยาวและใหญ่ที่สุด ที่สร้างด้วยแรงงานคนนับล้าน ใช้เวลานานนับ 10 ปี และแรงงานเหล่านี้ล้มตายจากการก่อสร้างนับหมื่นคน ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่คือสถาปัตยกรรมที่เป็นฝีมือของมนุษย์ที่ใหญ่โตมโหฬารยิ่ง และยังเชื่อกันว่าเป็นสิ่งก่อสร้างเพียงอย่างเดียวที่มีอยู่ในโลกที่สามารถมองเห็นได้จากดวงจันทร์ (ชาวสหรัฐอเมริกาคงเห็นตอนไปเหยียบดวงจันทร์หรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ เพราะมนุษย์คนอื่นยังไม่เคยไปดวงจันทร์เลย) เมื่อผุ้เขียนไปเห็นด้วยตาของตนเอง จึงต้องพูดว่า "เล็กๆจีนไม่  ใหญ่ๆ จีนทำ" เพราะนอกจากกำแพงเมืองจีนแล้ว สถาปัตยกรรมอื่นๆของจีนล้วนใหญ่โตมโหฬารทั้งสิ้น เช่น พระราชวังกู้กง จัตตุรัสเทียนอันเหมิน หอฟ้าเทียนถาน เป็นต้น

       กำแพงเมืองจีนเมื่อก่อสร้างมานานย่อมผุพังไปตามกาลเวลา โดยเฉพาะในชนบทห่างไกล ขาดการดูแลรักษาจากชาวบ้าน ในปัจจุบันรัฐบาลจีนได้บูรณะซ่อมแซมทำให้กำแพงเมืองจีนยังคงความสวยงาม สง่า น่าทึ่ง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญให้ทุกคนที่เดินทางไปปักกิ่งได้แวะไปเยี่ยมเยือนเสมอ ในการเดินทางครั้งนี้ผู้เขียนขึ้นกำแพงเมืองจีนโดยนั่งกระเช้าไฟฟ้า ฉะนั้นจึงไม่ยากเย็นที่จะเดินขึ้นกำแพงเมืองจีน และยืนบนกำแพงอันมหัศจรรย์นี้ได้อย่างสบาย สำหรับคนที่แข็งแรงก็ใช้เท้าเดินขึ้นไปแทนการนั่งกระเช้าไฟฟ้า เมื่อยืนอยู่บนกำแพงทอดสายตาดูกำแพงเมืองจีนแล้ว เหมือนมังกรเลื้อยไปตามภูเขาที่คดเคี้ยวดูแล้วอดชื่นชมมนุษย์ไม่ได้จริงๆ เรามาถึงสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลกสมัยกลางแล้วจริงๆ

       กำแพงเมืองจีนสร้างขึ้นเพื่อป้องกันศัตรูทางบก จีนไม่กลัวศัตรูทางน้ำเลย แต่ถึงอย่างไรก็ดีจีนก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของมองโกล ชนกลุ่มนี้ชาวจีนเรียกว่า ฮวนหรือพวกป่าเถื่อน การตกอยู่ภายใต้อำนาจพวกมองโกลเพราะจีนมีความขัดแย้งกันเอง ทำให้ศัตรูรุกรานได้ ส่วนทางน้ำจีนก็ถูกศัตรูรุกรานในสมัยจักรวรรดินิยม เหมือนกับชาติอื่นๆที่ถูกชาติตะวันตกรุกรานไปทั่วโลกในสมัยใหม่ในประวัติศาสตร์สากล ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน การปอ้งกันข้าศึกศัตรูสิ่งใดๆก็ขวางกั้นไม่ได้ นอกจากความรักใคร่สามัคคีของคนในชาตินั่นเอง

       การไปปักกิ่ง ผู้เขียนแนะนำให้ไปในเดือนเมษายน เพราะอากาศจะไม่หนาวจัด ประมาณ 12-18 องศาสเซลเซียส เดินเที่ยวอย่างไรก็ไม่เหน็ดเหนื่อย ดอกไม้ก็ผลิดอกบานเต็มต้น ทำให้เรามีความสุขมากทีเดียว และเมื่อเที่ยวปักกิ่งแล้ว สิ่งที่ทุกคนไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาดก็คือการไปเยือนกำแพงเมืองจีน จึงจะเรียกว่าเที่ยวปักกิ่งแล้วถึงปักกิ่ง