2008
Friday, October 24
11:13:07 PM
ผมนั่งอ่านข่าวในอ่านข่าวใน manager แล้วก็เจอข่าวเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบรวบรวมข้อเท็จจริง เหตุการณ์ที่ตำรวจใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา (http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000126388 ) เข้าพอดี และเกิดความแปลกใจ จึงคิดว่าน่าจะต้องเขียนอะไรซักหน่อย
ต้องออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นพวกโปรพันธมิตร หรือข้างรัฐบาลนะครับ ออกจะอยู่ตรงพื้นที่สีเทาที่มันจะเป็นพลังเงียบซะมากกว่า เพียงแต่ว่ามี blog กับเค้าก็ขอออกเสียงกันบ้าง
เนื้อหาในข่าวมีอยู่ว่า คณะกรรมการดังกล่าวมีหน้าที่ในการรวบรวมหลักฐาน ข้อมูล ข้อเท็จจริง เพื่อให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ในแว่บแรกที่ผมนึกถึงคนที่จะมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างน้อยน่าจะเป็นคณะกรรมการผสม ระหว่างฝ่ายตำรวจ เพื่ออำนวยความสะดวกในการรวบรวมข้อเท็จจริงในฝั่งตำรวจ และฝ่ายพลเรือนเช่นเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ , สมาคมสื่อฯ และหน่วยงานอื่นๆที่จะสามารถช่วยเหลือให้ข้อมูลหลักฐาน และข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านได้ และเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการวรวมรวมหลักฐาน เพื่อให้เชื่อถือได้ว่าหลักฐานทั้งหมดนั้นมิใช่หลักฐานเท็จที่ทางฝั่งตำรวจสร้างขึ้นเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง
คนอ่านอาจจะคิดว่าเราไม่ไว้วางใจตำรวจมากเกินไปหรือเปล่า อคติหรือเปล่า แต่ถ้ามองอย่างเป็นกลางละก็ จะเห็นได้ว่า เรื่องนี้ คู่กรณีสองฝ่ายที่ใกล้ชิดเหตุการณ์ที่สุดคือ ตำรวจ และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หากจะมีการรวบรวมหลักฐาน คนที่ทำก็ไม่น่าจะเป็นคู่กรณีแต่เป็นคนกลาง เพราะเราก็อาจเชื่อได้ว่า ถ้าคู่กรณีมามีส่วนร่วมในการรวบรวมหลักฐานย่อมมีแรงจูงใจที่จะรวบรวมหลักฐานที่เอื้อประโยชน์กับฝ่ายตนเองมากที่สุด
ทีนี้พอได้เห็นรายชื่อจริงๆก็ยิ่งตกใจ เพราะว่ามีแต่ฝั่งตำรวจเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ที่น่าชมเชยคือความกระตือรือร้นที่กำหนดให้มีรายงานผลเบื้องต้นให้ทราบภายใน 7 วัน แต่ว่าก็น่าให้กำลังใจทางกรรมการทำงานภายใต้เวลาอันจำกัดนี้ และอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเกิดคณะกรรมการชุดนี้เป็นกรรมการร่วมจากหลายฝ่ายอาจจะทำให้การทำงานและรวบรวมข้อมูลเป็นไปได้ง่่าย ทันการณ์และโปร่งใสกว่านี้
อย่างไรก็ดี ณ เวลานี้ที่คณะกรรมการยังไม่ได้เริ่มดำเนินการก็ควรจะรอดูไปก่อนว่าผลของการดำเนินการจะเป็นอย่างไร ขัดกับการรับรู้ของสังคมโดยมีหลักฐานยืนยันที่น่าเชื่อถือหรือไม่ ถ้ามองโลกในแง่ดี เราก็อาจจะหวังได้ว่า ทางคณะกรรมการจะใช้ช่องที่เปิดเอาไว้ในคำสั่งที่ว่า"...ให้มีอำนาจสั่งการและขอความร่วมมือ หน่วยงานต่างๆ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสื่อมวลชน ให้ข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการดำเนินการ และให้ประธานกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานตาม ความจำเป็น..." บ้าง และดึงการมีส่วนร่วมจากฝ่ายต่างๆมาช่วยทำให้หลักฐานข้อเท็จจริงนั้นตรงกับความจริงที่สุด
การให้ได้หลักฐานข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือมีความสำคัญมาก เพราะหากหลักฐานต่างๆนั้นไม่น่าเชื่อถือ ย่อมทำให้กระบวนการสอบสวนและผลการตัดสินจากทั้งกระบวนการไม่น่าเชื่อถือตามไปด้วย และอาจทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยได้ หากผลการสอบสวนนำไปสู่การลงโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
การได้หลักฐานข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือจะทำให้ปัญหาที่ไม่ควรจะเกิด ไม่เกิด ... และไม่ทำให้ความขัดแย้ง และความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจในสังคมขยายวงกว้างไปอีก จึงได้แต่หวังว่า คณะกรรมการดังกล่าวจะมีความจริงใจและพิสูจน์ให้เห็นว่า มีความตั้งใจที่จะทำงานด้วยความเป็นกลางเพื่อให้ผู้ต้องรับผิดชอบได้รับผิดชอบอย่างแท้จริง
แวะมาอ่าน และมาทักทาย
ขอบคุณค่ะ
มีความสุขในทุกๆวัน
มีแต่สิ่งดีๆนะคะ
สุขภาพแข็งแรง
ตั้งหน้าตั้งตารอบทสรุป.........
ด้วยใจจดจ่อ.......ว่าจะออกมาในรูปแบบใด
เป็นกำลังใจให้กรรมการทุกท่าน ....
มีพลังที่กล้าแข็ง ........ในการรักษาความเป็นกลาง อย่างเคร่งครัด
แวะมาอ่านค่ะ ขอบคุณค่ะ
พี่ชลสุดยอดเลยครับ