หนูจ๋า อย่าโกหก


ดิฉันคิดว่าชื่อเสียงซื้อไม่ได้

9-11-51

เดือนนี้ดิฉันไปทำงานที่กฟผ.วันอังคารและศุกร์เช้าเหมือนเคยค่ะ

สัปดาห์ก่อนๆมีน้องหนูผุ้ชายอายุประมาณ 16 มาตรวจ

และถามหมอเรื่อง hyperventilation syndrome   อันตรายใหมหมอ

ดิฉันตอบไม่เป็นไรมาก   เดี๋ยวก็หาย

เธอถามต่อว่าถ้าลองทำจะเป็นไรไหม

ดิฉันถามว่าจะทำไปทำไมคะ?

เธอตอบว่าจะทำเพือไม่ต้องฝึก รด.

ดิฉันบอกว่าไม่เป็นไรแต่อย่าหัดทำ    เราสามารถหลอกคนทุกคนได้บางครั้งแต่จะไม่สามารถหลอกคนบางคนได้ทุกครั้ง 

ทำให้เป็นนิสัยไม่ดีติดตัว

เราอาจเผลอ ไม่ตั้งใจ

ถ้าเป็นเรื่องสำคัญอาจจะเสียหายมาก

ลูกน้องบางคนชอบอ้างชื่อนายไปหลอกคนอื่นๆ      ต่อไปอะไรพูดจริงอะไรพูดโกหกจะไม่มีคนเชื่อถือ

เราจะเสียภาพลักษณ์ไปตลอดชีวิต

ดิฉันคิดว่าชื่อเสียงซื้อไม่ได้  

(  Hyperventilation syndrome เป็นอาการที่คนเครียด  หายใจแรงๆทำให้CO2ออกมามาก   มีอาการมือจะงอ   หายใจแรง   การรักษาเพียงแต่ใช้maskมาปิดที่จมูกซักระยะก็จะหาย)

 

 ขอนำผลกรรมของการโกหกมาให้อ่านเล่นๆ ค่ะ

ส่วนตัวดิฉันเองจะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดค่ะ

ผลกรรมของการโกหก

 เนื้อความ :

 

ผลกรรมของการโกหกเป็นอย่างไรบ้าง  บาปแค่ไหน ช่วยบอกทีคะ

 

 จากคุณ : คนโกหกเก่ง [ 19 ส.ค. 2543 / 00:24:20 น. ]
     [ IP Address : 203.149.26.67 ]

 

 ความคิดเห็นที่ 1 : (คนหาแก่นธรรม)

 

ผลที่ผมอ่านแล้วตกใจอย่างมาก และไม่คิดจะโกหกอีกเลยคือพุทธวจนะที่ว่า.....
"ผู้กล่าวคำเท็จอยู่ จะไม่ทำความผิดอื่น เป็นไม่มี"

เห็นแล้วหนาวเลยครับ คิดย้อนกลับมามองตนเองแล้ว เห็นว่า ถ้าขืนยังไม่ละการโกหก คงหมดหวังที่จะละความชั่วอื่นๆที่มีในตนได้ครับ เลยรีบตั้งใจจะไม่โกหกอีกเลยนับแต่นั้นมาครับ

 

 จากคุณ : คนหาแก่นธรรม [ 19 ส.ค. 2543 / 01:14:12 น. ]
     [ IP Address : 202.183.248.235 ]

 

 

 ความคิดเห็นที่ 2 : (ดังตฤณ)

 

ผลที่เกิดขึ้นเป็นการภายนอก เห็นง่าย
คือคนเขาจะไม่เชื่อถือ
พูดอะไรไปแม้จริง ก็มีกระแสบางอย่างทำให้เขารู้สึกมัวๆ ขัดๆ
เพราะคนโกหกประจำจะดูกะล่อนๆ สัมผัสรู้สึกได้

ผลที่เกิดขึ้นเป็นการภายใน เห็นยาก แต่รู้ได้ถ้าเลิกเข้าข้างตัวเอง
คือใจจะปรุงแต่ง ฟุ้งไปในอุปาทานนานาชนิดอยู่ตลอด
หลอกคนอื่นบ่อยๆ ในที่สุดก็หลอกกระทั่งตัวเอง
ยิ่งหม่นมืดยิ่งมองไม่เห็นว่าหลอก
นึกว่าดี นึกว่าไม่เป็นไร
แต่ถ้ากลับใจเมื่อไหร่แล้วมองย้อนไป
จะขนลุกครับ

 

 จากคุณ : ดังตฤณ [ 19 ส.ค. 2543 / 09:45:40 น. ]
     [ IP Address : 203.155.33.180 ]

 

 

 ความคิดเห็นที่ 3 : (ช้าง)

 

ทำสิ่งใด ได้สิ่งนั้นครับ  บาปหรือไม่ลองคิดดู  ถ้าโกหกเพื่อหวังผลประโยชน์แก่ตนเอง  แล้วผู้ที่ถูกโกหกนั้นเป็นทุกข์   สิ่งที่กระทำนั้นก็จะย้อนกลับมาหาตัวผู้กระทำไม่วันใดก็วันหนึ่ง   คงไม่มีใครอยากให้ตัวเองถูกโกหกแล้วต้องเสียผลประโยชน์หรือเป็นทุกข์นะครับ  เพราะฉะนั้น เป็นกรรมที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง

 

 จากคุณ : ช้าง [ 19 ส.ค. 2543 / 18:58:12 น. ]
     [ IP Address : 203.147.6.230 ]

 

 

 ความคิดเห็นที่ 4 : (tchurit)

 

เคยฟังนิทานเรื่องหนึ่งครับ
   เรื่องมีอยู่ว่า
นายก.ไปพบสาวแสนสวยผู้หนึ่งในงานเลี้ยง ด้วยความต้องตาเพราะท่าทางที่น่ารักของเธอ จึงเดินเข้าไปทำความรู้จักหวังตีสนิดด้วย
"ขอโทษครับ ขอผมนั่งคุยด้วยสักครู่ได้ไหมครับ"
"อุย เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่าคะ" สาวเจ้าตอบด้วยความตกใจบวกเอียงอายนิดๆ
"เปล่าหรอกครับ แค่ผมพบคุณครั้งแรกผมรู้สึกเหมือนมีแม่เหล็กทางจิตที่ดูดผมให้เข้ามาทำความรู้จักกับคุณ"
สาวเจ้าไม่ตอบกลับหลบหน้าไปด้วยความเอียงอาย
"ดืมวายเย็นๆสักแก้วไหม่ครับ ?"
"ไม่ละคะ ผิดศีลข้อ ๕ ดิฉันไม่ดื่มน้ำเมาทุกชนิด"
"ไม่เช่นนั้น ผมของอนุญาติตักข้าวขาหมูปากซุงให้คุณทานสักจานได้ไหมครับ ?"
"อย่าเลยคะ ดิฉันเป็นมังสวิรัต ไม่ทานเนื้อสัตว์ เพราะดิฉันคิดว่าการทานเนื้อสัตว์เป็นการส่งเสริมให้มีการทำร้ายชีวิตสัตว์ ดิฉันสงสานมัน ผิดศีลข้อที่ ๑ คะ"
เธอช่างดีอะไรเช่นนี้ ผู้หญิงเช่นนี้ละที่เขาปรารถนาจะได้มาเป็นคู่ชีวิต
"ถ้าคุณไม่รังเกลียด เสาร์นี้ผมอยากจะขอชวนคุณไปเที่ยวหัวหิน ผมมีบ้านพักตากอากาศอยู่ที่นั้น "
"ไม่ดีดอกคะ หญิงชายไปในที่ลับตาคนสองต่อสอง มันไม่งาม หากไม่มีสติที่ดีพอสถานการณ์มันง่ายที่จะทำให้เราต้องผิดศีลข้อ ๓"
"ผมไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น" ก.รีบปฏิเสษพร้อมกับเพิ่มความนิยมในสาวแปลกหน้าที่พึ่งรู้จัก
"คุณจะรับผมเป็นเพื่อนสักคนได้ไหมครับ" ก.พูดพรางหยิบดอกกุหลาบสีชมพูในแจกันเล็กๆบนโต๊ะอาหารยื่นให้สาวนิรนามเบื่องหน้า
"ไม่ดีดอกคะ กุหลาบดอกนี้เป็นของเจ้าของงาน ไม่ใช่ของคุณ ถ้าดิฉันรับมาก็เหมือนร่วมทำผิดกับคุณคือลักทรัพย์ มันผิดศีลข้อที่๒นะคะ"
ใช่เลย ! โดนใจฉันเลย บทกลอนที่เขียนไว้ในอดีตกลับมาปรากฏชัดในห้วงสำนึกอีกครั้งหนึ่ง
   "เหมือนรอใคร   บางคน   มาหลายหนาว
เหมือนบางคราว   เฝ้ารอใคร   ผ่านหลายฝน
ผ่านหลายร้อน   รอจนเจอ   ใครบางคน
เธอคือคน   ทำฉันเศร้า   เพราะเฝ้ารอ"
"คุณเป็นคนดีจริงๆ เท่าที่ผมเคยรู้จักมา ไม่มีศีลข้อใหนเลยหรือครับที่คุณรักษาไม่ได้ ?"
"มิได้คะ มีศีลข้อเดียวเท่านั้นที่ดิฉันไม่สามารถรักษาได้คือ ศีลข้อที่ ๔ "
"   ....!!!...."

มิน่าเล่าถึงได้พุทธวจนะที่ว่า.....
"ผู้กล่าวคำเท็จอยู่ จะไม่ทำความผิดอื่น เป็นไม่มี"



 

 จากคุณ : tchurit [ 19 ส.ค. 2543 / 19:27:53 น. ]
     [ IP Address : 203.157.42.52 ]

 

 

 ความคิดเห็นที่ 5 : (มะเหมี่ยว)

 

เกิดมาชาติหน้า อาจจะปากเหม็นได้
จะกลัวมั้ยเนี่ย :-)

 

 จากคุณ : มะเหมี่ยว [ 19 ส.ค. 2543 / 23:27:02 น. ]
     [ IP Address : 203.151.127.185 ]

 

 

 ความคิดเห็นที่ 6 : (kk)

 

เป็นเรื่องยากที่ผู้โกหกจะยอมรับว่าตัวเองโกหกด้วยการไม่โกหก
แต่ก็เป็นนิทานที่สนุกดีครับคุณ tchirit หักมุมเจ็บๆแบบนี้ผมชอบ
ทำให้เห็นว่าความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้เสมอ
(แต่มักจะเป็นตอนจบ สำหรับกรณีเรื่องสั้น และเรื่องตลก)
จะได้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท

 

 จากคุณ : kk [ 20 ส.ค. 2543 / 04:33:50 น. ]
     [ IP Address : 203.149.33.253 ]

 

 

 ความคิดเห็นที่ 7 : (พุดสวน)

 

ถ้าเราจับได้ว่าเค้าโกหก ขนาดบอกว่ารู้นะว่าพูดไม่จริง เค้าบอกว่าแต่ละคนมีเหตุผลและความคิดไม่เหมือนกันในการกระทำหนึ่งๆ อันนี้ยอมรับว่าต่างกันได้ไม่แปลก แต่ก็ไม่อยากให้เค้าเป็นคนกะล่อนชอบโกหก ควรทำยังไงคะ หรือปล่อยๆเค้าไปดี จะไปนั่งเทศน์ให้ฟังคงใช่ที่ค่ะ

 

 จากคุณ : พุดสวน [ 22 ส.ค. 2543 / 16:47:08 น. ]
     [ IP Address : 202.44.231.5 ]

 

 

 ความคิดเห็นที่ 8 : (tchurit)

 

คนที่ชอบโกหกจนเป็นนิสัย อยู่ๆจะให้เขาเลิกมันยากอยู่นะ
ผมว่ายากพอๆกับตอนฝึกสมาธิใหม่ๆนะครับ ที่พยายามจะบังคับไม่ให้จิตฟุ้งไปไหนมันยาก
ถ้าเราจะเทศน์ให้เขาฟังก็ต้องพิจารณาดูว่าเขาเป็นบัวเหล่าไหน และเรามีความสามารถแค่ไหนกันที่จะไปเปลี่ยนนิสัยเขา
ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วอาจต้องมาทุกข์ใจโกรธเขาเพราะเห็นว่าเขาเป็นคนประเภท โปรดไม่ขึ้น
นิสัยคนเปลี่ยนยากครับ โดยเฉพาะคนกระล่อนชอบโกหก
ผมก็มีเพื่อนแบบนี้ครับ
ลองดูดีๆ เขาอาจมีแง่ดีอยู่บ้างนะครับ แค่เรารู้จักเขาดีจะได้ไม่เชื่อไปทุกเรื่องก็พอครับ : )

 

 จากคุณ : tchurit [ 24 ส.ค. 2543 / 08:58:45 น. ]
     [ IP Address : 203.157.42.217 ]

 

 

 ความคิดเห็นที่ 9 : (คนหาแก่นธรรม)

 

ตามมาส่งอมยิ้มกับนิทานคุณชูฤทธิ์ครับ :)

 

 จากคุณ : คนหาแก่นธรรม [ 25 ส.ค. 2543 / 01:00:32 น. ]

หมายเลขบันทึก: 221756เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2008 15:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม 2012 13:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท