น้องออ(ทิสติก)


เห็นความรักและความห่วงใยของคุณแม่ท่านนี้แล้วจึงเสนอตัวขอช่วยเสริมเรื่องการบำบัด

เด็กชายอายุ 14 ปี เรียนในโรงเรียนที่มีห้องเรียนเด็กพิเศษ มีคุณครูที่ให้การเอาใจใส่เป็นอย่างดี ได้รู้จักน้องออ(ทิสติก)และคุณแม่ครั้งแรกเมื่อนานมาแล้ว จากการที่สถาบันไพดี(PAIDI INSTITUTE) ไปช่วยงานเข้าค่ายของน้องที่สวนรถไฟ เห็นน้องออ(ทิสติก)และคุณแม่คุยกัน กอดกันด้วยความรักเลยเข้าไปทำความรู้จัก เลยได้ทราบว่าคุณแม่มีลูกชายคนเดียว และเลี้ยงลูกลำพังคนเดียว เพราะคุณพ่อทิ้งไปด้วยสาเหตุรับสภาพไม่ได้(จากการบอกเล่าของคุณแม่) แม่มีอาชีพขายของตามตลาดนัด และพยามหาที่ขายใกล้ๆกับโรงเรียนของน้อง จะได้สะดวกต่อการรับ-ส่ง นับเป็นความรักอันยิ่งใหญ่ของคุณแม่ที่มีต่อลูก และเป็นภาระอันหนักอึ้งเช่นเดียวกัน จะทำอย่างไรให้เค้ามีโอกาสได้เรียนหนังสือ จะทำอย่างไรให้เค้าได้มีโอกาสเรียนรู้ชีวิต จะทำอย่างไรให้เค้าอยู่ได้ด้วยตัวเอง จะทำอย่างไรให้เค้ามีอนาคตที่ดี ฯลฯ ล้วนเป็นโจทย์ที่คุณแม่ต้องคิดตลอด และปีนี้คุณแม่ต้องหาที่เรียนให้น้องออ(ทิสติก)ใหม่เพราะอายุเกินแล้ว (โรงเรียนเดิมรับไม่เกินอายุ 14ปี)

   รับรู้ถึงความรักและความห่วงใยของคุณแม่ท่านนี้แล้วจึงเสนอตัวขอช่วยในการฝึกเพิ่มเติมจากที่ต่างๆที่น้องเค้ามีโอกาสได้รับบ้าง โดยให้น้องมารับการฝึกทักษะชีวิต ที่สถาบันไพดี้http://www.paidi-th.com/ ซึ่งจะจัดให้น้องออ(ทิสติก)อย่างต่อเนื่องและให้รอบด้านมากที่สุด โดยใช้ทีมสหวิชาชีพ ตามที่น้องเค้าควรได้รับ เพื่อเพิ่มศักยภาพของน้องเค้า เป็นการให้โดยไม่มีค่าใช่จ่าย หวังเพียงจะแบ่งเบาภาระของคุณแม่ท่านนี้ได้บ้าง

ปล.ณวันนี้น้องยังไม่ได้มารับการประเมินและรับโปรแกรมจากสถาบันไพดี้ เพราะช่วงนี้คุณแม่ไม่สบาย

หมายเลขบันทึก: 226109เขียนเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2008 19:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท