วันนี้นำสาระน่ารู้เกี่ยวกับการระดมความเห็น..... เรื่อง..กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง มาฝากคะ ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ คณะอนุกรรมการพัฒนากฎหมายว่าด้วยการค้าที่เป็นธรรมและการคุ้มครองผู้บริโภค ในคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายได้จัดให้มีการสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียหรือ ผู้อยู่ใต้บังคับกฎหมาย (Focus Group) ว่าด้วยการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง วิเคราะห์ถึงปัญหาและทิศทางการแก้ไขปัญหาการค้าปลีกค้าส่งของประเทศในปัจจุบันและอนาคต และนำข้อมูลทั้งหมดดังกล่าวไปใช้ประกอบการพิจารณาเสนอความเห็นแก่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายในการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง พ.ศ. .... ให้เหมาะสมต่อไป เมื่อวันอังคารที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ............................................................................................................................................................................................................................... ผู้เข้าร่วมการสัมมนาประกอบด้วย ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม (โชห่วย) นักวิชาการ บุคลากรจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ องค์กรพัฒนาเอกชน และประชาชนผู้บริโภค รวมประมาณ ๑๘๐ คน การประชุมสัมมนาแบ่งออกเป็นภาคเช้าและภาคบ่ายโดยในภาคบ่ายได้แบ่งการประชุมออกเป็น ๒ กลุ่มย่อย ................................................................................................................................................................................................ ผู้เข้าร่วมการสัมมนามีความเห็นไปในทิศทางที่ควรจะมีกฎหมายควบคุมการขยายตัวของห้างค้าปลีกค้าส่งในพื้นที่ และเงื่อนไขการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมการค้าที่เสรี เป็นธรรม ป้องกันการผูกขาด คุ้มครองผู้บริโภค ภายใต้ความเป็นธรรม ที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน สังคม วัฒนธรรมของประเทศ โดยใช้กฎหมายที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ พระราชบัญญัติว่าด้วยการแข่งขันทางการค้า พ.ศ.๒๕๔๒ พระราชบัญญัติราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.๒๕๔๒ พระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ.๒๕๔๐ และกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง มาพิจารณาก่อนด้วยวิธีบริหารจัดการหรือประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีระบบที่ดี และเห็นว่าร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง พ.ศ. .... ยังมีข้อบกพร่องที่ต้องปรับปรุงให้เหมาะสม เช่น อำนาจการตัดสินใจให้ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ตั้งในเขตเมืองหรือชุมชนควรเป็นสิทธิของชุมชนนั้น ๆ เนื่องจากศักยภาพในการตัดสินใจของนักการเมืองท้องถิ่นยังอ่อนแอและมีปัญหาเรื่องธรรมาภิบาล นอกจากนี้ ไม่ควรกำหนดให้ร่างพระราชบัญญัตินี้เป็นกฎหมายที่มีบทลงโทษในทางอาญา เป็นต้น รวมถึงทุกภาคส่วนในสังคมจะต้องมีส่วนช่วยในการผลักดันให้เกิดพัฒนาการด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทบาทและหน้าที่ของผู้บริโภคแต่ละคนที่จะต้องมีความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัญหาและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการขยายตัวของห้างค้าปลีกสมัยใหม่ด้วย ................................................................................................................................................................................................
ไม่มีความเห็น