วันที่ห้าในอียิปต์ 25 ต.ค. 51

อียิปต์เมืองแห่งปิรามิด

วันที่ห้าในอียิปต์ 25 ต.ค. 51
(อนุสาวรีย์แห่งเมนนอน(Colosi of Memon),
วิหารเดลบาฮารี (Deir el Bahar),หุบผากษัตริย์ (Valley of the King),วิหารคาร์นัค(The Temple of Karnak),ชอปปิ้งที่ตลาดลักเซอร์  )

วิหารเดลบาฮารี

วันนี้ตื่นแต่เช้าไปถ่ายรูปบริเวณโรงแรม มีบอลลูนให้เห็นด้วยเป็นการขึ้นบอลลูนชมวิว ทานอาหารเสร็จได้เวลาเดินทางไปชมหุบผากษัตริย์ก่อนถึงหุบผากษัตริย์แวะถ่ายรูปที่อนุสาวรีย์แห่งเมนนอน(Colosi of Memon)และไปต่อที่วิหารเดลบาฮารี (Deir el Bahar) ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่ประดิษฐ์านพระศพฟาโรห์หญิงฮัปเซปซุท  หรือราชินีหนวดซึ่งเป็นสถานที่กว้างมากต้องนั่งรถที่เขาจัดไว้ให้และวันนี้อากาศร้อนแดดจัดแต่ก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปและหนีไกด์ถ่ายรูปเหมือนเดิมวันนี้หิวน้ำมากลืมน้ำบนรถต้องซื้อเลยขอเป็นโค้กอิยิปต์  20 ปอนด์อิยิปต์แก้ร้อนได้พอสมควร และได้แวะที่ร้านขายของที่ระลึกได้ละลายเงินอีกรอบได้กุญแจแห่งชีวิต(อันเล็กทำจากหิน) มา 1คู่ และรูปปั้นที่ทำจากอาลาบาสเตอร์(เล็กๆๆแซวกันว่าปูนปลาสเตอร์หรือเปล่า)

หุบผากษัตริย์ (สุสานฟาโรห์)

ช้อปปิ้งเสร็จแล้วเดินไปต่อที่หุบผากษัตริย์ (Valley of the King) กว้างมากๆๆ ภูเขาเป็นหลายลูก ต้องนั่งรถไฟฟ้าเข้าชมเหมือนกัน เขาให้เข้าชมที่ฝังศพของฟาโรห์ 3 หลุม   ถ้าใครต้องการเข้าชมสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมนต้องเสียค่าเช้าชมต่างหาก แต่เราก็ขอชมแค่ 3 หลุมพอ หลุมแรกพวกเราเข้าชมกันทุกคนเพราะไม่ ลึกมาก แต่หลุมที่ 2 ป้าๆ ลุงๆ ไม่เข้าชมเพราะดูแล้วคงไม่ไหวจริง เพราะเราเด็ก(หรือเปล่า)ก็ลิ้นห้อยเหมือนกันเพราะกว่าจะถึงปากหลุมทางเข้าต้องปีนบันไดขึ้น 2 ชั้น ที่ชันพอสมควรแต่ไม่ได้นับว่ากี่ขั้น พอถึงปากหลุมต้องปีนบันไดลงอีก 3 ชั้น ในห้องที่ลึกสุดแทบจะไม่มีอากาศหายใจร้อนมาก ต้องรีบดูรีบขึ้นมาหายใจ เกือบไม่รอดพอปีนขึ้นและปีนลงมากว่าจะถึงต้องนั่งเอาแรงปีนลงไปที่ป้าๆ ลุงๆไปชมหลุมที่ 3  มีลมพัดพอสมควรทำให้อากาศไม่ร้อนมาก หลุมที่ 3 ก็เหมือนกับหลุมแรกพอชมเสร็จก็ออกมาถ่ายรูปด้านนอกเพราะด้านในไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ได้เวลาสมควรก็ไปทานอาหารเที่ยงวันนี้เป็นปลา 1 ตัว วันนี้ขอลองแบบเมดิเตอร์เรเนียน แต่ไม่เห็นเหมือนร้านแรกที่เรากินเลยหน้าตาดีกว่า ทานเสร็จเที่ยวต่อที่วิหารคาร์นัค(The Temple of Karnak)  เขาบอกว่าเป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก เสาแต่ละต้นพวกเรา 6 คนโอบไม่หมดเช่นเคยหนีไกด์ในบางครั้งถ่ายรูป เสร็จแล้วไป ช้อปปิ้งที่ร้านเครื่องประดับได้ซื้อของเช่นเคย ได้สร้อยเงินพร้อมด้วยจี้รูปพระนางเนเฟอร์ตารีและกุญแจแห่งชีวิตแต่นิดเดียวบอกเคยขายว่าขอ อันเล็กๆๆ(littleๆๆ) คนคนขายหัวเราะและเช่นเคยพวกเราหกคนได้เกือบเหมือนกันแต่มีบางคนแตกกลุ่มได้รูปปั้นพระนางเนเฟอร์ตารีอีกอันเสร็จแล้วไปช้อปปิ้งที่ตลาดลักเซอร์ได้อินทผลัมทั้งสดทั้งแห้งฝากเพื่อนตั้งหลายกิโลหิ้วแทบแขนหลุดได้เวลาอาหารเย็นนัดกันที่ร้านแม็ควันนี้ได้ทานเบอร์เกอร์ไก่และเฟรนไฟส์
รสชาดเหมือนที่เมืองไทยวันนี้อร่อยหน่อยกินหมดแถมลุงๆป้าๆบางท่านที่ไม่ทานเฟรนไฟส์ยังยกให้วันนี้เลยกินพุงกางเพราะของชอบ อิ่มกันแล้วถึงเวลาที่ต้องจากลักซอร์พวกเราเดินทางกลับไคโรด้วยเที่ยวบิน MS140 LUX CAI 2215 2315  กว่าจะถึงโรงแรมเช็คอินที่โรงแรมRamases Hilton โรงแรม 5  ดาว ก็ประมาณเที่ยงคืน อาบน้ำเสร็จจัดกระเป๋าเกือบตีหนึ่ง (ประมาณ 6 โมงเช้าเมืองไทย)ได้นอนแค่ 4 ช.ม. (ทำไมโรงแรมดีถึงได้มีเวลาน้อยๆก็ไม่รู้)