จ้างเกษตรกรไปเรียน...


การพัฒนาเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่พัฒนากับสิ่งที่คนอยากได้มันตรงกันหรือเปล่า

เมื่อวานนี้ได้แวะเวียนไปใช้บริการที่โรงพยาบาลในซอยโชคชัย 4 ช่วงระหว่างนั่งรอก็เลยหยิบหนังสือพิมพ์แนวหน้าที่ตั้งไว้บริการลูกค้านั่งอ่านฆ่าเวลา (กำลังหาคำตอบว่าทำไมต้องฆ่าเวลา... ใครรู้ก็ต่อยอดด้วยครับ) เจอข่าวการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงแรงงานฯ ที่ได้จากรัฐบาลมา 1.5 พันล้านบาท... อ่านไปคิดพินิจไปใช้เวลาพอสมควร เพราะอยากรู้ถึงปลายทางสุดของงบที่ลงไปถึงประชาชนแล้วจะได้อะไรขึ้นมาบ้าง

ในรายละเอียดได้แจงมาดังนี้

  1. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ 491 ล้านบาท
  2. กรมการจัดหางาน ได้ 67.5 ล้านบาท
  3. สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคม ได้ 656 ล้านบาท

โดยมีโครงการบางส่วนที่น่าสนใจดังนี้

โครงการความปลอดภัย แรงงานภาคเกษตร ใช้งบ 27 ล้านบาท
เป้าหมาย:
- โครงการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สารเคมีและอุปกรณ์เครื่องป้องกันสารเคมี
- ฝึกเกษตรกร 10,000 คน เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับสารเคมี เครื่องมือ และการป้องกัน โดยผู้เข้าร่วมได้ค่าแรงวันละ 145/วัน

โครงการพัฒนานักบริหารบุคคลและนักสหภาพแรงงาน ใช้งบ 25 ล้านบาท
เป้าหมาย:
- เพื่ออบรมให้ความรู้กฎหมายแรงงาน แก่สหภาพแรงงาน โดยเน้นบริษัทหรือโรงงานที่มีปัญหาข้อพิพาทแรงงาน...

โครงการข้างต้นเป็นเพียงโครงการที่ออกข่าวไม่รู้ว่ามีโครงการอื่นอีกหรือไม่

นับว่าเป็นสิ่งที่ดีของการพัฒนาทั้งภาคเกษตรและภาคแรงงาน แต่การพัฒนาเหล่านี้จะสร้างคุณประโยชน์มากน้อยเพียงใด

และอยากรู้เหมือนกันว่าเกษตรกรที่เข้าร่วมอยากได้ความรู้หรืออยากได้วันละ 145 บาท เงินจำนวนนี้อาจจะไม่มากถ้าคิดเป็นค่าแรงต่อวัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นกลยุทธ์เพื่อดึงคนเข้าร่วม ทำให้คิดต่อไปอีกว่า เดี๋ยวนี้ บ้านนี้เมืองนี้ จะให้ความรู้ก็ต้องใช้เงินจ้างกันเลยหรือ...

อีกทั้งโครงการต่าง ๆ ก็ไม่แน่ใจว่าผู้ที่เข้ารับการพัฒนาต้องการหรือไม่ เพราะบางทีคนที่อยู่ในภาคเกษตรอาจจะรู้เรื่องสิ่งที่จะพูดดีกว่า และมีวิธีการจัดการที่ดีกว่าก็เป็นได้

ส่วนเรื่องสหภาพแรงงานนั้นไม่ต้องห่วง เพราะคนที่อยู่ตรงนั้นเขาต่อสู้มายาวนาน และรู้กฎหมายแรงงานดี แต่ปัญหาคือสู้อำนาจหลาย ๆ ด้านของนายจ้างไม่ไหวมากกว่า ถึงได้มีประท้วง นัดชุมนุมกันอย่างที่เห็น...

ผมว่าทางกระทรวงแรงงานฯ น่าจะจัด โครงการ การตระหนักรู้และรับผิดชอบต่อผู้ใช้แรงงาน โดยมีเป้าหมายให้ นายจ้างได้เข้าใจถึงสภาพการจ้างงาน และมีจิตสำนึกในการรับผิดชอบต่อลูกจ้าง เพื่อดำเนินนโยบายการบริหารโดยปราศจากการเอารัดเอาเปรียบลูกจ้าง... ว่าแต่ว่างานนี้จะมีนายจ้างสักกี่คนเข้าไปร่วมโครงการ...

เว้นเสียแต่ว่า... ภาครัฐจะให้ผลประโยชน์ล่อโดยลดภาษีรายได้ อะไรประมาณนี้ อาจจะมีคนเข้าร่วมมากมาย แต่เชื่อเถอะ... คนที่เข้าร่วมก็ไม่ใช่ผู้บริหารหรือนายจ้างอยู่ดี อย่างมากก็ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์, ฝ่ายบุคคล, ฝ่ายบัญชี หรือใครที่ไหนก็ไม่รู้ ยัด ๆ ไปให้ได้สิทธิ์เอาไว้ก่อน... นี่แหละครับ ความไม่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของนายจ้าง... (บางคน)... สวัสดีครับ

หมายเลขบันทึก: 221505เขียนเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2008 07:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

อรุณสวัสดิ์ค่ะ

  • อืมมมม  ได้ความรู้อีกแล้วค่ะ  เป็นอย่างนี้จริงๆ ค่ะ
  • ยื่นไปเพื่อใช้สิทธิ์  แล้วหาคนรับผิดชอบแบบตรงๆ ไม่ค่อยพบค่ะ
  • นายจ้าง  เขาหรือ จะมาทำเพื่อ  ผู้ใช้แรงงาน แบบจริงใจ
  • ขอบคุณนะคะ ที่ครูอ้อยคิดว่า จะมาทักทาย เลยคุยยาวเลยค่ะ

ขอให้มีความสุขในวันหยุดนะคะ

ขอบคุณครูอ้อยครับ ช่วงนี้ผมไม่ได้เข้าไปทักทายเลยครับ งานกำลังม่วนเลย...

อสม.หรือชาวบ้านมาร่วมโครงการเพื่อสุขภาพ

ยังต้องมีค่าเดินทางให้เลยคะ

มาเพื่อรับความรู้ รับการดุแลสุขภาพแท้ ๆ

  • วันหยุดแท้ ๆ ก็ยังอดเล่าเรื่องราวไม่ได้
  • นี่แหละ ชุมชนG2K ขนานแท้
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท