วิเคราะห์เปรียบเทียบ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544
กับ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยนายยืนยง ราชวงษ์
หลักสูตร 2544 |
หลักสูตร 2551 |
|
หมายเหตุ -ถ้านักเรียนบกพร่องเล็กน้อยให้สอนซ่อมเสริม -ถ้านักเรียนไม่ผ่านรายวิชาเป็นจำนวนมากมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาสถานศึกษา อาจตั้งคณะกรรมการ พิจารณา ให้เรียนซ้ำชั้นได้ 1.2 การให้ระดับผลการเรียน -ระดับประถมศึกษา - การตัดสินผลการเรียนรายวิชา สถานศึกษา สามารถให้ระดับคุณภาพผู้เรียน เป็นตัวเลข ตัวอักษร ร้อยละ หรือระบบที่ใช้คำสำคัญ สะท้อนมาตรฐาน - การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ให้ระดับผลการประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี ผ่าน และไม่ผ่าน - กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนต้องพิจารณาการเข้าร่วมกิจกรรม ตามที่สถานศึกษากำหนด ผลการเข้าร่วมกิจกรรม ตัดสินเป็น ผ่าน และ ไม่ผ่าน -ระดับมัธยมศึกษา - การตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา โดยใช้ตัวเลขแสดงระดับผลการเรียน เป็น 8 ระดับ - ประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน รวมทั้งคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นั้น ให้ระดับผลเป็นดีเยี่ยม ดี ผ่านและไม่ผ่าน - กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนพิจารณาเข้าร่วมกิจกรรมตามที่สถานศึกษากำหนด ผลการเข้าร่วมกิจกรรมตัดสินเป็น ผ่าน และ ไม่ผ่าน 1.3 การรายงานผลการเรียน - รายงานผลการเรียนให้ผู้ปกครองทราบทุกระยะอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง 2. เกณฑ์การจบการศึกษา แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ |
หลักสูตร 2544 |
หลักสูตร 2551 |
21. เอกสารหลักฐานการศึกษา 1. เอกสารแบบ ปพ. 1 - 3 สถานศึกษาใช้รูปแบบตามที่กระทรวงกำหนด 2. เอกสารแบบ ปพ. อื่น ๆ สถานศึกษาเป็นผู้พิจารณาตามที่เห็นสมควร
|
2.1 เกณฑ์การจบระดับประถมศึกษา - เรียนรายวิชาพื้นฐาน/เพิ่มเติม/กิจกรรม มีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน การอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด 2.2 เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น - รายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติมไม่เกิน 81หน่วยกิต เป็นรายวิชาพื้นฐาน 63 หน่วยกิต รายวิชาเพิ่มเติมสถานศึกษากำหนด - ผู้เรียนได้หน่วยกิต ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต รายวิชาพื้นฐาน 63 หน่วยกิต รายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 14 หน่วยกิต - การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด 2.3 เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย - รายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 81หน่วยกิต เป็นรายวิชาพื้นฐาน 39 หน่วยกิต รายวิชาเพิ่มเติมสถานศึกษากำหนด - ผู้เรียนได้หน่วยกิต ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต รายวิชาพื้นฐาน 39 หน่วยกิต รายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 38 หน่วยกิต - การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด 21. เอกสารหลักฐานการศึกษา แบ่งเป็น 2 ประเภท 1. เอกสารที่กระทรวงกำหนด 1.1 ระเบียนแสดงผลการเรียน 1.2 ประกาศนียบัตร ให้ผู้จบการ ม.3 และ ม.6 1.3 แบบรายงานผู้สำเร็จผลการศึกษาเป็นเอกสาร |
หลักสูตร 2544 |
หลักสูตร 2551 |
22. การเทียบโอนผลการเรียน -มีข้อพิจารณา อยู่ 3 ข้อ และทั้งนี้ให้เป็นไปตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด
23. การพัฒนาศักยภาพครู - ได้กล่าวถึงการพัฒนาครู โดยสถานศึกษาเป็นผู้พิจารณาพัฒนาครูสู่มืออาชีพ 24. การจัดหลักสูตรสถานศึกษา -ได้กล่าวถึงการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษามีขั้นตอน/ส่วนประกอบอะไรบ้าง
|
อนุมัติการจบ มี ป.6, ม.3, ม.6 2. เอกสารที่สถานศึกษากำหนด - เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นตามความเหมาะสม 22. การเทียบโอนผลการเรียน -มีข้อพิจารณาอยู่ 3 ข้อ เช่นเดียวกัน แต่มีข้อเพิ่มเติมคือ ควรเทียบโอนช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรกหรือ ต้นภาคเรียนแรก และการเทียบโอนควรเทียบอย่างน้อย 1 ภาคเรียน ทั้งนี้ให้เป็นไปตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด 23. การพัฒนาศักยภาพครู - ไม่ได้กล่าวถึง
24. การบริหารจัดหลักสูตร แบ่งเป็น 2 ระดับ 1. ระดับท้องถิ่น หมายถึง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานต้นสังกัดอื่น ๆ มีหน้าที่ - ขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา - เป็นตัวกลางเชื่อมโยงหลักสูตรแกนกลางสู่หลักสูตรสถานศึกษา - ส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรในระดับสถานศึกษา -กำหนดเป้าหมายและจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพ -พัฒนาสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - ประเมินคุณภาพการศึกษา - วิจัย และพัฒนา - พัฒนาบุคลากร 2. สถานศึกษา มีหน้าที่ - จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง - วางแผนการใช้หลักสูตรเพื่อเพิ่มพูนคุณภาพ |
หลักสูตร 2544 |
หลักสูตร 2551 |
25.การกำกับ ติดตาม ประเมินและรายงาน - ได้เสนอแนะวิธีกำกับ ติดตามประเมินและรายงานการใช้ 26. การจัดการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ - ปรับได้ตามความเหมาะสม 27. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด -มีการกำหนดมาตรฐานสำหรับแต่ละสาระ แต่ไม่มีว่าแต่ละทุกกลุ่มสาระ ทำไมต้องเรียน/เรียนรู้อะไร คุณภาพผู้เรียน/ รายละเอียดตัวชี้วัด 8กลุ่มสาระ |
- วิจัยและพัฒนาหลักสูตร -ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร - จัดทำระเบียบการวัดและประเมินผล - สถานศึกษาสามารถเพิ่มเติม ในส่วนที่เกี่ยวกับปัญหาชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่นความต้องการของผู้เรียน - ให้ทุกภาคส่วนมามีส่วนร่วมในการพัฒนา 25. การกำกับ ติดตาม ประเมินและรายงาน - ไม่ได้กล่าวถึง 26. การจัดการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ - ปรับได้ตามความเหมาะสม 27. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด -โดยกำหนดไว้ทุกกลุ่มสาระ ว่าทำไมต้องเรียน/เรียนรู้อะไร คุณภาพผู้เรียน/ รายละเอียดตัวชี้วัด 8กลุ่มสาระ |
โดยสรุปแล้วจุดเด่นของหลักสูตรทั้ง 2 ฉบับ ก็คือการยึดมาตรฐานการเรียนรู้ ที่เป็นข้อกำหนดคุณภาพการเรียนรู้ผู้เรียนขั้นต่ำของผู้เรียนทุกคนในประเทศไทย จะต้องพัฒนาไปให้ถึง โดยมีครูเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อน ผู้บริหารโรงเรียนให้การช่วยเหลือ สนับสนุน ส่งเสริม มีศึกษานิเทศก์เป็นเพื่อนคู่คิด ที่คอยคำแนะนำ ชี้แนะ ให้กำลังใจ และหน่วยงานต้นสังกัดทำหน้าที่ กำกับ ติดตามและตรวจสอบอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึ
ขอบพระคุณครับที่ท่านศึกษานิเทศน์ได้นำแนวการจัดการหลักสูตรทั้ง 2หลักสูตรมาเปรียบเทียบให้เห็นความเหมือนและความแตกต่าง
กระผมมีข้อเรียนหารือครับ ตามที่การศึกษาของประเทศไทยพัฒนามาเป็นเวลาหลายสิบปี มีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรมากพอสมควร ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับกับการปรับเปลี่ยนและผลผลิตที่จบการศึกษาออกมาตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบัน รวมถึงอนาคตซึ่งกระผมคิดว่าการจัดการศึกษาคงจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วเช่นกันหรือเปล่าครับ แล้วหลักสูตรที่เหมาะสมควรจะเป็นเช่นไรครับ เราควรเตรียมการรองรับการพัฒนาดังกล่าวหรือเปล่าครับ ขอบพระคุณครับ
เรียนว่าที่ ร.ต.วุฒิชัย สังข์พงษ์
เห็นด้วยกับแนวคิดของท่านว่าการศึกษาประเทศไทยพัฒนามาหลายสิบปี และมีการปรับหลักสูตรมาต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถแข่งขั้นกับนานาชาติได้
เรียนว่าร้อยตรีวุฒิชัย สังข์พงษ์
ประเทศไทยมีการปรับหลักสูตรมาตลอด จาก ๒๕๐๓ มาเป็น ๒๕๒๑ , ๒๕๒๔ ,๒๕๓๓ ,๒๕๔๐ และปัจจุบัน ๒๕๕๑ โดยพยายามที่ปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีที่สุดในแต่ละยุค ปัญหาก็คือ ประเทศไทยพยายามลอกแนวคิดของต่างประเทศมาเป็นหลัก เนื่องจากนักการศึกษาเมืองไทยยังไม่สามารถที่จะพัฒนานวัตกรรมที่เหมาะสมกับประเทศไทยได้ก็พยายามใช้ของเขา เมื่อใช้ของเขาก็มีข้อจำกัดหลายประการ เช่น ผู้ใช้หลักสูตร(สถานศึกษา) ตามไม่ทัน เมื่อตามไม่ทัน นักวิชาการก็มากล่าวโทษสถานศึกษาว่าล้มเหลวในการใช้หลักสูตร จริง ๆ แล้วไม่ล้มเหลวหลอกถ้าคนเรามีความรู้ ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ กลัวรู้ไม่ถ่องแท้ รู้แต่ผิวเผิน รู้ไม่จริง
หลักสูตรทุกฉบับมีจุดดีทั้งหมดและทันต่อเหตุการณ์ในแต่ละยุค ซึ่งปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หลักสูตรไม่ทันต่อเทคโนโลยี จึงต้องปรับให้ทัน (ตามหลัง) ดังนั้น เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของหลักสูตร คือ ผลผลิตของหลักสูตร ก็คือ คุณภาพของคน ถ้าคนมีคุณภาพ คือ ดี มีคุณธรรม มีความสุข และสามารถแข่งขันกับนานาชาติได้ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องมาร่วมมือกันช่วยให้หลักสูตรไปสู่ความสำเร็จ ไม่ใช่อยู่ที่สถานศึกษาอย่างเดียว ต้องรวมทั้งครอบครัว ชุมชน สังคม ทุกส่วนต้องร่วมกัน ครับ
ยืนยง ราชวงษ์
จะพยายามพาหลักสูตรไปให้ถึงดวงดาวด้วยความเต็มใจค่ะ