แม้ว่าผมจะเป็นคนที่ค่อนข้างระมัดระวังในการเสพข่าวที่ได้รับจากสื่อประเภทต่างๆในบ้านเมืองเรายามนี้ ผมก็ยังรู้สึกสับสนไม่แน่ใจในความถูกต้องของข่าวสารที่ได้รับมา
ยกตัวอย่างง่ายๆผมดูรายการของ ASTV ของ พธม. แล้วไปดูรายการความจริงวันนี้ที่ NBT เรื่องเดียวกันแท้ๆยังพูดไปคนละทางเลย ถ้าคุณยังไม่หยุดดูข่าวเพียงเท่านี้ หากเข้าไปดูที่ www.kapook.com หรือ www.sanook.com คุณก็จะได้รับข้อมูลที่แตกต่างกันออกไปอีก
แล้วเมืองไทยวันนี้เราจะไปหาความจริงได้ที่ไหนกัน เมื่อคืนนี้ (26 ตค.)เวลาประมาณ 23.00 น.เศษ ผมฟังรายการวิทยุที่คลื่น 95.0 เม็กกะเฮิร์ท มีคุณหมอท่านหนึ่งมาให้แนวคิดเกี่ยวกับการเสพข่าวในยามที่บ้านเมืองวุ่นวายขณะนี้ว่า ต้องระมัดระวังให้ดีในการที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อข่าวสารต่างๆที่ได้รับ
เพราะหากท่านเชื่อข่าวสารอย่างหนึ่งอย่างใดเพียงฝ่ายเดียวท่านอาจจะตกเป็นเหยื่อของฝ่ายที่ท่านเชื่อนั้นก็ได้ ในทางตรงกันข้ามท่านอาจจะไม่เชื่อข่าวสารของฝ่ายใดเลย เช่นผมขณะนี้ก็จะมีอาการทางจิตอ่อนๆแบบนี้คือ มีความสับสน มีความไม่แน่ใจ ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ขาดมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อคนอื่นๆ เพราะไปฟังคนอื่นๆพูดอะไรแล้ว ท่านอาจจะไปพูดขัดคอเขาเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาก็ได้
ท่านเชื่อหรือไม่ว่าความแตกแยกทางความคิดของคนไทยในวันนี้ มันแตกแยกลงลึกไปถึงความไม่แน่ใจว่าวันนี้ควรจะสวมเสื้อสีอะไร ถึงจะรู้สึกปลอดภัยดี เด็กหนุ่มนักศึกษาข้างบ้านของผม แกบอกผมว่าวันนี้ในกระเป๋าสะพายของแกจะมีเสื้ออยู่สองสี
ถ้าจะไปเดินแถวสนามหลวงที่ นปก.เขาชุมนุมกันก็จะสวมเสื้อสีแดง ถ้าเผอิญต้องไปธุระแถวทำเนียบรัฐบาลก็จะสวมเสื้อสีเหลือง
แม้กระทั่งผมวันนี้ก็ยังต้องสวมเสื้อสีชมภูเลย เมื่อก่อนเคยสวมเสื้อสีขาว วันนี้ถ้าสวมสีขาวผู้คนอาจจะเข้าใจว่าผมเป็นสมาชิกแนวร่วมพัฒนาสันติอะไรประมาณนั้น
แล้วเมืองไทยของเราวันนี้จะอยู่กันยังไงดีครับท่าน...
ไม่มีความเห็น