ความผูกพัน..เหนือสิ่งอื่นใด


ผูกพัน..จิตวิญญาณ

ช่วงนี้มีผู้ป่วยรายหนึ่งอายุไม่มากประมาณ40เข้ามารับการรักษาด้วยภาวะเจ็บป่วยหลายโรคตั้งแต่มะเร็งรังไข่ระยะลุกลาม ติดเชื้อในกระดูกขา เบาหวาน โรคหัวใจชนิดหนึ่งชื่อภาษาญี่ปุ่น(เรียกชื่อยาก) มีอาการสับสนเรื่องเวลา สถานที่ พูดคุยสับสน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ต้องระดมแพทย์หลายสาขามาช่วยกันให้การรักษาดูแล  เข้าออกICU 2 ครั้ง สุดท้ายอาการดีขึ้นกลับมาที่หอผู้ป่วยสามัญเดิม ผู้ป่วยมีลูกสาว1คนและมีหลานเล็กๆประมาณ 3 ขวบ 1 คน ช่วงที่อยู่ที่ward  ผู้ป่วยมีความกังวล..เป็นห่วงลูกสาวและหลานสาวมาก เรียกหาบ่อยครั้ง  แต่ด้วยความที่ลูกสาวก็ต้องทำมาหากิน ไม่ค่อยได้แวะมาเยี่ยม แต่ด้วยความช่วยเหลือของหน่วยสิทธิประโยชน์ติดตามลูกและหลานให้มาเยี่ยม และให้ค่าครองชีพ  ระยะหลังลูกสาวกับหลานสาวจึงมาเฝ้าอยู่เป็นช่วงๆ.....มีอยู่วันหนึ่ง ผู้ป่วยเรียกหาหลานสาวตลอดเวลา ไม่ยอมหลับ  ยังไงๆ ก็ไม่นอน..........

พยาบาลจึงให้หลานสาวมานอนบนเตียงเดียวกับผู้ป่วย...เกิดอะไรขึ้นรู้ใหม..ผู้ป่วยนอนเคียงข้างหลาน หลับสนิทด้วยความสดชื่นจนถึงเช้า.....ส่วนลูกสาวผู้ป่วย...นู่นนอนอยู่ท้ายward...

พวกเราคุยกันว่า นี่ไงล่ะความผูกพันสูงสุดเหนือสิ่งอื่นใดของผู้ป่วย คือหลานสาวคนนี้ นี้คือแหล่งกำลังใจและความหมายของการมีชีวิตของผู้ป่วย ผู้ป่วยไม่ห่วงใยตนเอง แต่จิตใจจดจ่อและผูกพันกับหลานคนนี้มากนัก เมื่อพบแล้วก็มีความสุขใจ ปลอดโปร่ง ไม่กังวล  ดังนั้นถ้าผู้ดูแล เข้าใจ เข้าถึงและให้การตอบสนองในสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการก็จะเป็นการดูแลที่เข้าถึงจิตวิญญาณของผู้ป่วยนั่นเอง ...

จริงอยู่โรงพยาบาลมีระเบียบการเยี่ยม ระเบียบการเฝ้า แต่ระเบียบดังกล่าวต้องมีข้อยกเว้นและยืดหยุ่นด้วย ภาพอาจจะไม่สวยงามนักเมื่อเด็กตัวเล็กนอนกับผู้ป่วยผู้ใหญ่  เราก็ไม่รู้ว่าใครจะคิดอย่างไร เพราะทีมสุขภาพบางท่านไม่ชอบให้ญาติผู้ป่วยมายุ่มย่าม ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน และเราก็จะถูกต่อว่าจากหอผู้ป่วยอื่นอยู่เนืองๆว่า ชั้น8ทำให้ผู้ป่วยเสียนิสัยเพราะตามใจญาติ  แต่พวกเราก็คิดว่าในเมื่อทำแล้วผู้ป่วยเป็นสุข.ถึงแม้ward จะไม่โล่งสบายตาแต่เมื่อผู้ป่วยเป็นสุขเราก็เข้าใจและยอมรับ....

การค้นหาความต้องการด้านจิตวิญญาณเช่นนี้มีความสำคัญมากในการให้การดูแลผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้ป่วยเรื้อรังและผู้ป่วยระยะสุดท้าย มีตัวอย่างอีกมากในด้านความผูกพันของผู้ป่วยกับบางสิ่งบางอย่าง และเมื่อเราเปิดใจค้นหาก็ไม่ยากที่จะเจอและให้การตอบสนอง....

หมายเลขบันทึก: 223958เขียนเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2008 21:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

เย้ๆๆๆๆๆ หวัดดีค่ะพี่ติ๊ก จำหนูได้ไหมคะ พี่สบายดีหรอค่ะ คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ

จำได้แม่นจ้าหนูพรคนสวย พี่สบายดี ดีใจจังที่เจออย่างน้อยทางนี้ก็ดี มีคนทางทสธ ถามถึงแน่ะ congratได้ยังอ่ะ

  • ตามมาอ่านเรื่องราวดีๆ
  • และมาให่กำลังใจครับ
  • เขียนอีกนะครับ

การแหกกฎบางครั้งก็ทำให้เราพบกับสิ่งดีๆได้หลายเรื่องนะครับ

ชอบการแหกกฎครับ

มาเย้...ดีใจเหมือนน้อง Paula ด้วยคนค่ะ คิดถึงพี่ติ๊กมากๆ กลับมาด้วยบันทึกที่น่าชื่นใจจริงๆค่ะ เรื่องแบบนี้ถ้ายิ่งเผยแพร่ ก็จะยิ่งทำให้คน "คิด" มากขึ้นนะคะ การรักษาพยาบาลถ้าเริ่มที่ "จิตใจ" ทั้งของผู้ป่วยและคนรักษา อาการของโรคก็ได้รับการบรรเทาไปกว่าครึ่งแล้วล่ะค่ะ ใครๆก็รู้ว่า "ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว" แต่ตัวอย่างที่เห็นชัดๆแบบที่พี่ติ๊กเล่านี่แหละค่ะ ที่จะเป็นเครื่องยืนยันและเป็นแรงส่งให้เรา "คิดถึง" และ "ลงมือทำ" ได้จริงๆกันมากขึ้น ขอบคุณและจะคอยติดตามอ่านเรื่องอื่นๆต่อไปนะคะ พี่ติ๊ก

อยากให้ทุกคนเข้าใจถึงความรู้สึกอย่างนี้บ้าง

การที่ยอมในบางเรื่อง..ถือเป็นการได้ทำบุญอย่างใหญ่หลวง

จะเป็นไรไป..ยอมเพื่อจิตวิญญาณของอีกคนพบความสุขอย่างมากมาย

ชื่นชมน้ำใจงามของผู้ยอมนะคะ

  • สวัสดีค่ะ
  • ดีใจจังเลยค่ะ ได้อ่านเรื่องราวดีๆ
  • บางครั้ง บางคราว กฏก็ต้องมีข้อยกเว้น เมื่อมีเหตุอันสมควรและจำเป็นค่ะ  ดีใจค่ะ  ที่มองคนไข้ลึกๆๆ และคนไข้มีโอกาสที่ได้รับสิ่งที่ดีๆ ค่ะ
  • เมื่อประมาณปลายเดือนที่ผ่านมาค่ะ หลานสาวดิฉันไปพบหมอที่มอ. เพราะตาบวมมาหลายวันแล้ว ไม่ดีขึ้น  วันแรกที่ไปคิวเต็ม หมอไม่รับตรวจอีกแล้ว ไม่เป็นไร เค้าไปวันที่สองแต่เช้าตรู่ คนจัดคิวก็บอกว่า นัดเต็มหมดแล้ว ไม่รับตรวจอีกตามเคย ดิฉันแนะนำให้ไปที่ห้องฉุกเฉิน ขออนุญาตตรวจ เพราะเป็นห่วงหลาน กลัวเป็นตัวจี๊ดแล้วรักษาไม่ทัน ที่ฉุกเฉินส่งไปที่คลีนิคเด็ก คุณหมอตรวจแล้ว แต่สรุปอะไรยังไม่ได้ ส่งไปที่คลีนิคตา ๆ ตา เจ้าหน้าที่บอกว่า คิวเต็มหากจองคิวต้องรอ 3 เดือน ให้คุณแม่มาจองคิวนัดตรวจใหม่พรุ่งนี้ กลายเป็นวันที่ 3 ดิฉันไม่ยอม โทร.ไป complain ในจุดที่เกี่ยวข้อง หลานถึงได้ตรวจค่ะ
  • เมื่อคุณหมอตาตรวจ ก็บอกว่า " พร้อมไหมต้องผ่าตัดน้ำในผนังตาออก" เด็กล้ามา2-3 วันแล้ว และต้องวางยาสลบด้วย เค้างอแงไม่พร้อม คุณหมอเลยบอกให้กลับไปประคบไข่ต้มอุ่นๆ ไว้ หากไม่ยุบก็ต้องกลับมาผ่า  มันอันตรายมากค่ะ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที 
  • เจ้าหน้าที่ต้องทำตามระเบียบ แต่ก็ต้องหันมาดูความจำเป็นสักนิด ก็ช่วยให้คนไข้รอดได้ ไม่อยู่ในภาวะวิกฤติ เพียงเพราะการละเลย
  • แต่ก็เห็นใจคุณหมอและพยาบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของ มอ.นะคะ  คนไข้ล้านแปดเลยค่ะ ในแต่ละวัน ต้องเหนื่อยและอดทนกันมากๆ เลยค่ะ 

♥.·° ♥ สวัสดีค่ะ

แวะมาทักทาย และเป็นกำลังใจให้ค่ะ ♥.·° ♥

ขอบคุณทุกความเห็น ปกติไม่ค่อยได้มาเขียน แต่เมื่อเข้ามาทีไรก็รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้รับการต้อนรับและโอบอุ้มจากชาวGTK ปิติค่ะ

-กำลังใจสำคัญกับผู้ป่วยจริงๆค่ะ

-ขอบคุณ สำหรับ เรื่องราวดีๆ ที่นำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

  • คุณหมอ น้ำใจงดงามจริงๆค่ะ
  • ขอยกย่อง ด้วยใจจริงค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท