ลูกประคบ สมุนไพร


ลูกประคบ

  ลูกประคบสมุนไพร

ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำสมุนไพรหลาย   ชนิดมาผ่านกระบวนการทำความสะอาดแล้วนำมาหั่นหรือสับให้เป็นชิ้นตามขนาด
ที่ต้องการตำพอแตก ใช้สดหรือทำให้แห้ง นำมาห่อหรือบรรจุรวมกันในผ้าให้ได้รูปทรงต่าง ๆ เช่นทรงกลมหมอนสำหรับใช้นาบหรือกดประคบส่วนต่างๆของร่างกายเพื่อทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ถ้าเป็นลูกประคบสมุนไพรแห้งก่อนใช้ต้องนำมาพรมน้ำแล้วทำให้ร้อนโดยนึ่ง

 ลักษณะทั่วไปของลูกประคบสมุนไพร
      ลูกประคบสมุนไพรต้องห่อผ้าปิดสนิรูปทรงต่างๆภายในบรรจุสมุนไพรสดหรือแห้งหลายชนิดรวมกันกรณีทำเป็นรูปทรงกลมปลายผ้าต้องรวมแล้วมัดให้แน่นทำเป็นด้ามจับต้องมีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยของสมุนไพรที่ใช้

อุปกรณ์การทำลูกประคบสมุนไพร
      1. ผ้าสำหรับห่อลูกประคบ ต้องเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าดิบที่มีเนื้อผ้าแน่นพอที่จะป้องกันไม่ให้สมุนไพรร่วงออกมาได้
      2. สมุนไพรที่ใช้ทำลูกประคบต้องหั่นหรือสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ สด/แห้ง ต้องไม่มีราปรากฏให้เห็นเด่นชัด และต้องมีพืชสมุนไพรหลักที่มีน้ำมันหอมระเหยอย่างน้อย 3 ชนิด เช่น ไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ และผิวหรือใบมะกรูด/กลุ่มสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ เช่น ใบมะขาม ใบส้มป่อย และกลุ่มสารที่มีกลิ่นหอม จะระเหยออกมาเมื่อถูกความร้อน เช่น การบูร พิมเสน และเกลือ ช่วยดูดความร้อน
      3. หม้อสำหรับนึ่งลูกประคบและจานรองลูกประคบ
      4. เชือกสำหรับมัดผ้าห่อลูกประคบ

ตัวยาที่นิยมใช้ทำลูกประคบ
 - ไพล (500 กรัม) แก้ปวดเมื่อย เคล็ด ขัดยอก ลดการอักเสบ
     - ขมิ้นชัน (100 กรัม) ช่วยลดอาการอักเสบ แก้โรคผิวหนัง
     - ตะไคร้บ้าน (100 กรัม) แต่งกลิ่น
     - ผิวมะกรูด (200 กรัม) ถ้าไม่มีใช้ใบแทนได้ มีน้ำมันหอมระเหยแก้ลมวิงเวียน
     - ใบมะขาม (300 กรัม) แก้อาการคันตามร่างกายช่วยบำรุงผิว
     - ใบส้มป่อย (100 กรัม) ช่วยบำรุงผิว แก้โรคผิวหนังลดความดัน
     - เกลือ (1 ช้อนโต๊ะ) ช่วยดูดความร้อนและช่วยพาตัวยาซึมผ่านผิวหนังได้สะดวกขึ้น
- การบูร (2 ช้อนโต๊ะ) แต่งกลิ่น บำรุงหัวใจ

วิธีทำลูกประคบ
      1. นำหัวไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ มะกรูด ล้างทำความสะอาด นำมาหั่นหรือสับให้เป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการตำพอหยาบๆ
      2. นำใบมะขาม ใบส้มป่อย ผสมกับสมุนไพรในข้อ 1 เสร็จแล้วใส่เกลือ การบูร คลุกเคล้าให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันแต่อย่าให้แฉะเป็นน้ำ
      3. แบ่งสมุนไพรที่คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วเป็นส่วนเท่า ๆ กัน โดยใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าดิบห่อเป็นลูกประคบมัดด้วยเชือกให้แน่น
      4.นำลูกประคบที่ได้ไปนึ่งใช้เวลานึ่งประมาณ15-20นาที
วิธีการใช้ลูกประคบสมุนไพร
      - นำลูกประคบที่ได้ไปนึ่งประมาร 15-20 นาที เมื่อลูกประคบร้อนได้ที่แล้ว ก่อนนำมาใช้ประคบควรมีการทดสอบความร้อนโดยแตะที่ท้องแขนหรือหลังมือก่อน และในช่วงแรกที่ลูกประคบยังร้อนอยู่ ต้องประคบด้วยความเร็ว ไม่วางลูกประคบไว้บนผิวหนังนาน ๆ เพียงแตะลูกประคบแล้วยกขึ้น แต่เมื่อลูกประคบคลายความร้อนลงสามารถวางลูกประคบได้นานขึ้นพร้อมกับกดคลึงจนกว่าลูกประคบคลายความร้อนแล้วจึงเปลี่ยนลูกประคบไปใช้ลูกใหม่แทน(ใช้แล้วนำไปนึ่งแทน)
ข้อควรระวังในการประคบสมุนไพร
      -ไม่ควรใช้ลูกประคบที่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะบริเวณผิวหนังที่เคยเป็นแผลมาก่อนหรือบริเวณที่มีกระดูดยื่น และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในผู้ป่วยโรคเบาหวาน อัมพาต ในเด็กและผู้สูงอายุ เพราะมักมีความรู้สึกในการรับรู้และตอบสนองช้า อาจทำให้ผิวหนังไหม้พองได้ง่าย
      -ไม่ควรใช้การประคบสมุนไพรในกรณีที่มีอาการอักเสบ บวม แดง ร้อน ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพราะจะทำให้อักเสบบวมมากขึ้นและอาจมีเลือดออกมากตามมาได้
      -หลังจากประคบสมุนไพรเสร็จใหม่ๆ ไม่ควรอาบน้ำทันที เพราะจะไปล้างตัวยาจากผิวหนัง และร่างกายยังไม่สามารถปรับตัวได้ทัน(ร้อนเป็นเย็นทันทีทันใด) อาจทำให้เกิดเป็นไข้ได้

 


คำสำคัญ (Tags): #ลูกประคบ
หมายเลขบันทึก: 227230เขียนเมื่อ 4 ธันวาคม 2008 10:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 21:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เป็นบทความที่ดีบทความหนึ่ง เนื่องจากเป็นบทความเกี่ยวกับสุขภาพ การนำสมุนไพรที่มีอยู่ทั่วไปมารักษาโรคต่าง ๆ โดยใช้วิธีการประคบมาประยุกต์ใช้

สิ่งที่ทำให้สนใจบทความนี้ก็คือ การใช้ลูกประคบ เพราะเห็นว่า การใช้ลูกประคบเป็นภูมิปัญญาไทยของท้องถิ่นดั้งเดิมที่คนรุ่นเก่าได้อนุรักษ์กันมา ถ้ามันจะสูญหายไปก็ไม่ใช่เพราะไม่มีคนถ่ายทอดต่อ ไม่มีคนรักษาการทำลูกประคบไว้

พี่เด่นจ๊ะ........ไปนวดลูกประคบกันไหม ....รู้ไหมใบอะไรรักษาโรคหวัด น้องปุ้ยจ๊ะ

ลูกประคบสามารถ ช่วยบรรเทา อาการฟกชำ ดำเขียว ได้เเละสามารถช่วยอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ ดีคะ ถ้าใครว่างก็อย่าลืมไปนวดก็แล้วกันนะคะ ลูกท้อ แต่ไม่ท้อสมชื่อนะคะ

ลูกประคบดีนะคะ เป็นยาสมุนไพร ช่วยบรรเทาอาการฟกชำ และบรรเทาปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ดีนะคะเป็นการผ่อนคลาย ทำให้จิตใจแจ่มใสตลอดคะ อย่าลืมนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท