ตำนานผีล้านนาตอนไฟผีสั่งตาย


มีเปลวไฟลุกในถ้วยในช้อนขณะที่กินข้าวมื้อเย็นเรียกกันว่าไฟผีสั่งตาย

มันแปลกแท้ๆ  ผู้ที่กำลังยกช้อนซดน้ำแกงกลับไม่เห็นแสงไฟ  แต่ผู้คนนั่งร่วมวงขันโตกเห็นไฟลุกในถ้วย ในช้อนแกงที่เขากำลังซดน้ำแกงเข้าปาก  ???????????

ไอ้หนุ่มลูกมือช่างก่อสร้างเป็นคนรักลูกรักเมีย แต่บางครั้งไอ้หนุ่มก็ต้องปลีกตัวไปกับเพื่อนๆช่างก่อสร้างเพราะชอบร้องเพลงตามร้านคาราโอเกะ ราวกลางปี  พ.ศ.  2549  เพิ่งผ่านมานี้เองไอ้หนุ่มที่เพื่อนๆเรียกชื่อเล่นมันว่า "ทู"ไปรับจ้างรื้อบ้านเก่าซึ่งเจ้าของเดิมไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ แต่มีเพียงไม้ไขว้กันเป็นเครื่องหมายไว้บนบ้าน

ไอ้หนุ่มทูมันไม่กลัวเกรงผีสางอะไรทั้งสิ้น  มันบอกว่า  " มันเป็นคนต้องดีกว่าผี  เพราะหากไม่มีบุญมันก็ไม่ได้เกิดมาเป็นคน"   ด้วยความเชื่อในความเป็นคนดีกว่าผี  ไอ้ทูจึงเป็นคนแรกที่ขึ้นไปรื้อหลังคาบ้านลงก่อนใคร ส่วนเพื่อนสะหล่า(ช่าง)คนอื่นๆก็ช่วยกันแกะไม้ฝาเก่ากว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาเป็นสองวัน  หัวหน้าสะหล่าสั่งให้คนงานพร้อมไอ้ทูช่วยกันคัดไม้ไว้เป็นกองๆ  ไม้กระดานรวมกันไว้ที่หนึ่ง  เสาก็เอาไว้อีกที่หนึ่ง  บานหน้าต่างประตูต้องแยกไว้ต่างหากเพื่อง่ายแก่การขนย้าย  ส่วนไม้ไขว้เครื่องหมายศาสนาไอ้ทูมันแกะออกเป็นชิ้นแยกออกจากกันมิให้หลงเหลือสัญญลักษณ์เพราะมิให้เป็นการลบหลู่

เมื่อรื้อบ้านเก่าเสร็จก็เวลาพลบค่ำเข้าไต้เข้าไฟ  หัวหน้าสะหล่า(ช่าง)ก็เห็นใจลูกน้องจึงสั่งกับแกล้มเหล้ายาปลาปิ้งพร้อมมูลมาให้ลูกน้องดื่มกินเป็นสินน้ำใจ  ในข่วง(ลาน)บ้านที่รื้อนั่นเอง

ผู้คนต่างนั่งล้อมวงกินกันอย่างสนุกสนานเพราะเมื่อยเหนื่อยงานมาทั้งวัน  แต่จู่ๆไอ้จูมันอยากซดน้ำแกงที่เรียกว่า"แกงผักกาดจอ"เอาดื้อๆ  ที่จริงแกงผักกาดจอเป็นแกงผักกาดใส่ส้มจนเปรี้ยวจัดซึ่งเป็นแกงของชาวล้านนาที่นิยมกัน  ไม่ค่อยมีใครจะหีบ(ซด)น้ำแกงผักกาดจอกันมากนัก 

แต่มื้อนี้ไอ้ทูมันซดน้ำแกงผักกาดจอที่ผู้อื่นว่าเปรี้ยวจัดอย่างเอร็ดอร่อย ขณะที่มันยกช้อนแกงเข้าปากเพื่อนที่นั่งใกล้ๆเห็นเป็นเปลวไฟในช้อนลุกวู่ๆ  ต่างก็ร้องบอกว่า  "เฮ้ย..ไอ้ทูกินไฟ...ไอ้ทูกินไฟ..."แต่ตัวไอ้ทูกลับซดน้ำแกงผักกาดจออย่างหน้าตาเฉย  แถมยังบอกเพื่อนๆว่า "ลำแต๊ๆ"(อร่อยจริงๆ)  แม้หมดถ้วยไอ้ทูยังใช้ช้อนขูดเขาะถ้วยจนเปลวไฟลุกวูบวาบ

เพื่อนต่างพากันเตือนและต้องเลิกรากันกลับบ้านเร็วกว่าปกติ 

รุ่งเช้าเมียไอทูไปบอกหัวหน้าคนงานมันว่า"พี่อ้ายทูนอนหลับตาย"  หัวหน้าคนงานขนลูกรีบป่าวประกาศให้ลูกน้องทุกคนที่เคยร่วมงานกับไอ้ทูไปช่วยงานศพไอ้ทูกันทุกคนโดยเฉพาะคนงานที่เห็นเปลวไฟในถ้วยแกงและช้อนแกงของไอ้ทูที่กำลังซดน้ำแกง ต้องรีบไปขอขมาลาโทษผีสั่งไฟอย่าให้มากล้ำกรายเอาชีวิตกันอีกเลย

เหตุการณ็นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม  2549  ต่างเป็นเรื่องเล่านขานเตือนสติในหมู่ช่างชาวบ้านที่รับจ้างรื้อบ้านเก่าเอาไม้เรือนเก่าไปขาย.....

ไฟผีสั่งตายก็จบเพียงเท่านี้...เต้าอี้ก่อนและนายเฮย

หมายเลขบันทึก: 224175เขียนเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2008 20:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 เมษายน 2012 03:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • ทุกศาสนามีความเชื่อ แม้จะทำการอันใดต้องมีพิธีขอขมาลาโทษซะก่อน ยิ่งบ้านเรือนไม้เก่ามีผีบ้านผีเรือนปกป้องคุ้มครองเจ้าบ้าน..คงต้องศึกษาประเพณีท้องถิ่นนั้นๆให้ดี
  • ลุงหนานเจ้า...ครูแอนอยากยกตัวอย่าง..ความเชื่อเมืองเหนือ ที่หมู่บ้านเมืองแปง(อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน)ที่ครูแอนมาสอนนี่แหล่ะค่ะ ว่า...
  • เกี่ยวกับเห็ด หากจะมีการนำเห็ดมาให้กัน หรือจะไปกินแกงเห็ดที่บ้านใคร ก็จะต้องให้เงินซื้อเคล็ด สักบาท เพื่อมิให้ชังกัน
  • ก็มีจริงๆค่ะ ครูแอนแปลกใจมาก เป็นความบังเอิญหรือไม่ ก็ไม่ทราบ เพื่อนครูไปกินแกงเห็ดที่บ้านชาวบ้านเมื่อก่อนสนิทคุ้นเคย
  • แต่เดี๋ยวนี้ไม่คิดอยากไปหาสู่อีกเลย...เค้าบอกว่าเพราะไม่ซื้อเคล็ด
  • น่าคิดเหมือนกันน่ะค่ะ
  • ยิ๋นดีเจ้าลุงหนาน

 

เจริญพร ลุงหนาน และ ครูแอน

เรืองของคุณโยมทั้ง 2 เป็นเรืองที่น่าสนใจ

และเป็นควา่มรู้เกี่่ยวกับประเพณีความเชื่อของคน

นับว่าเป็นวัฒนธรรมที่ดีของสังคม

เจริญพร

กราบนมัสการท่านพระครู และไหว้สามายังครูแอน

ขอบคุณที่เข้ามาให้ความสนใจครับ..

ผมกำลังศึกษาเรื่องความเชื่ออยู่ตลอดเวลาครับจึงพยายามหาข้อมูลอยู่เสมอ

ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนครับ...

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา

ผีสะป๊ะผียังบะเต้าผีตี้มันอยู่ในใจคน ผีกิเลสมันสิงในใจคนมันเอาออกบ่ไค่ไดนาเจ้า

สวัสดีครูตุ๊เจ้า....

กว่าจะมาตอบก็เลยเวลาหลายเดือน...

ยินดีที่เข้ามาอ่านและหื้อข้อคิดดีๆครับ..

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท