ตดกับความดัน(ทุรังสูง)โลหิตสูง


แค่ตด...อันตรายยังไง

 

ไผๆที่มีประสบการณ์ผ่าตัดช่องท้องมาแล้ว.....ย่อมสิฮู้ดีว่า...คุณหมอจะให้เพิ่นสิให่จิบน้ำ และอาหารเหลวต้องสิพ้อคำถามนี้.......ตดหือยัง?...............

วิจัยมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปส์กินของอเมริกา เพิ่งพบความสำคัญของก๊าซไข่เน่า ซึ่งมีอยู่ในลมที่ระบายออกจากส่วนล่างของร่างกายคนเราอยู่เล็กน้อย มีความสำคัญ ในฐานะเป็นตัวควบคุมความดันโลหิตด้วย

ก๊าซนี้เกิดจากการสร้างของแบคทีเรีย ที่อาศัยอยู่ตามลำไส้ของเรา และดูเหมือนว่า ยังมาจากการสร้างของเอนไซม์ในหลอดเลือด เพื่อช่วยให้หลอดเลือดคลายตัวและความดันโลหิตลดต่ำลง

วารสารวิชาการ “วิทยาศาสตร์” ยังได้ รายงานว่า ความรู้ที่ได้จากการศึกษากับหนูทดลอง ครั้งนี้ ทำให้เกิดความหวังว่า จะได้หนทางใหม่ เอาไปใช้ในการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดของคนเราได้

ศาสตราจารย์อัมฤต อาลูวาเลีย ผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชวิทยาของอังกฤษ กล่าวแสดงความเห็นว่า “เรารู้ว่าก๊าซนี้มีมากก็ไม่ดี แต่มันดูเหมือนว่าร่างกายจะขาดมันในปริมาณเล็กน้อยไม่ได้เลย”.

 http://www.click2member.com/viewthread.php?

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sunmoon&month=03-2008&group=4

 

หมายเลขบันทึก: 228072เขียนเมื่อ 8 ธันวาคม 2008 09:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 13:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • เรื่อง "ตด" นี่ ดิฉันก็คิดว่า สำคัญมากเลยนะคะ
  • ตั้งแต่ที่กินอาหารแล้ว รู้สึกอืดบ่อยๆ นี่ ... เวลา "ตด" ออกไปแล้ว จะรู้สึกว่า "สบาย" ดีจริงๆ ด้วย
  • ความสำคัญ ของ "ตด" นี่ก็น่าจะมีอีกเยอะนะคะ

สวัสดีครับ

ถ้าหนุ่มๆ สาวๆ ต้องระมัดระวังสักหน่อย

ถ้าอายุมากหน่อย ก็ปล่อยตามสบาย ;)

Pถ้าอายุมากหน่อย ก็ปล่อยตามสบาย

คนแก่กระเทือนคับ

ตด
เป็นข่าวกันเกรียวกราวเลยทีเดียวเมื่อมีนายแพทย์ชาวฝรั่งเศสออกมาบอกว่าให้เราตดกันเถอะ เพราะการตดเป็นการขับของเสียออกจากร่างกาย จึงช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้
 
ผมฟังแล้วก็เห็นด้วยกับเขานะครับ เพราะผมถือว่าผมเองมาถูกทางแล้ว 555 แต่มันก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ตดของเราจะเป็นการไปเพิ่มอัตราเสี่ยงการเป็นมะเร็งระบบทางเดินหายใจของคนอื่นหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเราคงเป็นพวกมักง่ายเช่นเดียวกับพวกสูบบุหรี่ไม่รู้จักเกรงใจผู้อื่น
 
ผมเองก็ไม่ทราบชื่อหรือที่อยู่ที่พอจะติดต่อได้ของคุณเมืองไก่ท่านนั้น ไม่งั้นคงจะได้ถามแกให้รู้ชัดๆเสียที ว่าตดนี้ดีจริงหรือ?
Pหามาฝากค่ะ

 

ดื่มน้ำเย็นๆ หลังอาหาร ไม่ดีแน่ค่ะ
ดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของชาเพราะเชื่อกันว่า สามารถขจัดไขมันและแก้เลี่ยนดื่มลงไปแล้วย่อมชุ่มฉ่ำใจแน่นอน
ลองนึกภาพตามดูนะ !!

ซี่โครงเนื้อในท้องของคุณ (หรือไก่ทอด หรืออะไรก็ตาม)  ล้วนเป็นอาหารที่มันย่อง กระเพาะและลำไส้จะทำการย่อยพวกมันก็ต้องเปลืองแรงหน่อยตอนนี้เทน้ำเย็นๆลงไปอีกถ้วยหนึ่ง...

เคยเห็นน้ำมันหมูในตู้เย็นมั้ย !?

คุณจินตนาการว่ากลืนไขมันที่จับตัวเป็นก้อนสีขาวเหล่านั้นลงไปในกระเพาะออกมั้ย !?
เมื่อกระเพาะและลำไส้ของคุณ เต็มไปด้วยน้ำมันที่จับตัวเป็นก้อนราวน้ำตาเทียนไข ยังจะแก้เลี่ยนได้อีกมั้ย!
ถ้าหากแค่เพียงทำให้รู้สึกอยากจะอาเจียนเท่านั้นก็แล้วไปเถอะ  แต่ที่สำคัญก็คือ มันสามารถทำให้คุณเป็นมะเร็งลำไส้ได้ด้วย

ไขมันที่จับตัวเหล่านี้ เมื่อเจอกับกรดในกระเพาะอาหารจะอ่อนตัวกลายเป็นสภาพกึ่งของแข็งและของเหลวที่เหนียวข้น จากนั้นจะไหลเข้าสู่ลำไส้ก่อนอาหารที่มีสภาพเป็นของแข็งชนิดอื่น  ดังนั้นวัตถุที่มีสภาพเป็นน้ำก็ไม่ใช่ไขมันก็ไม่เชิงและเหนียวๆข้นๆนี้ก็จะถูกลำไส้ดูดซึมไปเป็นอันดับแรก 

แต่ว่า !!

ลำไส้ไม่อาจดูดซึมกำจัดวัตถุประหลาดนี้ได้ทั้งหมด  แล้วต่อมา ผนังลำไส้จะเต็มไปด้วยคราบไขมันเหล่านี้ก็เหมือนกับการล้างหม้อใส่น้ำแกงเนื้อในหน้าหนาว คือไม่ว่าจะล้างยังไง ก็ยังรู้สึกมันๆลื่น

และเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าวัตถุที่ชวนอาเจียนนี้ก็จะฝังเข้าไปในผนังลำไส้  เมื่อสะสมไว้นานๆ ก็อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่นำมาซึ่งโรคมะเร็งลำไส้ในที่สุด !!  ดังนั้น  รีบเปลี่ยนพฤติกรรมความเคยชินที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตนี้โดยเร็วเถอะ !!  รับประทานอาหารเสร็จแล้ว อย่ารีบกรอกน้ำเย็นลงไปทางที่ดีคือควรดื่มน้ำแกงร้อนๆ หรือน้ำอุ่นๆก็โอเคแล้ว 
 
ขอบอกเรื่องชวนอาเจียนอีกอย่างหนึ่ง
  ถ้าเป็นมะเร็งลำไส้แล้ว จะต้องต่อท่อเข้าไปกระเพาะ ถึงจะอุจจาระได้นะ  คุณคงไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้ใช่มั้ย  รีบบอกต่อคนที่คุณรักและห่วงใย อย่าให้พวกเขาต้องต่อสายท่อเลย !!
  ขอบคุณบทความจากเลดี้ทริปดอทคอม

http://www.googig.com/story.php?action=view&id=17800

งัยยะ
เอามาฝากวัยรุ่นค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท