อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลของประเทศไทย สามารถทำรายได้เข้าประเทศปีละหลายหมื่นล้านบาท ตามสถิติการส่งออกผลิตภัณฑ์กุ้ง (กุ้งแช่แข็ง, กุ้งแช่เย็น และกุ้งแปรรูป) ในปี พ.ศ.2547, 2548 และ 2549 ประเทศไทยส่งออกกุ้งทะเลเป็นมูลค่ารวม 1,672 1,777 และ 2,288 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (UN Comtrade Database, 2007) ตามลำดับ โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี แต่ในระยะหลังมานี้ ประสบปัญหามีคู่แข่งหรือประเทศที่สามารถผลิตกุ้งทะเลส่งออกไปยังประเทศผู้บริโภคกุ้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับประเทศผู้นำเข้าได้กำหนดหลักเกณฑ์ของสินค้ากุ้งที่จะนำเข้าบริโภคภายในประเทศมากมายหลายประการ เช่น ข้อกำหนดในเรื่องสารตกค้างในสินค้าสัตว์น้ำ ออกมาตรการให้ผู้ผลิตมีการเพาะเลี้ยงกุ้งอย่างมีความรับผิดชอบทางด้านสิ่งแวดล้อม เรื่องของการใช้แรงงานในการประกอบกิจการ ตั้งแง่ทางด้านสิทธิมนุษยชน เป็นต้น ซึ่งข้อกำหนดเล่านี้เป็นภาระและบางอย่างยังเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการเกี่ยวกับการผลิตสินค้ากุ้งในทุกขั้นตอน
การเพาะพันธุ์ลูกกุ้ง ก็เป็นขั้นตอนหนึ่งของวงจรการผลิตกุ้งทะเล และในการเลี้ยงกุ้งทะเลให้ประสบความสำเร็จนั้น จะต้องอาศัยลูกพันธุ์กุ้งที่มีคุณภาพดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องไม่มีการตกค้างของยาปฏิชีวนะต้องห้าม เช่น คลอแรมฟีนิคอล ยากลุ่มไนโตรฟูแรนส์ เป็นต้น โดยที่การใช้ยาเหล่านี้ในขั้นตอนของการเพาะพันธุ์ลูกกุ้งนั้น อาจจะมีการตกค้างของยาสะสมในเนื้อกุ้งจนสามารถตรวจพบแม้ว่าระยะเวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน ดังนั้นการเพาะพันธุ์กุ้งทะเลให้เป็นไปตามแนวทาง ซี.โอ.ซี. เพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างมีความรับผิดชอบ (Code of Conduct for Responsible Aquaculture; CoC) ที่มุ่งเน้นการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความเอื้ออาทรต่อสังคม คำนึงถึงการดำรงชีวิตที่ดีของสัตว์เลี้ยง สามารถผลิตสินค้ากุ้งที่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และเป็นแนวทางที่มุ่งสู่การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลอย่างยั่งยืนสืบไป
เอกสารประกอบ
ไฟล์นำเสนอ
ไม่มีความเห็น