...
เป็นที่ทราบกันดีว่า คนเรามีเสน่ห์ได้ด้วยบุญเก่า (เมตตาหรือบุญที่ทำด้วยความไม่โกรธทำให้รูปงาม) การแต่งกายดี แต่งพอดี และที่สำคัญคือ บุคลิกภาพผสมผสานกัน ดังคำกล่าวของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรีที่ว่า "ความงามคือความพอดี"
ท่านอาจารย์เกริกบุระ ยมนาค & พรสรัญ รุ่งเจริญกิจกุลตีพิมพ์เรื่อง "ทำอย่างให้ให้เป็นคนมีเสน่ห์น่าประทับใจ (ตอนที่ 2)" ในนิตยสาร "Gourmet & Cuisine กูรเมท์ แอนด์ ควีซีน (www.gourmetthai.com)" ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟัง บทความตอนนี้เป็นตอนที่ 2 ต่อจากตอนที่ 1 ครับ
...
ภาพประกอบจากวิกิพีเดีย > [ Wikipedia ]
...
คนบางคนน่าคบ น่านับถือ คู่ควรต่อการให้ความไว้วางใจจากคนรอบข้าง... คนเหล่านี้มีอะไรดี ท่านอาจารย์เกริกบุระและพรสรัญกล่าวว่า สูตรทางจิตวิทยาที่ทำให้คนเราน่าคบหรือมีเสน่ห์ได้แก่ สูตร 'A-I-R (แอร์)'
นิตยสารฉบับเดือนตุลาคม 2551 ท่านแสดง 'A' ตัวแรกไว้ 7 ประการแล้ว นิตยสารฉบับเดือนพฤศจิกายน 2551 แสดง 'I' และ 'R' ต่อ ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
...
'I' คือ 'Interde pendence (อินเทอร์ดีเพนเดนซ์ = พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน = ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน)' ซึ่งเรื่องนี้ท่านอาจารย์สตีเฟน โคเวย์ได้กล่าวไว้ว่า คนเรามีพัฒนาการสำคัญๆ 3 ขั้นตอนได้แก่
(1). dependence (ดีเพนเดนซ์ = พึ่งพาคนอื่น)
- ช่วงชีวิตที่คนเราพึ่งพาคนอื่นคือ วัยเด็กซึ่งไม่แปลกอะไร ทว่า... เมื่อโตขึ้นมาแล้ว ควรช่วยเหลือตัวเองให้ได้ ผู้ใหญ่ที่ยังพึ่งพาคนอื่นหรือไม่รู้จักโตมักจะเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ไม่รู้จักพอ และแน่นอนว่า ไม่น่าคบ
- สังคมตะวันออกมีคนที่เป็นผู้ใหญ่หัวใจเด็กมาก คือ โตแล้วก็ไม่ค่อยทำการทำงาน ขอแม่ขอพ่อเป็นประจำ หรือถ้าไม่ขอแม่ขอพ่อก็เรียกร้องอะไรๆ เอาจากสังคม เช่น เดินขบวนประท้วงไม่รู้จักจบจักสิ้น ฯลฯ เนื่องจากต้องพึ่งพิงความสุขจากการเป็น "ผู้รับ (receiving)" หรือมีความสุขจากการ "บริโภค (consumption)"
...
(2). independence (อินดีเพนเดนซ์ = ไม่พึ่งพาคนอื่น / ช่วยตัวเองได้)
- ช่วงชีวิตที่คนเราช่วยตัวเองได้คือ วัยผู้ใหญ่... ผู้ใหญ่ที่ช่วยเหลือตัวเอง เช่น มีการมีงานทำ เลี้ยงตัวเองได้ ฯลฯ เป็นคนที่มีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง
- ความสุขของคนในชั้นนี้คือ ความสุขจากการ "ไม่รับ (not receiving)"
- สังคมตะวันตก (ฝรั่ง) พัฒนาไปสู่ขั้นนี้ได้ดีกว่าสังคมตะวันออก ทว่า... การช่วยเหลือตัวเองอย่างเดียวอาจนำไปสู่สภาพ "ตัวใครตัวมัน" ทุกคนต้องแข่งขันแก่งแย่งกัน ทำให้เกิดอาการเครียด เหงา ว้าเหว่ หรือซึมเศร้าได้ง่าย
...
(3). interdependence (อินเทอร์ดีเพนเดนซ์ = ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน / พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน)
- เมื่อคนเราโตเป็นผู้ใหญ่ ช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่อยู่แบบตัวใครตัวมัน หันมาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เกิดเป็นชุมชน "คนทำดี" ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสังคมออนไลน์ เช่น gotoknow ฯลฯ หรือสังคมออฟไลน์ (สังคมนอกอินเตอร์เน็ตในชีวิตจริง) จะเกิดการสานต่อความดีอย่างกว้างขวาง ทำให้สมาชิกชุมชน "คนทำดี" เกิดความสุขจากการทำดี เช่น การแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร ความรู้ความเข้าใจ ฯลฯ ร่วมกัน
- ความสุขของคนในชั้นนี้คือ ความสุขจากการแบ่งปัน (sharing) และทำความดีร่วมกัน (doing good together) ทำให้เป็นคนไม่เหงาง่าย ไม่เครียดง่าย และไม่ซึมเศร้าง่าย
...
ภาพประกอบจากวิกิพีเดีย > [ Wikipedia ]
...
อาจารย์พรสรัญและอาจารย์เกริกบุระแนะนำวิธีทำข้อ "ไอ (I)" ให้ดีได้แก่
(1). ยอมรับความเห็นของผู้อื่น
...
(2). ทำให้คนอื่นดูดี
- การทำให้คนอื่นดูดีทำได้โดยการกล่าวชมความคิด ผลงาน หรือความสำเร็จของคนอื่นทั้งต่อหน้าและลับหลัง
- และอย่าลืมแสดงความกตัญญูรู้คุณเมื่อคนอื่นช่วยเหลือด้วยการกล่าวคำขอบคุณ ขอบใจ และตอบแทนความดีผู้มีอุปการคุณทั้งต่อหน้าและลับหลัง
...
(3). แลกเปลี่ยนอย่างพอดี
...
(4). ไม่พิพากษา
- ถึงแม้การได้พิพากษาคนอื่นว่า เลว ชั่ว ช้า หรืออะไรอีกสารพัดจะเป็นของที่น่าสะใจ ทว่า... ถ้าหลีกเลี่ยงการพิพากษาคนอื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้โอกาส ไม่ทำให้คนที่พลาดพลั้งกลายเป็น "หมาจนตรอก" มักจะช่วยให้มิตรภาพยั่งยืนขึ้นได้
- คำกล่าวที่ว่า "ไม้ล้มอย่าข้าม" ยังคงใช้การได้ดีเสมอ
...
(5). แสดงออก
...
...
- และอย่าลืมว่า ถ้าเราทำอะไรพลาดพลั้งไป... ก็ต้องกล้าพอที่จะขอโทษ ขออภัย ขอขมา หรือถอนคำพูดที่ผิดพลาด เพื่อรักษามิตรภาพดีๆ ไว้ให้นาน
- ครูภาษาไทยของผู้เขียนสอนไว้ว่า คนไทยชอบคนที่พูดคำว่า "ขอบคุณ ขอบใจ ขอโทษ" เป็น เรื่องนี้ยังคงใช้ได้ดีเสมอ
...
- การขอโทษนั้น... ถ้าขอโทษหลายๆ ครั้งได้ก็จะเป็นการดี เนื่องจากจะเป็นเครื่องแสดงให้คนรอบข้างรับรู้ว่า เราสำนึกผิดจริงๆ
- เมื่อทำอะไรผิดพลาดควรกล้าที่จะขอโทษ และแสดงความมุ่งมั่นออกมาว่า เราจะไม่ทำผิดเช่นนั้นอีก หรือทำความดีชดเชยให้ (บาลี = ทัณฑกรรม) เช่น ถ้าเราทำพื้นสกปรก... แม้เราจะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในหน่วยงานก็ไม่ควรนิ่งดูดาย ควร "ลงไม้ลงมือ" เช็ดถูทำความสะอาดพื้นเสียหน่อย แบบนี้จะ "ได้ใจ (ชนะใจ)" คนรอบข้างเพียบเลย ฯลฯ
...
ภาพประกอบจากวิกิพีเดีย > [ Wikipedia ]
...
ต่อไปเป็นตัว "อาร์ (R)" คือ "แรพพอร์ท (Rapport)" หรือไมตรีจิต ส่วนนี้จะมีทั้งส่วนของอาจารย์ทั้งสองและส่วนที่ผู้เขียนเสริมเข้าไปปนกันได้แก่
(1). แสวงหาจุดร่วม
...
...
(2). สงวนจุดต่าง
-
ควรสังเกตสังกาว่า คนอื่นหรือคนชอบข้างไม่ชอบอะไร แล้ว "สงวนจุดต่าง" ไม่พูดพล่ามแต่เรื่องที่คนอื่นไม่ชอบ
-
ตัวอย่างหนึ่งคือ เรื่องหมากับแมว... คนที่ชอบน้องหมา ส่วนใหญ่จะไม่ชอบแมว ตรงกันข้ามคนที่ชอบน้องแมว ส่วนใหญ่จะไม่ชอบน้องหมา ที่ชอบทั้งสองอย่างนั้นหาได้ยากหน่อย เวลาจะพูดกับใครก็ควรสนใจว่า คนอื่นชอบหมาหรือชอบแมว จะเข้าหาได้ถูกลู่ถูกทาง
...
(3). หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน
- ช่วงเวลาที่คนรอบข้างขมขื่น หรือกำลังโกรธจัดเป็นเวลาที่ควรรับฟัง และหลีกเลี่ยงการใช้เหตุผลไว้ก่อน เนื่องจากช่วงนี้คนอื่นกำลังต้องการระบาย "ความรู้สึก" ไม่ใช่ต้องการ "ความรู้" จึงไม่ควรรีบร้อนสอดแทรกเหตุผลสวนเข้าไปทันที
...
- เมื่อคนรอบข้างเย็นลงแล้ว... ถึงเวลานั้นการใช้เหตุผลได้ เรื่องนี้อาจารย์กังฟูกล่าวไว้ว่า "หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน" หรือโบราณกล่าวไว้ว่า "น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง"
- ห้างสรรพสินค้าในญี่ปุ่นแห่งหนึ่งเคยจ้างคนหูหนวกไว้รับฟังข้อเรียกร้อง ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร ทว่า... ได้ใจ (ชนะใจ) ลูกค้าเพียบเลย เนื่องจากลูกค้าได้ระบายอะไรๆ ออกไป และคนหูหนวกก็ไม่เดือดร้อนอะไรด้วย
...
- ถึงแม้ทุกวันนี้จะไม่มีใครจ้างคนหูหนวกมารับฟังอะไรกันอีกแล้ว ทว่า... การทำตัวเป็นคน "ลมเพลมพัด" ปล่อยให้เรื่องบางเรื่องผ่านไปเสียบ้างก็ยังดีกว่าการนำตัวไปขวางน้ำ (อารมณ์) ที่กำลังร้อนแรง
...
(4). ช่วยเหลืออย่างพอดี
...
...
(5). ปฏิเสธให้เป็น
...
(6). นอนให้พอ
- การศึกษาที่ทำในทหารผ่านศึกสงครามอิรัก-อาฟกานิสถานพบว่า คนที่นอนไม่พอมีความเสี่ยง (โอกาสเป็นโรค) ซึมเศร้า เครียด หรือฆ่าตัวตายสูงขึ้น จึงควรนอนให้พอเป็นประจำ เพื่อหลีกเลี่ยงความเป็นคนเจ้าอารมณ์ ซึ่งทำให้เป็นคนไม่น่ารัก (ผู้เขียนมีข้อเสียตรงนี้มากเป็นพิเศษ คือ ถ้านอนไม่พอก็จะหงุดหงิดง่าย)
...
ภาพประกอบจากวิกิพีเดีย > [ Wikipedia ]
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีบุคลิกดี (เป็นน่าคบ น่ารัก ฯลฯ) ไปนานๆ ครับ
...
ขอแนะนำ
ที่มา
- ขอขอบพระคุณ > ท่านอาจารย์เกริกบุระ ยมนาค & พรสรัญ รุ่งเจริญกิจกุล > ทำอย่างให้ให้เป็นคนมีเสน่ห์น่าประทับใจ (ตอนที่ 2) > Gourmet & Cuisine กูรเมท์ แอนด์ ควีซีน (www.gourmetthai.com) > Issue 100. November' 08. หน้า 198.
- นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง > 18 พฤศจิกายน 2551.
...